March 29, 2024   8:59:17 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > งบแบงก์Q1ไม่สวย-กูรูหั่นเป้ากำไรทั้งปี
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 09/04/2015 @ 08:32:53
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

งบแบงก์ไตรมาสแรกปีนี้ไม่แจ่ม โบรกเกอร์เตรียมหั่นประมาณการทั้งปี หลังตัวเลขสินเชื่อโตช้า-ตั้งสำรองยังสูง ผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ยอมรับปีนี้เน้นคุมคุณภาพสินเชื่อมากกว่าปล่อยใหม่ ขณะที่วงการคาดกำไรกลุ่ม Q1/58 โตต่ำกว่าคาด ทั้งเทียบรายไตรมาสและรายปี ด้าน SCB รับปีนี้เน้นคุมคุณภาพลูกหนี้ "ฟินันเซีย ไซรัส"นำร่องหั่นกำไรแบงก์ปีนี้เหลือโตแค่ 5% จากเดิม 7% ด้าน "เคเคเทรด"ให้น้ำหนัก Underweight แต่ชู BBL เด่นสุด


*** กำไร Q1/58 ไม่เด่น -สินเชื่อแผ่ว
บล.เอเซียพลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ได้เริ่มทำ Earnings Preview งวดไตรมาส 1/58 เริ่มที่กลุ่มธนาคารพาณิชย์เป็นกลุ่มแรก โดยนักวิเคราะห์กลุ่ม ธ.พ.คาดว่าผลกำไรกลุ่มฯ ในงวดนี้จะสามารถฟื้นตัวได้จากงวด 4Q57 ตามการลดลงของค่าใช้จ่ายฯ และการตั้งสำรองหนี้ฯ ที่ลดลง
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมธุรกิจหลักแผ่วจาก NIM ที่อ่อนตัวลงต่อเนื่องจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยฯ ลงประกอบกับยอดสินเชื่อในงวด 1Q58 ยังอ่อนเช่นกันเนื่องจากเป็นช่วงนอกฤดูกาล แต่เชื่อแนวโน้มจะค่อยๆ ฟื้นตัวในช่วง 2H58 โดยฝ่ายวิจัยคาดกำไรสุทธิ 1Q58 ที่ 5.22 หมื่นล้านบาท เพิ่ม 3.6% Yoy และ 6.7% QoQ โดยหุ้นที่คาดว่ากำไรจะเติบโตโดดเด่นได้แก่ KBANK,BBL,KKP ส่วน หุ้นที่คาดว่ากำไรจะชะลอตัวได้แก่ TMB และ BAY

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุว่า ฝ่ายวิจัยฯ มีมุมมองเป็นกลาง และถ่วงน้ำหนักการลงทุน Neutral ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทย โดยคาดว่าผลประกอบการ 1Q58 จะไม่มีอะไรตื่นเต้น การฟื้นตัวของสินเชื่อยังเชื่องช้า การเติบโตของรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยไม่มาก การตั้งสำรองค่าเผื่อฯอยู่ในระดับสูง แต่ NIM ขยับขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเพราะต้นทุนการเงินต่ำลง ประมาณการว่ากำไรสุทธิของ 7 ธนาคารที่ทำการวิเคราะห์ใน 1Q58 จะเติบโตเพียง 0.8% YoY และ 4.4% QoQ เป็น 46.6 พันล้านบาท โดยมี KBANK และ KTB ที่จะมีการเติบโตของกำไรทั้ง YoY และ QoQ ส่วน BBL และ TCAP คาดว่าจะมีกำไรไตรมาสนี้ลดลง YoY และ QoQ

*** คาดสินเชื่อรวมปีนี้โต 4% ให้น้ำหนัก Underweight

บล.เคเคเทรด ระบุว่า ตามปกติการเติบโตของสินเชื่อจะล้อกับการเติบโตเศรษฐกิจภายในประเทศ หากเป็นช่วงที่เศรษฐกิจเติบโตสูง สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์จะเติบโตได้ 2–2.5 เท่าของการเติบโตเศรษฐกิจ ( ค่าเฉลี่ยช่วงปี 2552-2556 อยู่ที่ 2.7 เท่า) หากเศรษฐกิจชะลอตัว สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์จะเติบโตได้ราว 1 – 1.5 เท่าของการเติบโตเศรษฐกิจ ดังนั้น หากเราใช้การคาดการณ์เศรษฐกิจของ ธปท. เป็นเกณฑ์ที่ 3.8% เราสามารถประเมินคร่าวๆ ได้ว่า การเติบโตของสินเชื่อรวมในปีนี้จะอยู่ที่ 4% ไม่เติบโตเมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่แนวโน้มดอกเบี้ยที่ลดลงจะกดดันความสามารถในการทำกำไรและผลตอบแทนส่วนผู้ถือหุ้น
สรุปประเด็นสำคัญของผลประกอบการไตรมาส 1/58
BBL (มูลค่าเหมาะสม 208 บาท) สินเชื่อหดตัวในไตรมาสแรกสวนทางกับเงินฝากที่เพิ่มขึ้นกดดัน NIM ให้ลดลงอีก 10 bps ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อยและมีกำไรจากการลงทุนราว 1 พันล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายชะลอลงทำให้สัดส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ลดลงเป็นประมาณ 40-42% ส่วนการตั้งสำรองยังอยู่ที่ประมาณ 2 – 2.5 พันล้านบาทต่อไตรมาสแม้ว่า NPL จะเพิ่มขึ้นบ่างแต่ไม่มีนัยยะสำคัญ
KTB (มูลค่าเหมาะสม 16 บาท) กำไรของ KTB น่าจะอ่อนแอลงและต่ำกว่าที่ Consensus คาด เนื่องจาก สินเชื่อยังไม่โตสังเกตจากการชะลอระดมเงินฝากอีกทั้งยังมียอดการปฎิเสธการออกให้วงเงินกู้ใหม่ที่เพิ่มขึ้น ส่วน NIM ยังมีแนวโน้มลดลงตามการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ทั้งนี้ KTB ยังคงระดับการตั้งสำรองฯในระดับปกติแม้ว่าจะเห็นการเพิ่มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มในกลุ่ม SME และกลุ่มรายย่อย เพื่อไปชดเชยกับค่าใช้จ่ายในการบริหารที่เพิ่มขึ้นจากโบนัสพนักงาน
SCB (มูลค่าเหมาะสม 157 บาท) กำไรสุทธิไตรมาสแรกถูกกดดันจากรายการพิเศษ 2 รายการมูลค่าประมาณ 1.6 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการตั้งสำรองฯบัญชีของ สถาบัน เทคโนโลยีเจ้าคุณทหารลาดกระบังและค่าเสียหายจากเหตุไฟไหม้สำนักงานใหญ่ในเดือน ก.พ.ส่วนธุรกิจปกติโดยเฉพาะในฝั่งสินเชื่อยังอ่อนแอเช่นเดียวกับธนาคารใหญ่อื่นๆเติบโตแค่ 2 – 3% YoY
KBANK (มูลค่าเหมาะสม 202 บาท) สินเชื่อคาดเติบโต 1-2% YoY จากสินเชื่อลูกค้าบริษัทใหญ่ที่เพิ่มขึ้น 6% ชดเชยกับสินเชื่อ SME และรายย่อยที่ยังทำได้ต่ำกว่าเป้าหมาย ส่งผลให้รายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ส่วนการตั้งสำรองในไตรมาสแรกมีแนวโน้มที่จะสูงกว่าค่าเฉลี่ย ส่วนที่ดีขึ้นคือ NIM เนื่องจากต้นทุนเงินฝากที่ต่ำลงจากสัดส่วนของ CASA ที่มากกว่า
" โดยสรุป ผลประกอบการ 1Q58 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ มีโอกาสที่จะออกมาอ่อนแอกว่าที่นักวิเคราะห์คาด และเชื่อว่านักวิเคราะห์จะทยอยปรับประมาณการผลประกอบการลง หลังจากประกาศผลประกอบการตามทิศทางตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งจะกดดันราคาหุ้นกลุ่มธนาคารในช่วง 1-2 เดือนนี้ เรายังคงให้น้ำหนักการลงทุนกลุ่มธนาคารต่ำกว่าค่าเฉลี่ย (Underweight) แนะนำเพียง BBL เป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม "บล.เคเคเทรด ระบุ


*** หั่นกำไรแบงก์ปีนี้เหลือโต 5% จากเดิม 7%

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ได้ปรับประมาณการกลุ่มแบงก์ลง หลังจาก visit เกือบครบทุกแบงก์ พบว่าผู้บริหารทุกแบงก์ต่างมีมุมมองต่อเศรษฐกิจแย่ลงจากช่วงต้นปี และต่างหันมาเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อเพื่อคุมคุณภาพมากกว่าจะเน้นการขยายสินเชื่อ แม้แต่ละแบงก์จะยังคงเป้าสินเชื่อปีนี้โตเฉลี่ย 8% แต่มีโอกาสปรับลงในระยะถัดไปหากการลงทุนภาครัฐและการบริโภคไม่ฟื้น
เราปรับกำไรกลุ่มแบงก์ปี 2015 ลง 2% เหลือโต 5% Y-Y จากเดิมที่คาดโต 7% Y-Y สำหรับกำไรแบงก์ใหญ่ใน 1Q15 ไม่ดีนัก คาด +2% Y-Y ซึ่งต่ำมาก และ 2Q15 ยังถูกกดดันจาก NIM ที่ลดลงตามทิศทางดอกเบี้ย โดยเฉพาะ BBL และ KTB ที่จะกระทบมากสุดเพราะระดมเงินฝากไปมากในช่วงปลายปีก่อน แม้คำแนะนำจะเป็นซื้อเกือบทุกแบงก์ยกเว้น BAY และ LHBANK แต่เชื่อราคาหุ้นมีโอกาสอ่อนตัวในระยะสั้น จึงไม่ควรรีบร้อน
KBANK เราคาดกำไร 1Q15 +30% Q-Q, +8% Y-Y ดีสุดในกลุ่ม แต่ปรับกำไรสุทธิทั้งปี 2015 ลง 3% จากที่คาด +10% Y-Y เหลือ +5% Y-Y ปรับเป้าหมายลงเป็น 260 บาทจาก 271 บาท ยังเป็น Top pick เพราะ NIM น่าจะอยู่ในระดับสูงสุดของกลุ่มจากความสามารถในการเลือกลูกค้าและบริหารต้นทุนเงินฝาก
KTB เราคาดกำไร 1Q15 +3.8% Q-Q, +1% Y-Y ปรับกำไรสุทธิทั้งปีลง 3.8% จากที่คาดโต 15% Y-Y เหลือ +10.7% Y-Y ปรับเป้าหมายลงเป็น 26.80 บาทจาก 27.60 บาท แต่ยังชอบ KTB รองจาก KBANK เพราะกำไรยังโตสูงกว่าแบงก์อื่น
TMB เราคาดกำไร 1Q15 -16% Q-Q, +56% Y-Y คงประมาณการกำไรสุทธิทั้งปีที่คาดโต 6% คงเป้าหมาย 3.40 บาท
BBL เราคาดกำไร 1Q15 +4.6% Q-Q, +2.2% Y-Y ปรับกำไรสุทธิทั้งปีลง 2% จากที่คาดโต 2% Y-Y เป็นทรงตัวโดย NIM จะถูกดดันมากที่สุด คาดลดเหลือ 2.2% ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 225 บาทจาก 243 บาท
SCB เราคาดกำไร 1Q15 -9% Y-Y, -2% Q-Q ด้อยสุดในกลุ่มเพราะมีค่าใช้จ่ายคดี สจล.และไฟไหม้ และปรับกำไรสุทธิทั้งปีลง 2% เหลือโต 1% Y-Y ปรับเป้าหมายลงเป็น 218 บาทจาก 228 บาท


*** SCB แย้มสินเชื่อ Q1/58 เติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน)หรือ SCB เปิดเผยว่า แนวโน้มสินเชื่อไตรมาส 1/58มีทิศทางเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยธนาคารยังคงเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อทั้งปีที่ 5-7% จากการขยายตัวของสินเชื่อรายใหญ่ รายย่อย และสินเชื่อเอสเอ็ม
อี
ทั้งนี้ ยอมรับว่า ขณะนี้ธนาคารได้ให้ความสำคัญกับการควบคุมคุณภาพลูกหนี้ ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวลง โดยเฉพาะกลุ่มทำธุรกิจส่งออกที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด ซึ่งแม้ว่า SCBจะมีสัดส่วนลูกหนี้กลุ่มส่งออกที่น้อยอยู่ แต่ธนาคารไม่ได้วางใจ ยังให้ความช่วยเหลือและเข้าไปดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด??
"สินเชื่อเราได้ไม่ได้กังวลเรื่องตัวเลขเพราะอย่างไรเราคงถึงเป้าหมายได้อย่างแน่นอน แต่ตอนนี้สิ่งที่เราเป็นห่วงมากที่สุดคือเรื่องคุณภาพลูกหนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง"นายอาทิตย์ กล่าว ??
นายอาทิตย์ กล่าวว่า ธนาคารต้องการเห็นการลงทุนภาครัฐเกิดขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อภาคเอกชน โดยที่ผ่านมาหุ้นกลุ่มก่อสร้างได้มีการปรับตัวขึ้นแต่สิ่งที่ควบคุมได้ยากคือปัจจัยภายนอก ซึ่งส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจยังไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง??
นอกจากนี้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ กองทุนโครงสร้างพื้นฐานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT)มูลค่า 1-2 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะสามารถเปิดขายหน่วยลงทุนดังกล่าวได้ไตรมาส 2/58 ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)และในปีนี้ยังมีอีกหลายดีลที่ SCB เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

*** โบรกฯ มองต่างมุมกำไร KTB

บล.ทรีนีตี้ คาดกำไร KTB ไตรมาส 1/58 ที่ 8.41 พันล้านบาท ดีขึ้น 4% จากไตรมาสก่อน และดีขึ้น 1% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน โดยแนวโน้มสินเชื่อยังทรงตัว หลังลูกค้ากลุ่ม SME และรายย่อยที่ตั้งเป้าจะขยายเติบโตไม่ดีเท่าที่ควรจากภาวะเศรษฐกิจที่กดดัน ด้าน NIM อ่อนตัวจากเงินฝากที่เข้ามาในไตรมาสก่อน ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลงตามฤดูกาลแต่ไม่มากนัก เนื่องจากธนาคารมักบักทึกค่าใช้จ่ายพนักงานเข้ามาต้นปี ยังคงแนะนำ "ซื้อ" ให้ราคาเป้าหมายที่ 27บาท
เช่นเดียวกับ บล.ทิสโก้ คาดกำไร KTB ไตรมาส 1/58 ที่ 8.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน แนะนำให้ “ถือ” โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 24 บาท (GGM)
ด้าน บล.ฟิลลิป คาดกำไร KTB ไตรมาส 1/58 ที่ 8 พันล้านบาท ลดลง 1.5% จากไตรมาสก่อน และ ลดลง 4.1% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน เนื่องจากคาดว่ารายได้ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่ออาจจะชะลอลงตามการชะลอตัวของสินเชื่อ นอกจากนี้ ยังคาดว่าค่าใช้จ่ายของ KTB จะเพิ่มสูงขึ้นจากการจ่ายโบนัสให้กับพนักงาน แนะนำ "ซื้อ"ราคาพื้นฐาน 28 บาท
ขณะที่ บล.กรุงศรี คาดกำไร KTBไตรมาส 1/58 ทรงตัวทั้งจากไตรมาสก่อน และไตรมาสเดียวกันปีก่อน เพราะขาดปัจจัยบวกผลักดันการเติบโต ขณะที่คาดสำรองหนี้ฯ ในระดับปกติเพียงพอต่อความเสี่ยงเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ?กำไรสุทธิจะกลับมาเติบโต 11.7% YoY ในปี 58 จากการเติบโตต่อเนื่องของสินเชื่อ และสำรองหนี้ฯ ลดลง ??แนะนำ "ซื้อ"มูลค่าพื้นฐาน 27.50 บาท



 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com