March 29, 2024   6:07:39 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เคาะ 17 หุ้นเด็ด ชิงเก็บหุ้นราคาต่ำเกินพื้นฐาน
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 17/12/2014 @ 08:38:08
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.33 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.96/98 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง เนื่องจากราคาน้ำมันยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้จุดกระแสวิตกกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยมีโอกาส Rebound ทางเทคนิคหลังปรับลดลงแรงวานนี้ อย่างไรก็ตามการปรับลดลงของตลาดหุ้นสหรัฐและราคาน้ำมันยังเป็นปัจจัยกดดันให้ดัชนีผันผวนสูง ขณะที่เชื่อว่าจะไม่ปรับลงต่ำกว่าแนวรับสำคัญที่ 1,450 เนื่องจากตลาดบ้านเราได้ปรับลงมาแรงกว่าตลาดเพื่อนบ้านแล้ว นอกจากนี้เชื่อว่าจะมีแรงหนุนจาก LTF, RMF และกองทุนทริกเกอร์ฟันด์

การลงทุนเน้นกลุ่มที่ได้ผลประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ลดลง และกลุ่มที่ราคาปรับลงต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐาน รวมถึงหุ้นที่จ่ายปันผลเด่นและผลการดำเนินงานไตรมาส 4 มีแนวโน้มดี หุ้นเด่นเลือก PS-BBL-SCB-KBANK -ADVANC-RCL-AAV-TASCO-SUPER-PYLON-BEAUTY-IFEC-LPN-PTT-VGI-ITD และ IFEC



บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (16 ธ.ค.) คงมุมมองต่อการลงทุนในวันนี้เป็น “กลางถึงบวก” ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 หลัง SET INDEX ปรับฐานลงหลุดแนว 1,400 จุด ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายวานนี้ โดยที่ปัจจัยพื้นฐานการลงทุนแข็งแกร่งไม่เปลี่ยนแปลงจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงและมีแนวโน้มทรงตัวในระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง แม้ราคาน้ามันดิบจะเริ่มฟื้นตัวในคืนวานนี้ ย่อมเป็นบวกช่วงสั้นๆ ต่อกลุ่มพลังงาน / กลุ่มปิ โตรเคมี แต่เชื่อว่า 2 กลุ่มนี้ฟื้นตัวได้อย่างจำกัด ขณะที่กลุ่ม Domestic Play กลับฟื้นตัวได้ดีและต่อเนื่องในความเห็นของเรา

อย่างไรก็ตาม SET INDEX ในช่วงที่เหลือของเดือนนี้ ประเมินกรอบแกว่งระหว่าง 1,440-1,500 จุด แต่อาจเปิดเหนือ 1,500 จุด ได้ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี จากการทำ Window Dressing รวมถึงเม็ดเงินใหม่ทั้งจากกองทุน LTF / RMF และการทยอยออกขายกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ในช่วงนี้ ขณะที่แรงขายจากต่างชาติ เชื่อว่าจะชะลอตัวและเบาบางลงในช่วงที่เหลือของปี ขณะที่ตลาด Nikkei เช้านี้ เปิดลบ 1.70% (7.31 น.) จากค่าเงินเยนที่แข็งค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้ “เก็งกำไร” หุ้นที่ปรับฐานลงแรงในวานนี้ ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งไม่เปลี่ยนแปลง และ “สะสม” หุ้นปันผลเด่นในงวดการจ่ายรอบนี้

Top Pick in 4/14: BEAUTY / IFEC/ LPN/ PTT/ VGI

HOLD: SAMART/ SPCG/ IFEC/ BTS/ SIM/ CK/ LPN/ VGI/ PTT/ KTB

Speculative Buy: ITD

Accumulative Buy: IFEC



บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (16 ธ.ค.) ว่า สำหรับแนวโน้ม SET วันนี้ แม้มีโอกาส Rebound หลังปรับลดลงแรงเมื่อวานนี้ และในทางเทคนิคมีแท่งเทียนรูปแบบ Hammer อย่างไรก็ตามการปรับลดลงของตลาดหุ้น Dow Jones และราคาน้ำมันต่อเนื่อง เมื่อคืนนี้ ทำให้การ Rebound จะเป็นไปอย่างจำกัดที่ 1,500-1,520 จุด และภาพ SET โดยรวมยังมีความ “ผันผวน” สูงต่อไป

การ Rebound ของ SET ไปที่ระดับ 1,500-1,520 จุด ระยะสั้น เป็นจังหวะในการ “ลดพอร์ต” ออกไปก่อนเพื่อ รอ “ซื้อคืน” ที่บริเวณแนวรับหลัก 1,400 จุด ซึ่งเป็นจุดที่ SET มี Downside Risk จำกัดทางเทคนิค และด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจ และกำไรบริเวณจดทะเบียนที่เร่งตัวขึ้นในปี 2015 ทำให้ยังมีมุมมอง “บวก” ต่อ SET ระยะยาวต่อไป



บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (16 ธ.ค.) ว่า หุ้นตกเกินพื้นฐาน แม้หลังปรับลดกำไรตลาดปีนี้ 3.6% และปีหน้า 3.4% ทำให้ SET มีค่า Expected P/E 14 เท่า เป็นระดับที่น่าสนใจ จึงเพิ่มน้ำหนักการลงทุนเป็น 50% จากเดิม 30% และยังแนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันขาลง เลือก RCL (FV@B11.8), AAV (FV@B6) เป็น Top picks



บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (16 ธ.ค.) คาดว่าตลาดไทยวันนี้จะยังคงอยู่ในช่วงผันผวนเชิงลบ หลังราคาน้ำมันดิบปรับลงแรงต่อเนื่อง ทำให้มีแรงขายในกลุ่มพลังงานทั่วโลก อย่างไรก็ตาม แนวรับสำคัญอยู่ที่ 1,450 น่าจะเอาอยู่ เนื่องจากตลาดไทยได้ปรับลงมาแรงกว่าตลาดเพื่อนบ้านแล้ว ประกอบกับเม็ดเงิน LTF RMF และกองทุนทริกเกอร์ฟันด์จะเข้าช่วยพยุงตลาดในเร็วๆ นี้

แนวรับ/แนวต้าน: 1,450/1,560

กลยุทธ์: เป็นโอกาสดีที่จะเริ่มสะสมหุ้น หากดัชนีปรับลงแรง โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากนโยบายรัฐบาล เช่น กลุ่มรับเหมาและกลุ่มพลังงานทดแทน

นักลงทุนระยะสั้น: TASCO (70), SUPER (21)

นักลงทุนระยะยาว: IFEC (18), PYLON (12)



บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (16 ธ.ค.) ว่า การปรับตัวลดลง 2.4.% ของดัชนีฯ จะเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับการลดลงของตลาดต่างประเทศในวันก่อนหน้า และตัดผลลบของข่าวลือออกไปบางส่วน ในวันนี้การลดลงของราคาน้ำมันและดัชนีตลาดหุ้นต่างประเทศ จะยังทำให้นักลงทุนยังอาจชะลอการลงทุน เพื่อให้ความชัดเจนของทิศทางของตัวแปรหลายๆตัวของตลาดที่มีอยู่ในเวลานี้ การเกิด technical rebound แม้จะมีให้เห็นเช้านี้ แต่จะมีกรอบการเคลื่อนไหวที่จำกัด คือขึ้นไม่ได้มาก ขณะที่นักลงทุนก็พร้อมที่จะขายหุ้นหากตัวแปรเหล่านี้พลิกไปในทางลบ โดยเฉพาะราคาน้ำมันในตลาดโลก

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ การดีดตัวของราคาหุ้นน่าจะเป็นแบบ technical rebound ดีดตัวขึ้นแต่จะไม่รุนแรง สำหรับหุ้นขนาดใหญ่ จึงเหมาะกับการถือหุ้นรอมากกว่า แต่สำหรับจังหวะการเข้าซื้อ ควรรอให้ดัชนีฯทรงตัวหรือมีแนวโน้มที่จะเป็นบวก โดยเน้นหุ้นใหญ่ตัวหลักๆ ที่ราคาปรับตัวลงมามากไว้ก่อน เช่น BBL, SCB, KBANK และ ADVANC และเก็งกำไรช่วงสั้นๆ เนื่องจากตลาดยังมีความผันผวนสูง

Stock in Focus: PS เก็งข่าวลดดอกเบี้ย หากการประชุม กนง. ในวันพรุ่งนี้ (17 ธ.ค.)

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com