April 19, 2024   4:55:31 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เคพีเอ็นฯแบ็กดอร์ PRIN-ผงาดถือหุ้น31%
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 03/07/2015 @ 08:35:59
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

"ปริญสิริ" เพิ่มทุน 1.92 พันล้านหุ้น ที่ราคา 2.10 บ. ระดมเงิน 2 พันลบ.และใช้แลกหุ้น"เคพีเอ็น กรุ๊ป(KPN)" ปล่อยกลุ่ม KPN เข้าถือหุ้นใหญ่ 30.57% เตรียมขอผ่อนผันทำเทนเดอร์ฯ คาดปิดดีล ก.ย.นี้ ยันกลุ่ม "โกวิทจินดาชัย" ยังถือหุ้นอันดับ 2 เล็งรวมงบ Q4/58 ดันรายได้ทะลุ 5 พันลบ. ตั้งเป้าติด TOP10 อสังหาฯใน 3 ปี พร้อมโชว์ 4 โครงการในมือ KPN มูลค่ากว่า 9.3 พันลบ. รับรู้ถึงปี 61 ด้านโบรกฯหวั่นไดลูท 61%

**เพิ่มทุน 1.92 พันล้านหุ้น ซื้อ KPN มูลค่ากว่า 4 พันลบ.
บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ PRIN แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 3/2558เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2558 มีมติอนุมัติการเข้าทำบันทึกข้อตกลงเกี่ยวกับการโอนและรับโอนกิจการทั้งหมดกับบริษัท เคพีเอ็น โฮลดิ้ง จำกัด ( KPNH )และกลุ่มผู้ถือหุ้นของ KPNH และอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2558 เพื่อพิจารณาอนุมัติการซื้อและรับโอนกิจการทั้งหมด (Entire Business Transfer หรือ EBT หรือ การโอนกิจการทั้งหมด ) จากKPNH กล่าวคือบริษัทจะซื้อและรับโอนมาซึ่งสินทรัพย์หนี้สิทธิหน้าที่และภาระผูกพันทั้งหมดที่KPNHมีหรือพึงมี ณ วันที่รับโอนกิจการจากKPNHมายังบริษัท ในราคาซื้อขายรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 4,032 ล้านบาท
ก่อนการโอนกิจการทั้งหมด KPNH จะเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เคพีเอ็น กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น จำกัด ( KPNGC ) ในสัดส่วนร้อยละ 100 ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วของ KPNGC ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารชุดเพื่อการอยู่อาศัย
(Residential Condominium) บริษัท
โดยบริษัทจะชำระราคาค่าซื้อขายกิจการดังนี้
1.หุ้นสามัญออกใหม่ของบริษัทจำนวน 960,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ราคาเสนอขายหุ้นละ 2.10บาท รวมมูลค่าหุ้นสามัญออกใหม่ทั้งสิ้น 2,016,000,000บาท(หรืออีกนัยหนึ่งคือ KPNH จะจองซื้อหุ้นสามัญใหม่ของบริษัท โดยจะชำระเงินค่าหุ้นออกใหม่ด้วยหุ้นของ KPNGC ที่ตนถืออยู่ (Share Swap) โดยมีอัตราแลกเปลี่ยนหุ้นเท่ากับ 1 หุ้นของ KPNGC ต่อ 240หุ้นใหม่ของบริษัทเศษของหุ้นให้ปัดทิ้ง)
2.ชำระเป็นเงินสดอีกจำนวน 2,016,000,000บาท
พร้อมกันนี้คณะกรรมการอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจากจำนวน 1,220,011,755 บาท เป็นจำนวน 3,140,011,755บาทโดยการออกหุ้นสามัญใหม่ จำนวน 1,920,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในราคาเสนอขายหุ้นละ 2.10 บาท เพื่อจัดสรรดังนี้
- จำนวน 960,000,000หุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันในราคาเสนอขายหุ้นละ 2.10 บาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการชำระค่าตอบแทนในการรับโอนกิจการทั้งหมดของ KPNH ในส่วนที่ต้องชำระเป็นเงินสด โดยผู้ลงทุนสถาบันดังกล่าวต้องไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทตามประกาศรายการที่เกี่ยวโยงกัน ทั้งนี้สามารถเสนอขายในคราวเดียวกันทั้งจำนวนหรือแบ่งขายเป็นคราวๆ ก็ได้
+ - จำนวน 960,000,000 หุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่ KPNH (ซึ่งถือเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทเนื่องจาก KPNH จะส่งผู้แทนเข้าเป็นกรรมการในบริษัทอันเนื่องมาจากการทำรายการรับโอนกิจการ)ในราคาเสนอขายหุ้นละ 2.10 บาท เพื่อเป็นการตอบแทนให้กับ KPNH ซึ่งได้นำหุ้นที่ตนถืออยู่ใน KPNGC รวมมูลค่าทั้งสิ้น 2,016,000,000บาท มาชำระค่าหุ้นออกใหม่ของบริษัทแทนการชำระด้วยเงินสดอัตราแลกเปลี่ยนหุ้นเท่ากับ1 หุ้นของ KPNGC ต่อ 240 หุ้นใหม่ของบริษัทเศษของหุ้นให้ปัดทิ้ง
สินทรัพย์หลักของ KPNGC ได้แก่ ต้นทุนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้างของโครงการอสังหาริมทรัพย์ ต่างๆ จำนวน 4 โครงการ ได้แก่
1) โครงการเดอะ แคปปิตอล ราชปรารภ-วิภาฯ
2) โครงการ เดอะ แคปปิตอล เอกมัย-ทองหล่อ
3)โครงการ เดอะ ดิโพลแมท สาทร
4) โครงการ เดอะ ดิโพลแมท 39

**ขอ Whitewash ผ่อนผันทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์
ทั้งนี้ การรับโอนกิจการทั้งหมดดังกล่าวจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเงื่อนไขบังคับก่อน (Conditions of Precedent) ตามที่ระบุไว้ในบันทึกข้อตกลงและสัญญาโอนกิจการทั้งหมดได้ดำเนินการเสร็จสมบูรณ์ครบถ้วนโดยเงื่อนไขบังคับ ก่อนที่สำคัญมีดังต่อไปนี้
1.ที่ประชุมคณะกรรมการและที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทมีมติอนุมัติการซื้อและรับโอนกิจการทั้งหมดจาก KPNH รวมทั้ง อนุมัติเรื่องต่างๆ ที่จำเป็นและ/หรือเกี่ยวข้องกับการโอนกิจการทั้งหมด
2.ที่ประชุมคณะกรรมการและที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทมีมติอนุมัติการเพิ่มทุนและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทให้แก่ KPNH จำนวน 960,000,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 2.10บาทเพื่อใช้ชำระค่าตอบแทนการโอนกิจการทั้งหมดบางส่วน
3.ที่ประชุมคณะกรรมการและที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทมีมติอนุมัติแต่งตั้งผู้แทนจาก KPNH เป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัทเพิ่มเติม จำนวน 2 ท่าน ได้แก่ นายกฤษณ์ ณรงค์เดช และ นายณัฐวุฒิ เภาโบรมย์
4.ที่ประชุมคณะกรรมการและที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทมีมติอนุมัติการขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการโดยอาศัยมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น ( Whitewash ) โดยหลังจาก KPNH ได้รับการจัดสรรและดำเนินการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทแล้ว KPNH จะมีสัดส่วนการถือหุ้นเท่ากับ ร้อยละ 30.57ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้ว จึงมีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท (Tender Offer)
5.สำนักงานก.ล.ต. ได้อนุมัติและให้ความเห็นชอบแก่กลุ่มผู้ถือหุ้น KPNH ในการยกเว้นไม่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทอันเนื่องมาจากการที่ KPNH ทำการชำระบัญชีและโอนหุ้นในบริษัทให้แก่กลุ่มผู้ถือหุ้น KPNH
6.PRIN และ KPNH พอใจในผลการตรวจสอบข้อมูลและสถานะต่างๆ ของ อีกฝ่ายหนึ่ง (Due Diligence) ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องกฎหมาย บัญชี การเงิน และอื่นๆ
7.ที่ประชุมคณะกรรมการและที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ KPNH มีมติอนุมัติให้ KPNH เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดใน KPNGC และ KPNH ได้เข้าซื้อหุ้นใน KPNGC โดยถูกต้องครบถ้วนแล้ว โดยหุ้นของ KPNGC ที่ถือโดย KPNHจะต้องปราศจากภาระผูกพันใดๆ
8.ที่ประชุมคณะกรรมการและที่ประชุมผู้ถือหุ้นของKPNHมีมติอนุมัติให้โอนขายกิจการทั้งหมดของ KPNH ภายหลังจากการเข้าซื้อและรับโอนหุ้นใน KPNGC ข้างต้นให้แก่บริษัทภายใต้เงื่อนไขของบันทึกข้อตกลงและสัญญาโอนกิจการทั้งหมด
9.คู่สัญญาได้เข้าทำสัญญาโอนกิจการทั้งหมด รวมทั้ง เงื่อนไขบังคับก่อนต่างๆ ที่ระบุไว้ในสัญญาโอนกิจการทั้งหมดได้มีการปฏิบัติโดยครบถ้วนถูกต้อง(เว้นแต่มีการยกเลิกหรือสละสิทธิโดยคู่สัญญาที่มีอำนาจ)
10. บริษัทและ KPNH ได้รับความยินยอมและการอนุมัติจากบุคคลต่างๆ รวมถึงหน่วยงานราชการทั้งหลายทั้งปวงที่จำเป็นต้องได้รับเพื่อการขาย/โอนและซื้อ/รับโอนกิจการทั้งหมด
ในการเข้าทำรายการรับโอนกิจการทั้งหมดจาก KPNH ข้างต้น บริษัทมีหน้าที่ต้องเปิดเผยสารสนเทศการเข้าทำรายการต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ และจะต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นด้วยคะแนนเสียงไม่ต่ำกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นหรือผู้รับมอบฉันทะของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน โดยไม่นับรวมส่วนของผู้ถือหุ้นที่มีส่วนได้เสีย(ซึ่งรายการดังกล่าวไม่มีผู้ถือหุ้นรายใดที่มีส่วนได้เสีย) โดยบริษัทได้แต่งตั้งบริษัทแคปปิตอล แอ๊ดแวนเทจเป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเพื่อแสดงความเห็นต่อการเข้าทำรายการดังกล่าวต่อผู้ถือหุ้นของบริษัทรวมทั้งแสดงความเห็นเรื่องการขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการโดยอาศัยมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น (Whitewash)
อนุมัติให้กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2558 ในวันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม 2558 เวลา 13.30น. ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ กรุงเทพ โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุม (Record Date) ในวันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม 2558 และให้รวบรวมรายชื่อในวันอังคารที่ 21 กรกฎาคม 2558 (XM 16 ก.ค. 58)

**ตั้งเป้าติด TOP10 อสังหาฯใน 3 ปี
นายชัยรัตน์ โกวิทจินดาชัย ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักกรรมการผู้จัดการ บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ PRIN เปิดเผยกับสำนักข่าว "อีไฟแนนซ์ไทย" ว่า ดีลซื้อกิจการ "เคพีเอ็น กรุ๊ป" จะแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.นี้ โดยจะขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นในวันที่ 28 ส.ค.58 และมั่นใจว่าผู้ถือหุ้นจะอนุมัติอย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นประโยชน์ต่อการเติบโตของบริษัทฯ ในระยะยาว
ทั้งนี้ยืนยันว่า การทำรายการดังกล่าว PRIN เป็นผู้ซื้อ ไม่ได้ถูกเทกโอเวอร์ แม้หลังจากนี้กลุ่มเคพีเอ็นจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 30.57% เนื่องจากขนาดของกลุ่มเคพีเอ็นมีมูลค่าใหญ่กว่า PRIN สัดส่วนการถือหุ้นหลังจากการแลกหุ้นจึงออกมาในลักษณะดังกล่าว โดยกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่เดิมคือครอบครัว "โกวิทจินดาชัย" จะยังถือหุ้นเป็นอันดับ 2 สัดส่วนมากกว่า 16% และไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบริหาร หรือชื่อบริษัทฯ ซึ่งดีลนี้จะสร้างประโยน์ให้กับทั้ง 2 กลุ่มในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
"กลุ่มเคพีเอ็นมีความเชี่ยวชาญด้านโครงการอสังหาฯ แนวสูง ส่วนเราเก่งแนวราบ การรวมกันครั้งนี้จะสร้าง SYNERGY ได้อย่างมีนัยสำคัญ เป็นการปลดล็อกและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้ถือหุ้นทุกท่านในแง่ของการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว โดยยืนยันว่าดีลนี้เราเป็นคนซื้อ ไม่อยากให้เข้าใจว่าเราถูกซื้อ แต่เนื่องจากใช้วิธีการแลกหุ้นและกลุ่มเคพีเอ็นมีขนาดใหญ่กว่า PRIN จึงทำให้สัดส่วนการถือหุ้นเปลี่ยนไป เบื้องต้นยังไม่มีการพูดคุยเรื่องแผนต่างๆ มากนัก เพราะต้องรอให้ดีลสำเร็จก่อน แต่มั่นใจว่าจะไม่มีการเปลี่ยนธุรกิจหรือชื่อบริษัทแน่นอน โดยจะเป็นการผสานความร่วมมือในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่และเก่าที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม" นายชัยรัตน์ กล่าว
นายชัยรัตน์ กล่าวด้วยว่า การรวมกันครั้งนี้จะทำให้บริษัทฯ ขึ้นไปติดอันดับ 1 ใน 10 ผู้ประกอบการอสังหาฯ ของประเทศ ในแง่ของการรับรู้รายได้ภายใน 3 ปี (2559-2561) หรือมีการรับรู้รายได้มากกว่า 1 หมื่นล้านบาทต่อปี ซึ่งโครงการคอนโดมีเนียมของเคพีเอ็นจะช่วยหนุนการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ประกอบกับโครงการแนวราบของบริษัทฯ จะช่วยสร้างเสถียรภาพในแง่ของการรับรู้รายได้ จากปัจจุบัน PRIN อยู่อันดับประมาณ 16-17

**เพิ่มเป้ารายได้ปีนี้ทะลุ 5 พันลบ.หลังรวมงบ KPN
ขณะเดียวกันบริษัทฯ ได้ปรับเป้าหมายรายได้ปีนี้เป็นมากกว่า 5,000 ล้านบาท จากเดิมที่ 2,200 - 2,300 ล้านบาท เนื่องจากจะมีการรวมงบของกลุ่มเคพีเอ็นเข้ามาในไตรมาส 4/58 ซึ่งมีโครงการรอโอนในไตรมาสดังกล่าวมากกว่า 2,500 ล้านบาท พร้อมกันนี้หลังจากการเพิ่มทุนซื้อกิจการดังกล่าวแล้วเสร็จอัตราหนี้สินต่อทุนของบริษัทฯ จะลดลงเหลือไม่เกิน 1.2 เท่า จากปัจจุบันที่ 1.6 เท่า
"การรวมกันคราวนี้จะส่งผลดีต่อบริษัทฯ อย่างก้าวกระโดดทั้งในแง่ของผลประกอบการและความสามารถในการแข่งขัน จากการเติบโตดังกล่าวก็หวังว่าวันหนึ่งราคาหุ้นจะขึ้นไปซื้อขายที่ราคามากกว่า BV ก็เป็นได้" นายชัยรัตน์ ระบุ
ล่าสุด ณ สิ้นไตรมาส 1/58 PRIN มีมูลค่าทางบัญชี (BV ) อยู่ที่ 3.19 บาท
ส่วนการขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับบุคคลเฉพาะเจาะจง (PP) อีก 960 ล้านหุ้น ขณะนี้มีกองทุนหลายแห่งแสดงความสนใจเข้ามา ซึ่งมั่นใจว่าจะขายได้หมดทันทีหลังจากที่ผู้ถือหุ้นอนุมัติในวันที่ 28 ส.ค.นี้ นอกจากนี้ยืนยันว่ากลุ่มเคพีเอ็นจะไม่เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวเพิ่มอีก เพราะได้เจรจากันไว้แล้วและตกลงที่จะถือหุ้นเพียง 30.57% จากการแลกหุ้นเท่านั้น ส่วนเงินสดกลุ่มเคพีเอ็นอาจนำไปใช้ในการลงทุนอื่นๆ
นายชัยรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ดีลนี้เป็นการซื้อเฉพาะธุรกิจอสังหาฯ ของกลุ่มเคพีเอ็นเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานลม ซึ่งกลุ่มเคพีเอ็นได้เข้าซื้อจาก Wind Energy Holdings แต่อย่างใด

** เปิด 4โครงการในมือ KPN มูลค่ากว่า 9.3 พันลบ. รับรู้ถึงปี 61
ทั้งนี้ 4 โครงการที่ดำเนินการอยู่ภายใต้ KPNGC มีมูลค่าของโครงการรวมกว่า 9,300 ล้านบาท โดยภายหลังการเข้าทำรายการแล้ว จะมีโครงการอาคารชุดพักอยู่อาศัยที่สูงเกินกว่า 8 ชั้น(Hi Rise)ที่ KPNGC ดำเนินการอยู่เพิ่มเติมเข้ามา ซึ่งโครงการของ KPNGC จะเริ่มมีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในโครงการให้แก่ลูกค้า และรับรู้รายได้ตั้งแต่ปีนี้ โดยคาดว่าในปีนี้ KPNGC จะสามารถรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดพักอาศัยใน 2 โครงการ ประมาณ 2,600 ล้านบาท และ กำหนดการพัฒนาโครงการแล้วเสร็จของอีก 2 โครงการที่เหลือจะพัฒนาแล้วเสร็จในปี 2560 - 2561ตามลำดับ

** โบรกฯ มองบวก แต่หวั่นไดลูท 61% - ไม่ทำเทนเดอร์ ถ่วงราคาหุ้นบนกระดาน
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส ระบุว่า กรณี PRIN เข้าซื้อกิจการในกลุ่ม KPN โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติโอนกิจการทั้งหมดกับบริษัท เคพีเอ็น โฮลดิ้งส์ (KPNH) เพื่อเข้าซื้อหุ้นบริษัท เคพีเอ็น กรุ๊ปคอร์ปอเรชั่น (KPNGC) ในสัดส่วน 100% ในราคาซื้อขายรวมทั้งสิ้น 4,032 ล้านบาท ขณะที่ปัจจุบันบริษัทที่ซื้อมีการพัฒนา 4 คอนโดคือ เดอะ แคปปิตอล ราชปรารภ-วิภาฯ, เดอะ แคปปิตอล เอกมัย-ทองหล่อ, เดอะ ดิโพลแมท สาทร และ เดอะ ดิโพลแมท 39
สำหรับเงินทุนที่ใช้จะมาจาก 2 ส่วนคือ เพิ่มทุน และเงินสด คือในส่วนเพิ่มทุนจะมีการออกหุ้นเพิ่มทุน PRIN ให้จำนวน 960 ล้านหุ้นให้กับกลุ่ม KPN ที่ราคาหุ้นเพิ่มทุน PRIN ราคาหุ้นละ 2.10 บาท หรือ 2,016 ล้านบาท ที่อัตราการสว็อป 1 หุ้นของ KPNGC ต่อ 240 หุ้นใหม่ และส่วนที่สองชำระเป็นเงินสดอีกจำนวน 2,016 ล้านบาท ซึ่งมาจากการที่ PRIN ออกหุ้นเพิ่มทุนขาย PP อีก 960 ล้านหุ้นให้กับนักลงทุนไม่เกิน 50 ราย ที่ราคา 2.10 บาทต่อหุ้น
นับได้ว่า KPN เป็นผู้ประกอบการที่มีชื่อเสียงทางด้านคอนโดมิเนียม คาดว่าจะมียอดขายรอโอน (Backlog) มากพอสมควร แต่ในที่นี้ยังไม่ได้เปิดเผยว่าเป็นเท่าใด ซึ่งจะต่อเติมให้ PRIN ได้ในอนาคต แต่ขณะเดียวกับก็มี dilution effect ขวางอยู่ถึง 61% เช่นกัน จึงยังไม่สะท้อนไปในประมาณการได้
การที่ PRIN ไม่กู้เพิ่ม เราคาดว่าเป็นเพราะอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนสูงเป็น 1.38 เท่า
ทั้งนี้หาก PRIN ได้ผู้บริหารจาก KPN มาช่วยจะถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะที่ผ่านมา PRIN ไม่ประสบความสำเร็จนักในธุรกิจ คือ มักจะพลาดเป้าทั้งเรื่อง ยอดขาย รายได้ และเปิดขายโครงการใหม่ได้ล่าช้ากว่าแผน
ทั้งนี้ตามเงื่อนไข กลุ่ม KPNH จะถือหุ้น PRIN ในสัดส่วน 30.57% แต่จะขอทำ whitewash คือไม่ทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์หุ้น PRIN
เราคาดว่าระยะสั้นอาจมีแรงขายทำกำไรหุ้น PRIN ออกมา เพราะราคาหุ้นที่เก็งกำไรจนปิดสูงไปถึง 2.54 บาท ขณะที่ราคาหุ้น PRIN ที่เพิ่มทุนเป็นเพียง 2.10 บาท ขณะเดียวกับจะไม่มีการทำเทนเดอร์ฯ ส่วนคำแนะนำและราคาพื้นฐานอยู่ในช่วงการทบทวน (Review) เมื่อได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากบริษัทแล้ว

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com