April 19, 2024   5:31:34 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > 4 กลุ่มหุ้นเด็ด อสังหาฯ นำทัพ เตรียมเด้งรับดอกเบี้ยขาลง
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 25/02/2015 @ 08:12:52
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

บล.เอเซียพลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ก.พ.) แนะนำให้ลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง เริ่มจากกลุ่มได้ประโยชน์มากไปน้อยคือ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากหากดอกเบี้ยต่ำลงจะทำให้การโอนกรรมสิทธิ์ให้กับลูกค้าทำได้ง่ายขึ้น และการปฏิเสธสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยของสถาบันการเงินน้อยลง

อย่างไรก็ตามหากพิจารณาดัชนีกลุ่มอสังหาฯ พบว่าให้ผลตอบแทนแล้วราว 7.7% จากต้นปีจนถึงปัจจุบัน (จากปีก่อน) ซึ่งสูงกว่าดัชนีตลาดเล็กน้อย (SET ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 6.4% จากปีก่อน) แต่มีหลายบริษัทที่ให้ผลตอบแทนชนะตลาดอย่างมาก ได้แก่ KC 222%,SAMCO 96.6%, PRINC 62.7%, KTP 54.4%, NCH 45.5%, ROJNA 40.1%, MK 39.2%,PRIN 38.6%, BROCK 33.9%, SENA 33.3% ส่วนที่ให้ผลตอบแทนรองลงมาคือ SIRI 16.5%, MJD 15.8%, LH 13.8%, QH 13.7%, AP 13.4%, PS 13%, PF 13%, SC 10.4% RML 7%

ขณะที่ ยังมีบางบริษัทที่ยังปรับขึ้นน้อยกว่าตลาด ได้แก่ SPALI (FV@B31.96) จึงเลือกเป็น Top pick เนื่องจากนอกจากมี upside สูงแล้ว ยังมี PER ต่ำ 7.4 เท่า และ เงินปันผลสูง 5.37% จึงแนะนำให้ switch จากหุ้นที่ให้ผลตอบแทนชนะตลาด แต่มี PER สูงกว่า และ yield ต่ำกว่า เช่น PRIN, MK

สำหรับกลุ่มยานยนต์ เป็นอีกกลุ่มที่ได้รับผลบวกในเชิง sentiment แม้ดอกเบี้ยขาลง จะเอื้อต่อยอดขายรถยนต์ในประเทศไม่มาก เนื่องจากปัจจุบันดอกเบี้ยรถยนต์ใหม่อยู่ในระดับต่ำอยู่แล้ว โดยส่วนใหญ่อยู่ที่ 0-1% (พร้อมเงินดาวน์เฉลี่ย 20-25% ผ่อนชำระ 4-6ปี) แต่ปัจจัยที่ส่งผลกระทบมากกว่า คือ ความเข้มงวดในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อมากขึ้น ทำให้มีลูกค้าจำนวนมากที่ไม่ผ่านเงื่อนไข และไม่สามารถซื้อรถได้

ขณะที่โครงสร้างการเงินส่วนใหญ่มีหนี้สินน้อย โดยพบว่าดัชนีกลุ่มยานยนต์ให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับตลาดคือ 6.7% โดยหุ้นหลายบริษัทเริ่มขยับขึ้นใน 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ราคาตลาดยังต่ำกว่าเป้าหมาย ได้แก่ AH (FV@B16.7) พบว่าราคาหุ้น AH ให้ผลตอบแทน 11% แต่ราคาตลาดยังมี upside 9.1% ,SAT (FV@B22) พบว่าราคาหุ้น SAT ให้ผลตอบแทน 16.7% ราคาตลาดยังมี upside 16.4% ซึ่งถือว่าราคาหุ้นทั้ง 2 ยังมี upside พอสมควร และมีค่า Expected PER ปี 2558 ต่ำเพียง 9.2 เท่า และ 10.3 เท่า ตามลำดับ จึงยังแนะนำซื้อหุ้นทั้ง 2 บริษัท

สำหรับหุ้นลิสซิ่ง เป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง จากการปล่อยสินเชื่อ กล่าวคือ สินเชื่อแก่ลูกค้ารายย่อย มักจะคิดดอกเบี้ยในอัตราเบี้ยคงที่ (ในสัดส่วนที่สูงเมื่อเทียบกับปริมาณธุรกรรมทั้งหมด) ตรงกันข้ามกับต้นทุนการกู้ยืมของผู้ประกอบการ ส่วนใหญ่พึ่งพาภาระหนี้สินที่เป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว หากพิจารณาดัชนีกลุ่มการเงิน พบว่าให้ผลตอบแทนแล้ว 29% จากต้นปีจนถึงปัจจุบัน สูงกว่า

ขณะเดียวกันกลุ่มค้าส่ง หรือค้าปลีก ได้ประโยชน์จากการลดดอกเบี้ยฯ ในเชิงจิตวิทยา และเป็นปัจจัยบวกเรื่องที่ 2 ต่อเนื่องจากต้นทุนน้ำมันที่ลดลง ซึ่งจะช่วยให้ต้นทุนการดำเนินงานโดยรวมของกลุ่มฯ ลดลงได้บ้าง แม้จะไม่มากนัก แต่ช่วยบรรเทาผลกระทบของด้านรายได้ที่ยังรับผลจากปัญหากำลังซื้อชะลอตัว โดยพบว่าดัชนีกลุ่ม commerce ไม่เปลี่ยนแปลงมากนักเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2557 แต่หากพิจารณาเป็นรายตัวพบว่ามีหุ้นหลายบริษัทที่ให้ผลตอบแทนชนะตลาดได้แก่ CSS 42%, MIDA 37.3% ,KAMART 18.3% ,IT 17.8% ,MC 15.4% ,SINGER 11.8% ,BEAUTY 10.4% ,ROBINS 6.7% ยกเว้น CPALL -4.7%

อย่างไรก็ตาม แม้ CPALL จะเป็นบริษัทเดียวในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ย เนื่องจากมีหนี้สินสูงสุดในกลุ่ม คือ มีอัตราส่วน D/E อยู่ที่ 5.3 เท่า โดยมียอดหนี้สูงกว่า 1.8 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนที่มีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวราว 5 หมื่นล้านบาท จากการศึกษาพบว่า หากอัตราดอกเบี้ยลดลง 25 bps จะส่งผลให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นราว 1% จึงแนะนำให้สะสมหุ้น CPALL (FV@B53) ยังมี upside 30%

อีกทั้ง ROBINS (FV@B64) ซึ่งยังมี upside 33% อีกทั้งมีหลายบริษัทที่ให้ผลตอบแทนชนะตลาดอย่างมากได้แก่ THANI (FV@B4.9) 85.6%, GL (FV@B11.75) ให้ผลตอบแทน 67% แต่ล่าสุดได้ปรับเพิ่ม Fair Value ปี 2558 ขึ้นจากเดิม 56% เป็น 11.75 บาท

อีกทั้ง ML 61.5%, MTLS (FV@BN.A.) 61.5%, IFS(FV@B4.4) 59.2%, SAWAD (FV@B36.5) 50.6%, AMANAH 41.2%, TK(FV@B11) 39.2% เป็นต้น จึงแนะนำให้ขายทำกำไรระยะสั้นเป็นรายตัว โดยเฉพาะ THANI, TK, MTLS, IFS, AMANAH, ML เป็นต้น ยกเว้น ASK ซึ่งให้ผลตอบแทน 19% จากต้นปีจนถึงปัจจุบัน และล่าสุดได้ปรับ Fair Value จากเดิม 24.9 บาท เป็น 30.1 หรือ เพิ่มขึ้น 20% โดย Fair Value ใหม่จะมี upside 30% และ GCAP ยังมี upside 33% แม้จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 33% จากต้นปีจนถึงปัจจุบัน แต่มีจุดเด่นคือ มีค่า Expected PER 12 เท่า และเงินปันผลราว 4.3% ต่อปี จึงเลือก ASK และ GCAP เป็น Top picks


 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com