สซิ่งน้องใหม่ไฟแรง S11 ลงสนามเทรดวันนี้ วงการฟันธงซิ่งทะลุ 7 บาท จากจุดเด่น พอร์ตโตเร็ว และอัตรากำไรโดดเด่น คาดปีนี้กำไรพุ่ง 40% เหตุเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง และผู้บริหารมีประสบการณ์กว่า 20ปี สามารถเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ราคา IPO 5.30 บาท ยังต่ำเทียบกับหุ้นที่ทำธุรกิจเดียวกัน ฟากผู้บริหารมั่นใจ นักลงทุนให้การตอบรับดี หลังความต้องการจองซื้อล้น ดันราคาหุ้นเหนือจอง วางเป้าเป็นทั้ง Growth stock และ Dividend Stock


** ตลท. รับหุ้น S11 ลงสนาม 25 ก.พ.นี้
บมจ. เอส 11 กรุ๊ป (S11) ผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ พร้อมซื้อขายใน ตลท. 25 ก.พ. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 3,248.90 ล้านบาท
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บมจ. เอส 11 กรุ๊ป (S11) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน ตลท. ในกลุ่มธุรกิจการเงิน หมวดเงินทุนและหลักทรัพย์ ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2558 ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 3,248.90 ล้านบาท
โดย S11 ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ครอบคลุมพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งจังหวัดชลบุรี พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา ระยอง และจันทบุรี โดยเน้นบริการให้สินเชื่อรถจักรยานยนต์ใหม่ที่มีความนิยมในตลาด ได้แก่ ยี่ห้อฮอนด้า ยามาฮ่า ซูซูกิ และคาวาซากิ แก่บุคคลธรรมดาเป็นหลัก ปัจจุบันบริษัทมีเครือข่ายพันธมิตรจำนวน 139 สาขา
S11 มีทุนชำระแล้ว 613 ล้านบาท มีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 533 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 80 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งจำนวนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 11 – 13 กุมภาพันธ์ 2558 ในราคาหุ้นละ 5.30 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 424 ล้านบาท โดยมี บริษัท ทรีนีตี้ แอ๊ดไวซอรี่ 2001 จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนิตี้ จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
หลัง IPO ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ S11 3 ลำดับแรก ได้แก่ กลุ่มคุณสามารถ จิระดำรง ถือหุ้น 30.01% กลุ่มคุณริชาร์ด วี เคง กว๊อก ถือหุ้น 15.82% และกลุ่มคุณศิรวัตร หวั่งหลี ถือหุ้น 9.96% ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้นที่ (P/E ratio) 20.38 เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด (ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2556 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2557) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.26 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้และเงินสำรองต่างๆ ตามกฎหมายของงบการเงินบริษัท
S11 แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3/57 มีกำไรสุทธิ 44.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 31.99 ล้านบาท??ส่วนงวด 9 เดือนมีกำไรสุทธิ 148.00 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 106.89 ล้านบาท

**มั่นใจหุ้นเหนือจอง
นายสุรศักดิ์ เข็มทองคำ กรรมการผู้จัดการ S11 เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนในการเข้าซื้อขายเป็นวันแรก และคาดว่าราคาหุ้น จะสามารถยืนเหนือราคาจอง ที่ 5.30 บาทต่อหุ้นได้ จากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนได้ในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการและขยายธุรกิจ เนื่องจากเล็งเห็นโอกาสการเติบโต จากภาพรวมอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ในการออกโปรโมชั่น และรถรุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีความต้องการของลูกค้าอยู่เป็นจำนวนมาก จากแนวโน้มในการใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะเพื่ออำนวยความ สะดวกในเรื่องการเดินทางในสภาวะการจราจรที่ค่อนข้างแออัด ประกอบกับ ใช้เป็นเครื่องมือในการประกอบอาชีพ จึงเชื่อมั่นว่า โอกาสในธุรกิจนี้ยังมีอยู่จำนวนมาก และเรามั่นใจว่าเราถนัดและเชี่ยวชาญในธุรกิจให้สินเชื่อเช่าซื้อรถ จักรยานยนต์มาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี ทำให้เข้าใจธรรมชาติใน ธุรกิจนี้เป็นอย่างดี เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่สนับสนุน S11 ก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง และมั่นคงได้
“ตลอดระยะเวลาการจองซื้อในช่วงวันที่ 11 - 13 กุมภาพันธ์ 2558 มีนักลงทุนที่สนใจจะจองซื้อหุ้นของบริษัทและติดต่อเข้ามาเป็นจำนวนมากผ่าน การจัดจำหน่ายของ บล. ทรีนีตี้ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำในการจัดจำหน่าย, บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) แกนนำในการจัดจำหน่าย และผู้ร่วมจำหน่ายอีก 2 แห่ง ได้แก่ บล.ฟินันเซีย ไซรัส และ บล. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เชื่อ ว่า เป็นผลจากนักลงทุนมีความเข้าใจรูปแบบธุรกิจของ S11 มากยิ่งขึ้น อีกทั้ง มั่นใจในความ สามารถ ความเชี่ยวชาญของผู้บริหาร ตลอดจนทีมงานบริษัทฯ ที่จะนำพา S11 ให้เติบโตอย่างมั่นคง ประกอบกับ การเข้ามาระดมทุนในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องบริษัทฯ ให้มีศักยภาพทางการเงินแข็งแกร่ง นำมาซึ่งความพร้อมในการปล่อยสินเชื่อให้แก่ลูกค้าเพิ่มขึ้น รวมทั้งโอกาสทางธุรกิจที่จะนำมา ซึ่งผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุนสูงสุดต่อไป” นาย สุรศักดิ์ กล่าว

** ขยายพอร์ตโตกว่าภาพรวมสินเชื่อยานยนต์
นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า บริษัทฯตั้งเป้าขยายพอร์ตสินเชื่อจักรยานยนต์ปีนี้เติบโตมากกว่าสินเชื่อรถจักรยานยนต์ทั้งระบบ ที่คาดโต 3-5% โดยเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ม.ค. และเชื่อมั่นว่าจะเป็นแนวโน้มในทิศทางที่ดีต่อเนื่องตามเศรษฐกิจในประเทศ โดยกลุ่มผู้ผลิต อาทิ ฮอนด้า ได้ประกาศแผนจะทำรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่อีก 12 รุ่น ยามาฮ่า จะเปิดตัวอีก 9 รุ่น ซึ่งน่าจะช่วยกระตุ้นตลาดได้เป็นอย่างดี
S11 มียอดสินเชื่อคงค้าง ณ 9 เดือนแรกปี 2557 ที่กว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ จะทำให้บริษัทฯ มีศักยภาพในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้ในอนาคต จากปัจจุบันมูลค่าตลาดสินเชื่อรถจักรยานยนต์ อยู่ที่ราวกว่า 30,000 คันต่อปี ซึ่งบริษัทฯมีการปล่อยสินเชื่อราว 2,000 คันต่อปี จึงถือว่ามีโอกาสอีกมากในตลาดสินเชื่อรถจักรยานยนต์
โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ จะใช้เป็นทุนหมุนเวียน สำหรับประกอบกิจการและขยายธุรกิจ โดยมีเป้าหมาย 3 ปีข้างหน้าจะขยายพอร์ตสินเชื่อไม่ต่ำกว่าอัตราการเติบโตรถจักรยานยนต์ในแต่ละปี เมื่อเทียบกับยอดสัญญาปล่อยใหม่ในปีก่อนหน้า และกำหนดเป้าหมายรักษาส่วนหนี้สงสัยจะสูญต่อลูกหนี้หลังหักดอกเบี้ยเช่าซื้อไม่ถือเป็นรายได้ ให้อยู่ระดับไม่เกิน 10% ในภาวะปกติ และไม่เกิน 15% ในสภาวะไม่ปกติ ซึ่งจะมุ่งเน้นการปล่อยสินเชื่อไปที่ตลาดเดิม เนื่องจากมีช่องทางเข้าถึงลูกค้าได้อีกมาก และแม้การแข่งขันในตลาดจะค่อนข้างรุนแรง แต่ที่ผ่านมาก็มีส่วนแบ่งการตลาดในทุกพื้นที่ที่เข้าไปถึง แสดงถึงความสามารถในการแข่งขันที่แข็งแกร่ง

** วางเป้าเป็นทั้ง Growth stock และ Dividend Stock
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้กำหนดนโยบายการจ่ายเงินปันผลไว้ไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ วางเป็นทั้งหุ้น Growth stock และ Dividend Stock สร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้กับนักลงทุนในระยะยาว จึงเชื่อว่าปัจจัยเหล่านี้ได้สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน และมั่นใจว่าหลังเข้าทำการซื้อขายในวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้ S11 จะไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง

** อันเดอร์ไรท์ยันราคา IPO มีส่วนลด 50% เทียบ P/E ธุรกิจเดียวกัน
นายชาญชัย กงทองลักษณ์ กรรมการอำนวยการ บล.ทรีนีตี้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นไอพีโอ S11 เปิดเผยว่า ราคาขายหุ้น IPO ที่ 5.30 บาท ซึ่งถือว่าเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐาน คิดจากอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ (P/E) ที่ 20.38 เท่า ซึ่งคำนวณจากกำไรสุทธิ 4 ไตรมาสหลังสุด โดยมีส่วนลดให้กับนักลงทุนกว่า 50% เมื่อเทียบกับ P/E ของคู่แข่งในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดี เพราะนอกจากศักยภาพที่เติบโตที่ดีในอนาคต บริษัทฯยังมีอัตรากำไรสุทธิกว่า 20% ขณะที่มี NPL เพียง 7-8% เท่านั้น น้อยกว่าอุตสาหกรรมที่อยู่ราว 10%

** โบรกฯให้เป้า 7 บ.
บทวิเคราะห์ บล.ทรีนีตี้ ระบุว่า S11 ทำธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ก่อตั้งมาเพียง 3 ปี แต่มีอัตราการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อรวดเร็ว และมีความสามารถในการทำกำไรที่โดดเด่น แม้ในช่วงที่เศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย
ทั้งนี้ บริษัทฯ ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2554 โดยทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในธุรกิจไม่ต่ำกว่า 20 ปี ซึ่งทำให้มีความคุ้นเคยกับผู้แทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ปัจจุบันเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจและพนักงานกระจายอยู่ใน 63 ร้านค้า และ 139 สาขา ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล อยุธยา และภาคตะวันออก ซึ่งเป็นตลาดที่ยอดขายรถจักรยานยนต์เติบโตสูง
แม้ในช่วงที่ธุรกิจเช่าซื้อประสบปัญหาจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และหนี้ครัวเรือนที่สูง แต่ในปี 2554-2556 พอร์ตสินเชื่อของบริษัทฯ เติบโตเฉลี่ยสูงถึงปีละ 94% ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าธุรกิจเดียวกันในตลาดฯ และ 9 เดือนของปี 2557 ที่ผ่านมายังเติบโตต่ออีก 20%YTD นอกจากนี้ด้วยความสามารถในการควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ทำให้งวด 9 เดือน Cost-to-income ratio อยู่ที่ 23% ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 148 ล้านบาท คิดเป็น ROE ราว 22% ซึ่งเป็นตัวเลขที่โดดเด่นกว่าธุรกิจเดียวกันอย่างมาก (โปรดดูรายละเอียดในหน้าที่ 6)
บทวิเคราะห์ระบุว่า เราคาดกำไรสุทธิสำหรับปี 2557 ที่ 187 ล้านบาท เติบโต 61%YoY ภายใต้สมมติฐานพอร์ตลูกหนี้เพิ่มราว 26%YoY สำหรับปี 2558-2560 จะได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยฟื้นกำลังซื้อภาคครัวเรือน อีกทั้งจะมีการเปิดสาขาใหม่ที่ระยองรองรับการขยายธุรกิจในภาคตะวันออก โดยทั้งสองปัจจัยนี้จะหนุนการเติบโตของสินเชื่อที่เราคาดไว้ปีละ 14-26% ขณะที่แนวโน้ม NPL ที่คาดว่าจะลดลงจะส่งผลให้ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญลดลงด้วย นอกจากนี้ต้นทุนทางการเงินมีแนวโน้มจะลดลงภายหลังการจดทะเบียนในตลาดฯ ซึ่งรวมทั้งหมดเป็นปัจจัยผลักดันที่ทำให้เราคาดว่ากำไรของบริษัทฯ ในช่วงดังกล่าวจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 30% ได้
ให้ราคาเป้าหมายปี 2558 ที่ 7 บาท อิง อิงค่า PER เฉลี่ยย้อนหลังของธุรกิจใกล้เคียงที่ 15 เท่า แต่หากเทียบกับธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์เหมือนกันแล้วถือว่ายังถูก นอกจากนี้คาดว่า Dividend Yield จะอยู่ที่ราว 3% ต่อปี ภายใต้สมมติฐาน Payout ratio ที่ 40%

** เครือข่ายพันธมิตรแข็งแกร่ง
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า เราเชื่อว่า S11 อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่จะเติบโตในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์เนื่องจากมีเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจกับร้านค้าที่แข็งแกร่ง ผู้บริหารมีประสบการณ์กว่า 20ปีจึงสามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดได้อย่างต่อเนื่องและมีฐานสินเชื่อที่ค่อนข้างต่ำจึงเติบโตได้เร็ว การซื้อขาย S11 อ้างอิงการเติบโตของผลประกอบการ 30-40% และ PER 15 เท่า คาดจะอยู่ในช่วง 6.40-7.00 บาท
ขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เติบโตเร็ว โดยรายได้ดอกเบี้ยจากการให้สินเชื่อเติบโตจากการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องของ S11 จากการขยายสาขาให้บริการ, ความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้แทนจำหน่ายและการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายแก่ร้านค้าต่างๆ โดยยอดการให้สินเชื่อเพิ่มขึ้นจาก 607 ล้านบาท ในปี 2554 เป็น 2.3 พันล้านบาท ในปี 2556 หรือเติบโตเฉลี่ย 100% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และยังเติบโตอีก 20% YTD เป็น 2.75 พันล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี 2557 ในขณะที่กำไรสุทธิเติบโตในงวด 9 เดือน ในปี 2557 เพิ่มขึ้น 38% YoY เป็น 148 ล้านบาท หรือคิดเป็น ROE ที่ 21.6%

** คาดกำไรปีนี้โต 40%
ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า บมจ.เอส 11 กรุ๊ป เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ครอบคลุมพื้นที่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล สัดส่วนสินเชื่อที่ปล่อยกว่า 90% เป็นยี่ห้อฮอนด้า รองลงมาเป็นยามาฮ่า คาวาซากิ และซูซูกิ
บริษัทมีกำไรโตก้าวกระโดดจาก 11 ล้านบาทในปี 2011 ซึ่งเริ่มกิจการ เป็น 116 ล้านบาทในปี 2013 และในงวด 9M14 กำไรโต 38% Y-Y ตามการขยายสาขาของ Dealer
เราคาดกำไรปี 2014-15 จะเติบโต 63% และ 40% ประเมินราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 6.65 บาท อิง PBV 2.5 เท่าและคิดเป็น PE 15 เท่า (FSS เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ S11)