ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.30 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.55/57 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวยืนอยู่ในแดนบวกช่วงเช้าวันนี้

ทั้งนี้นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ในระยะสั้นตลาดมีแนวโน้มแกว่งตัวสร้างฐานกรอบ 1,590-1,620 จุด ขณะที่คาดปริมาณการซื้อขายลดลง สำหรับประเด็นในประเทศยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ อีกทั้งต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่อง

หุ้นเด่นเลือก KBANK-KTB-SCC-AOT-SIRI-TISCO-INTUCH-BANPU-JMART-TASCO-GENCO-BJCHI-QH



บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (20 ก.พ.) สำหรับแนวโน้ม SET ระยะสั้นมีแนวโน้มแกว่งตัว “สร้างฐาน” กรอบ 1,590-1,620 จุด ด้วยปริมาณการซื้อขายลดลง ขณะที่คงมุมมองเชิงบวกระยะสัปดาห์ต่อไปด้วยเป้าหมายหลัก 1,650/1,700 จุด โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตามจากการเจรจาขอยืดหนี้ของกรีซในการประชุมคืนวันศุกร์นี้ ขณะที่ Fed มีแนวโน้มคงดอกเบี้ยต่ำนานกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม

ทั้งนี้ มีมุมมองเชิงบวกระยะสัปดาห์ จากมาตรการ QE ของ ECB, แรงกดดันจากความกัวหนี้กรีซลดลง, และ Fed มีแนวโน้มคงดอกเบี้ยต่ำนานกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม จึงแนะนำ “ซื้อ” หุ้นใหญ่พื้นฐานดี อย่าง KBANK-KTB-SCC (ต้าน 540 บาท) และ AOT รวมไปถึงกลุ่มเด่นใน Tactical Portfolio รวมไปถึงกลุ่มหุ้น Dividend Yield สูงอย่าง SIRI-TISCO-INTUCH-BANPU (ล่าสุดราคาถ่านหิน BJI ปรับสูงขึ้น +2.35/ตัน ที่ US$72.3/ตัน)



บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (20 ก.พ.) มุมมองทางเทคนิค – SET แกว่งแคบๆบนเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันที่ 1586 ยังเป็นสัญญาณบวกในขณะที่ดัชนีกำลังทดสอบเส้นแนวต้านที่เส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน ที่ 1604 เห็นว่าสัญญาณกราฟของ SET ยังแสดงสัญญาณขาขึ้นและ MACD มีค่าเป็นบวกที่ 8.97 แนวโน้มของ SET มีโอกาสพัฒนาเป็นแนวโน้มขึ้นได้โดยการกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1604

แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบแนวรับ 1586-1604 จุดหุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไรที่กรอบแนวรับ-แนวต้าน หุ้นที่น่าสนใจ BANPU-JMART



บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (20 ก.พ.) KGI คาด SET วันศุกร์แกว่งแถว 1,600 จุดต่อไป รอผลประชุมรอบใหม่ของกรีซกับเจ้าหนี้คืนวันนี้ โดยมองว่า 2 ฝ่ายจะตกลงกันได้ หลังทำสงครามจิตวิทยาตั้งแต่วานนี้ (19 ก.พ.) กรีซขอยืดหนี้ 6 เดือนแต่เยอรมันปฎิเสธ ชี้ช่องให้เจรจาใหม่วันนี้ ด้านตลาดน้ำมันค่อนข้างแข็ง แม้ช่วงเทรดจะร่วงแรงตามตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 7.7 ล้านบาร์เรลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว (ตลาดคาดเพิ่ม 3.7 ล้านบาร์เรล) แต่สามารถดีดมาปิดบวก 3.3%

ทั้งนี้ KGI คงมุมมอง SET แกว่งตัว และในสัปดาห์หน้าเป็นต้นไปคาดว่าปัจจัยภายนอกจะเปลี่ยนจากยุโรปไปที่สหรัฐฯ เริ่มจากการประชุมพิเศษของประธานเฟดกับคองเกรสสหรัฐฯ ในวันที่ 24 ก.พ. เรื่องแนวโน้มดอกเบี้ย คงแนะนำซื้อเก็งกำไร mid caps และสะสมหุ้นปันผลเด่นต่อ

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน เก็งกำไร TASCO (กำไรดีกว่าคาด-แตกพาร์) , GENCO /สะสม BJCHI



บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (20 ก.พ.) คงมุมมองต่อการลงทุนเป็น “กลาง” วันที่ 20 แม้ว่าราคาน้ำมันดิบ NYMEX จะปรับตัวลงคืนวานนี้ แต่ยังสามารถยืนเหนือ US$50/barrel ได้ คาดว่าจะช่วยปิดความเสี่ยงของกลุ่มน้ำมันในวันนี้ได้เป็นอย่างดี ขณะที่เม็ดเงินทุนต่างชาติมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่องจากวานนี้ คาดว่า SET INDEX แกว่งกรอบแคบต่อเนื่องระหว่าง 1,590-1,610 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบางต่อเนื่อง

สำหรับสถานการณ์กรีซ และอียู ยังคงต้องรอการพิจารณาจากอียูในคืนนี้ ว่าจะพิจารณาข้อเสนอของกรีซอย่างไร แม้ว่าเจ้าหนี้หลักอย่างเยอรมันจะออกมากดดันกรีซให้ปฎิบัติตามเงื่อนไขเดิมที่ตกลงกันไว้ก็ตาม แต่เชื่อว่ากรีซและเจ้าหนี้จะประนีประนอมและตกลงกันได้

โดยปัจจัยสำคัญในสัปดาห์หน้า ให้น้ำหนักกับตัวเลขเศรษฐกิจเดือนม.ค.ของไทย โดยเฉพาะตัวเลขการบริโภคภายในประเทศ และการส่งออก เนื่องจากถือว่าเป็นตัวแปรสำคัญที่จะชี้ถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไทยในปีนี้ได้มากน้อยเพียงใด นอกเหนือไปจากการท่องเที่ยว และการลงทุนจากภาคเอกชนที่เชื่อว่าจะดีต่อเนื่องจากปลายปีที่ผ่านมา

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ “นักลงทุนทยอยสะสมหุ้นเป้าหมาย หากราคาย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย” เน้นหุ้นขนาดกลางที่แนวโน้มผลการดำเนินงานเติบโตโดดเด่น หรือหุ้นหลักที่ให้ผลตอบแทนปันผลงวดนี้ที่อยู่ในระดับสูง เป็นทางเลือกของการลงทุน

Accumulative Buy BJCHI-TASCO



บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์ (20 ก.พ.) ทิศทางตลาด Sideway โดยคาดยังมีความผันผวน ภายใต้ปัจจัยต่างประเทศ สำหรับประเด็นการเจรจาหาทางออกปัญหาหนี้ของกรีซ หลังยื่นขอต่ออายุข้อตกลงเงินกู้ในโครงการความช่วยเหลือออกไปอีก 6 เดือน แต่ยังคงคัดค้านมาตรการรัดเข็มขัด ซึ่งไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของกลุ่มเจ้าหนี้

อย่างไรก็ตามจะมีการประชุม รมต.คลังยูโรโซน อีกครั้งในวันนี้ เพื่อพิจารณาข้อเสนอของกรีซ ขณะที่มาตรการความช่วยเหลือทางการเงินของสหภาพยุโรป (EU) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่มีต่อกรีซ จำนวน 240,000 ล้านยูโร หรือ 270,000 ล้านUSD จะครบกำหนด 28/2/57 อีกทั้งราคาน้ำมันที่คาดว่ายังกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงาน

ด้านประเด็นในประเทศ ยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ คาดน้ำหนักต่อ Fund Flow ยังเป็นลบ หลังต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่อง และทำให้ YTD เป็นขายสุทธิสะสม ประมาณ 1,086 ล้านบาท แต่ในระยะกลางยังมีมุมมองที่ดีต่อ Fund Flow ที่คาดได้รับปัจจัยหนุนบ้างจากประเด็นการเริ่มใช้วงเงิน QE ของ ECB ตั้งแต่เดือนมี.ค. เป็นต้นไป ขณะที่ยังแนะติดตาม การเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณของหน่วยงานต่างๆ เพื่อใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ หลังเงินเฟ้อล่าสุดติดลบ และประเด็นการเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาสที่ 4/57 และเงินปันผลในช่วงสิ้นเดือนกพ.

รวมถึงการประชุมกนง. ในวันที่ 11 มี.ค.58 หลังเรียกร้องให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อลดผลกระทบเงินบาทที่แข็งค่า และเริ่มส่งผลต่อผู้ประกอบการส่งออก หากมีการลดดอกเบี้ยนโยบายจะส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจ และหุ้นในกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เช่น PS และ QH

หุ้นแนะนำ QH