"สิงห์ เอสเตท" ถึงเวลาก้าวกระโดด เดินหน้าร่วมทุน"เนอวานาฯ" ดันรายได้ปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 4 พันล้านบาท จากเดิมคาดทำได้ 2 พันล้านบาท พร้อมพลิกมีกำไรทันที ล่าสุดเพิ่มทุน 2.63 พันล้านหุ้น จัดสรร ให้เนอวานาฯ 186.50 ล้านหุ้น แลกถือหุ้น 51% ที่เหลือขาย RO หุ้นละ 3 บาท รองรับแจกวอร์แรนต์ หวังระดมทุนใช้ซื้อกิจการ-พัฒนาโครงการอสังหาฯในอนาคต ระบุอยู่ระหว่างเจรจาซื้อโรงแรม 3 แห่ง มูลค่ารวม 5-6 พันล้านบาท พร้อมจ้องเทกโอเวอร์ศูนย์การค้า ด้านผู้บริหารคาดเริ่มรับรู้รายได้เนอวานาฯตั้งแต่ Q3 ปีนี้

*** ร่วมทุนเนอวานา ดันเป้ารายได้เป็น 4 พันลบ. จากเดิม 2 พันลบ.
นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S เปิดเผยว่า สิงห์เอสเตท และบริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ได้ตกลงร่วมทุน โดยลงนามในสัญญา Share Purchase and Share Subscription Agreement โดยสิงห์จะนำหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 186.50 ล้านหุ้น พาร์ละ 1 บาท โดยจัดสรรที่ราคาหุ้นละ 9.5 บาท/หุ้น รวมมูลค่า 1771.84 ล้านบาท เสนอให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของเนอวานา เพื่อแลกกับการเข้าถือหุ้นของเนอวานา จำนวน 3.64 ล้านหุ้น ซึ่งจะทำให้สิงห์เอสเตทเข้าถือหุ้นเนอวานาในสัดส่วน 51% ขณะที่ผู้ถือหุ้นกลุ่มเดิมของเนอวานาจะเข้าถือหุ้นสิงห์เอสเตทในสัดส่วน 3.8% โดยจะทำการขออนุมัติการแลกหุ้นดังกล่าวครั้งที่ 1/2558 ในวันที่ 22 เม.ย.2558 และคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือน เม.ย.นี้
ทั้งนี้ บริษัท สิงห์ เอสเตท ได้เพิ่มเป้ารายได้รวมปีนี้เป็น 4 พันล้านบาท จากเดิมคาดว่าทำได้ 2 พันล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้ของสิงห์ฯ 2 พันล้านบาท และอีก 2 พันล้านบาท มาจากการรับรู้รายได้ที่เข้าไปถือหุ้นในบริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ และคาดว่าจะสามารถพลิกมีกำไรได้ โดย 9 เดือนแรกปี 557 บริษัทฯมีรายได้ 202.84 ล้านบาท มีผลขาดทุน 106.81 ล้านบาท
"รายได้ปีนี้ของสิงห์ เอสเตท จะเติบโตหลายเท่าตัว โดยคาดว่าจะมีรายได้ที่ 4 พันล้านบาท และจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ ซึ่งบริษัทฯจะรับรู้รายได้จากเนอวานาฯปีนี้ 2 พันล้านบาท และรับรู้กำไร 250 ล้านบาท ตั้งแต่ไตรมาส 3 ปีนี้เป็นต้นไป" นายนริศ กล่าว
ทั้งนี้ การเข้าร่วมกิจการกับเนอวานาถือเป็นก้าวแรกที่แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของการแสวงหาพันธมิตร เพราะเป็นการรวมกันแบบ Strategic Partner ถือเป็นนิมิตรใหม่ในวงการอสังหาฯ ในการรวมทีมที่ทำให้เกิด Synergy ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจระยะยาวทำให้ 2 บริษัทมีความแข็งแกร่งมากขึ้น

*** ระดมทุนรองรับพัฒนาโครงการใหม่-ซื้อกิจการในอนาคต
นายนริศ กล่าวว่าต่อว่า เพื่อเป็นการรองรับการลงทุนและการขยายธุรกิจในอนาคต สิงห์ เอสเตท จะขออนุมัติการเพิ่มทุนจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/58 ในวันที่ 22 เม.ย.58 โดยนอกเหนือจากการเพิ่มทุนเพื่อจัดสรรหุ้นให้แก่กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทเนอวานาฯแล้ว บริษัทฯ จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ผู้ถือหุ้นเดิม (RO)ด้วย ซึ่งการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ผู้ถือหุ้นเดิมคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จประมาณเดือน ก.ค.นี้
"จากแผนดำเนินธุรกิจของบริษัทฯต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูงทางบริษัทฯจึงต้องระดมทุนจากแหล่งต่างๆที่เหมาะสม ซึ่งคาดว่าการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแก่ผู้ถือหุ้นเดิมในครั้งนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ถือหุ้นกลุ่มใหญ่ คือบุญรอดบริวเวอรี่ ที่ให้การสนับสนุนสิงห์ เอสเตท มาในทุกด้านตั้งแต่วันแรก และผู้ถือหุ้นคนอื่นๆที่จะมีส่วนช่วยให้บริษัทฯเติบโตได้อย่างรวดเร็วและมั่นคง"นายนริศ กล่าว
โดยในปีนี้ S จะเปิด 2 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 8 พันล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม มูลค่า 4 พันล้านบาท และโครงการแนวราบ 1 โครงการ มูลค่าประมาณ 4 พันล้านบาท นอกจากนี้ อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะมีการเปิดโครงการอื่นๆ เพิ่มอีกหรือไม่ คาดว่าจะสรุปได้เร็วๆนี้ โดยใน 3-5 ปีข้างหน้าบริษัทฯ มีแผนที่จะพัฒนาโครงการเอง เช่น คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว โรงแรม ศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน
นอกจากนี้บริษัทฯมีแผนที่จะเข้าซื้อกิจการโรงแรม 3 แห่งในต่างจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว มูลค่ารวม 5-6 พันล้านบาท โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนในการซื้อกิจการตั้งแต่ไตรมาส 2/58 เป็นต้นไป และบริษัทฯ ยังมีแผนที่จะเข้าซื้อกิจการศูนย์การค้าอีกด้วย

*** เพิ่มทุน 2.63 พันล้านหุ้น ใช้แลกหุ้นเนอวานาฯ-ขาย RO พร้อมแจกวอร์แรนต์
บริษัท สิงห์ เอสเตท แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ว่า คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯจำนวน 2,635,940,054 บาท จากเดิมทุนจดทะเบียนจำนวน 4,712,350,732 บาท รวมเป็นจำนวน 7,348,290,786 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 2,635,940,054 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ1 บาท เพื่อจัดสรร ดังนี้? 1.จัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement)ได้แก่ 1.GoodProsper Holdings Limited (178,845,349 หุ้น)และ 2.Compile House Company Limited (7,664,443 หุ้น) ตามสัดส่วนหุ้นในเนอวานา ที่จะขายให้แก่บริษัทฯ รวม 186,509,792 หุ้น ซึ่งมีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยจัดสรรที่ราคาหุ้นละ 9.5 บาท รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น1,771,843,024 บาท
ทั้งนี้ การจัดสรรดังกล่าว เกิดขึ้น เนื่องจากคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติการลงทุนใน "บ.เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด"โดยจะซื้อหุ้นสามัญในเนอวานา จำนวน 3,649,993 หุ้น หรือคิดเป็น 51% ของหุ้นสามัญทั้งหมดของเนอวานา ในราคาหุ้นละ 485.44 บาท รวมมูลค่ารายการไม่เกิน 1,771,843,024 บาท จากผู้ถือหุ้นเดิม 2 ราย ได้แก่ (1) Good Prosper HoldingsLimited และ (2) Compile HouseCompany Limited และบริษัทฯ จะชำระราคาค่าหุ้นดังกล่าวด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกใหม่ของบริษัทฯ จำนวนทั้งสิ้น 186,509,792 หุ้น ในราคาหุ้นละ 9.5 บาท เพื่อชำระราคาค่าหุ้นสามัญดังกล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯ จะเข้าทำรายการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนในเนอวานาฯ จำนวนไม่เกิน 831,724 หุ้น โดยชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนเป็นเงิน ในราคาหุ้นละ 383.24 บาท รวมมูลค่ารายการไม่เกิน 318,749,906 บาท ทั้งนี้ เมื่อรวมมูลค่าของรายการทั้งสองมีมูลค่าไม่เกิน 2,090,592,930 บาท รวมทั้งอนุมัติการเข้าลงนามในสัญญา Share Purchase and Share Subscription Agreement และสัญญาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในเนอวานาฯ
2.จัดสรรเพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering)จำนวนไม่เกิน 816,476,754 หุ้น ในอัตราส่วน 6 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยเสนอขายในราคา 3 บาท วันที่ไม่ได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน (XR) 14 พ.ค. 2558 โดยบริษัทฯจะแจกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน(วอร์แรนต์)ของบริษัทฯครั้งที่ 1(S-W1)ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทที่จองซื้อและชำระราคาค่าจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ตามสัดส่วนการถือหุ้น (RightsOffering)โดยไม่คิดมูลค่า ในอัตราส่วน 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ได้รับจัดสรร ต่อใบสำคัญแสดงสิทธิจำนวน 2 หน่วย โดยใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ จำนวน 1 หน่วย มีสิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนได้ 1 หุ้น และกำหนดราคาใช้สิทธิตามใบสาคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญหุ้นละ 15 บาท อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ ไม่เกิน 4 ปี 2 เดือน
3.จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนเพื่อรองรับการใช้สิทธิ S-W1 จำนวนไม่เกิน 1,632,953,508 หุ้น ซึ่งมีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยกำหนดให้จัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจาปี 58 ในวันพุธที่ 22 เมษายน 58 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น(Record Date) ที่มีสิทธิในการเข้าประชุมผู้ถือหุ้น ในวันที่ 16 มีนาคม 58 และให้รวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้น ในวันที่ 17 มีนาคม 58

*** เนอวานาฯคาดกำไรปีนี้ 350 ลบ. ลุยเปิด 5 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 1.1 หมื่นลบ.
นายศรศักดิ์ สมวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ เปิดเผยว่า การเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสิงห์ เอสเตท มาจากปรัชญาทางธุรกิจที่คล้ายคลึงกัน คือร่วมสร้างสรรสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า เนอวานาฯเป็น Boutique Brand ที่มองกลุ่มลูกค้าในตลาดที่แตกต่างกัน ปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่รอขายและพัฒนาในมือ 1 หมื่นล้านบาท ดังนั้น เมื่อร่วมมือกับพันธมิตร สิงห์ เอสเตท แล้วจะทำให้ทั้ง 2 บริษัทมีศักยภาพสูงขึ้นและมีอำนาจต่อรองมากขึ้น แล้วยังสามารถสร้างมิติใหม่ให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ได้อีกไม่น้อย ซึ่งหลังจากการแลกหุ้นเนอวานาฯจะทำให้การเพิ่มทุนเพื่อรองรับการขยายธุรกิจเร็วยิ่งขึ้น โดยสิงห์ เอสเตทและผู้ถือหุ้นเดิมของเนอวานาฯจะลงเงินเพิ่มตามสัดส่วนที่กำหนด
การเข้าร่วมกิจการกับเนอวานาฯ ถือเป็นความสำเร็จแรกของปีนี้ ในการทยอยเข้าซื้อหรือร่วมทุนในกิจการที่สิงห์ เอสเตท มองว่ามีศักยภาพและมีทิศทางเติบโตที่ดี ตามที่เตรียมงบประมาณไว้ที่ 2 หมื่นล้านบาท ในปี 58 ทั้งยังเป็นการเริ่มธุรกิจในกลุ่มที่อยู่อาศัยในแนวราบเป็นครั้งแรก โดยหลังจากนี้จะมีเป้าหมายจะลงทุนและร่วมลงทุนในกิจการต่างๆอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน โรงแรม หรือแม้กระทั่งศูนย์การค้า ถือเป็นการเพิ่มโอกาสใหม่ๆ ขององค์กรให้มีความยืดหยุ่นและหลากหลายในการดำเนินธุรกิจมากยิ่งขึ้น ??
ทั้งนี้ เนอวานาฯ เตรียมเปิดโครงการใหม่ปีนี้จำนวน 5 โครงการ มูลค่ารวม 1.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเปิดขายในช่วงกลางปี 58 โดยแบ่งเป็นโครงการแนวราบ 2 โครงการ คอนโดมิเนียม 3 โครงการ นอกจากนี้บริษัทฯ มีแผนที่จะซื้อที่ดินใหม่เพิ่มเพื่อมาเปิดโครงการในอนาคต
สำหรับแผนในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของเนอวานาฯ ในระยะสั้นอาจจะยังไม่มี เพราะการจับมือกับสิงห์ เอสเตท ทำให้มีเงินทุนเพียงพอในการดำเนินธุรกิจ แต่อนาคตหากมีโอกาสในการขยายโครงการ อาจจะมีการพิจารณาเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯต่อไป
นายอนุชาติ อังสุเมธางกูร กรรมการบริหาร บริษัท เนอวานาฯ คาดรายได้ปีนี้จะอยู่ที่ 4 พันล้านบาท และคาดว่าจะมีกำไรประมาณ 350 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 57 ที่คาดว่าจะมีกำไร 200 ล้านบาท โดยสาเหตุที่รายได้และกำไรเพิ่มขึ้นมาจากรับรู้รายได้จากโครงการเก่าที่จะมีการโอนในปีนี้