March 29, 2024   1:28:50 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > หุ้นท่องเที่ยวเข้าไฮซีซั่น-ERWราศีจับ
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 09/12/2014 @ 08:20:39
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

กูรูประสานเสียง เชียร์ลงทุนหุ้นท่องเที่ยว รับธุรกิจเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น แถมภาพรวมอุตสาหกรรมฟื้นตัวต่อเนื่อง หลังจำนวนนักท่องเที่ยวมีแนวโน้มพุ่ง 12% ในปี 58 ด้านเอเซีย พลัส มอง ERW เด่นสุด เหตุผลประกอบการเทิร์นอะราวด์ ให้ราคาเป้าหมาย 6 บาท ส่วนดีบีเอสฯเชียร์ซื้อ MINT เพราะชอบกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ พร้อมเปิดช่องซื้อกิจการเพิ่มเติม ให้ราคาพื้นฐาน 41 บาท ด้าน AOT ส่งสัญญาณปีหน้างบดีต่อเนื่อง

*** ลุยหุ้นท่องเที่ยวรับไฮซีซั่น
บริษัทหลักทรัพย์(บล.) เอเซียพลัส ระบุว่า เข้าสู่ช่วงปลายปีที่เป็นช่วง high season ของธุรกิจท่องเที่ยว พบว่า แนวโน้มของอุตสาหกรรมฯ มีการฟื้นตัวได้เป็นลำดับ ดังจะเห็นได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวเดือน ต.ค.2557 ที่มีจำนวน 2.18 ล้านคน หรือเติบโต 6.1% yoy ซึ่งถือเป็นการขยายตัวเป็นบวกครั้งแรก หลังจากติดลบมานาน 8 เดือนติดต่อกัน ส่งผลให้ภาพรวมของการท่องเที่ยวในประเทศไทยในรอบ 10 เดือนของปีนี้ มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนกว่า 19.7ล้านคน แม้จะลดลงราว 8.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มีนักท่องเที่ยวราว 19.74 ล้านคน เนื่องจากปัญหาความไม่สงบทางการเมืองช่วงต้นปี แต่ก็ได้มีการเร่งส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวตลอดถึงสิ้นปี ??
โดยคาดว่าแนวโน้มเดือน พ.ย. และ ธ.ค. 2557 ซึ่งเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวเต็มตัว และเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวฝั่งยุโรปและอเมริกานิยมเดินทางมาไทย น่าจะทำให้ปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องสูงกว่าระดับ 2.1 ล้านคน/เดือน และส่งผลให้ทั้งปี 2557 คาดมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 25 ล้านคน หดตัวน้อยลงเหลือ 5.8% yoy แต่แนวโน้มในปี 2558 คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้น 12% สู่ระดับ 28 ล้านคนในปี 2558 ตามภาวะของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) คาดว่าในปีนี้รายได้จากการท่องเที่ยวจะอยู่ที่ราว 1.14 ล้านล้านบาท ลดลงจากปีที่ผ่านมาที่ 1.17 ล้านล้านบาท ขณะที่แนวโน้มปี 2558 จะขยายตัวเพิ่มขึ้น สร้างรายได้กว่า 2.2 ล้านล้านบาท ??

*** ERW โดดเด่นสุด ให้เป้าหมาย 6 บาท
บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว ส่งผลบวกต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มโรงแรมและอาหาร ได้แก่ MINT (FV@B 40) รายได้จากธุรกิจขายอาหารและเครื่องดื่ม 40% และธุรกิจโรงแรม 45%, CENTEL (FV@B 46) รายได้จากธุรกิจขายอาหาร 45% และธุรกิจโรงแรม 50% และ ERW (FV@B 6) ที่รายได้หลักๆ มาจากธุรกิจโรงแรม รวมทั้งหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง ได้แก่ AOT (FV@B 320), AAV (FV@B 4.95), THAI (FV@B15.1) โดยหุ้นทั้งสองได้รับประโยชน์อีกต่อจากต้นทุนราคาน้ำมันเครื่องบินที่ลดลง โดยปัจจุบัน ฝ่ายวิจัยยังคงสมมติฐานต้นทุนน้ำมันเครื่องบินที่ 115 เหรียญฯต่อบาร์เรล (เทียบเท่ากับสมมติฐานน้ำมันดิบดูไบ 90 เหรียญฯต่อบาร์เรล) หากปรับสมมติฐานลงจากเดิม 20 เหรียญฯต่อบาร์เรล คาดว่าจะช่วยเพิ่มกำไรปี 2558 จากสมมติฐานเดิมให้กับ AAV เพิ่มขึ้นราว 412% และ THAI เพิ่มขึ้นราว 79% และจะหนุนมูลค่าพื้นฐานของ AAV และ THAI ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาจากเดิมหุ้นละ 4.95 และ 15.1 บาท เป็นหุ้น 5.2 และ 16.8 บาทต่อหุ้น ??
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยยังชื่นชอบ ERW ที่เป็นหุ้น Turnaround โดยคาดหมายว่าผลประกอบการปี 2558 จะพลิกกลับจากที่คาดว่าจะขาดทุน 162 ล้านบาท (ไม่รวมรายการพิเศษ) ในปี 2557 มาเป็นกำไร 200 ล้านบาท โดยแรงขับเคลื่อนกำไรจากการดำเนินงานปี 2558 มี 2 ส่วน ได้แก่ รายได้ต่อห้องพักเฉลี่ย (Rev Par) ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 16% YoY ซึ่งเห็นสัญญาณได้ชัดเจนจากการกลับมามี Occupancy Rate แตะระดับ 80% ของโรงแรมหลักในกลุ่ม อีกส่วนหนึ่งเกิดจากจำนวนห้องพักที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดโรงแรงใหม่มากถึง 12 แห่งในระหว่างปี 2557
นอกจากนี้ยังมีรายการที่ยังไม่ถูกรวมไว้ในประมาณการคือ แผนการขายโรงแรง IBIS 2 แห่งเข้ากองทุน REITs ในช่วง 2Q-3Q58 (ซึ่งเป็นช่วง Low Season ของการท่องเที่ยว)โดยคาดว่าจะมีกำไรจากรายการดังกล่าวหลังภาษี ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท นอกจากนี้ยังสี่งบวกไปถึงหุ้น SPF (กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาฯ สนามบินสมุย) ก็ได้รับผลดีดังกล่าวด้วยเช่นกัน โดยคาดว่ารายได้ค่าเช่าและบริการของกองทุนในปี 2557 จะเติบโต 6%yoy ตามการขยายเส้นทางการบินเพื่อเพิ่มจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสาร โดยทั้งปี 2557 คาดหมายเงินปันผลรวม 1.30 บาท/หน่วย เทียบเท่า Div Yield เฉลี่ย 7.5% ต่อปี จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนรับเงินปันผล

*** ดีบีเอสฯเชียร์ MINT ให้ราคาพื้นฐาน 41 บาท
ด้านบล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส ระบุว่า แนะนำซื้อ MINT ให้ราคาพื้นฐาน 41 บาท โดยมองว่าธุรกิจเริ่มฟื้นใน 4Q57 ขณะที่ในปี 58 ยังเติบโตแข็งแกร่ง โดยธุรกิจใน 4Q57 ฟื้นตัวดีขึ้น ทั้งในส่วนของธุรกิจโรงแรมและอาหาร เนื่องจากเข้าสู่ High Season ของการท่องเที่ยวและการจับจ่ายใช้สอยในช่วงปลายปี เราประมาณการว่ากำไรสุทธิปี 57 จะขยายตัวราว 8-9%YoY ใกล้เคียงกับช่วง 9M57 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าปกติของบริษัทเนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองในช่วง 1H57
ส่วนแนวโน้มกำไรสุทธิปี 58 คาดว่าจะขยายตัวก้าวกระโดด 28% ซึ่งเป็นผลจากฐานกำไรที่ต่ำในปี 57 และการขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศของบริษัท มีแผนขยายรายได้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้นในระยะยาว บริษัทมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเป็น 45% ภายในปี 2560 จากปัจจุบันที่ 38% และมีเป้าหมายสัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงแรม 48% ธุรกิจอาหาร 43% และที่เหลือเป็นอื่นๆ แนะนำซื้อลงทุน เนื่องจากชอบกลยุทธ์ทางธุรกิจของบริษัทที่มีการลงทุนทั้งในและต่างประเทศก่อให้เกิดการกระจายความเสี่ยงและเปิดช่องทางการเติบโตที่ดีในระยะยาว ปัจจัยกระตุ้น คือ การเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติม

*** AOT มั่นใจรายได้ปี 58 แจ่ม รับท่องเที่ยวฟื้น
นางพูลศิริ วิโรจนาภา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานบัญชีและการเงิน) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2557 ทอท. มีรายได้รวม 39,770 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 12,220 ล้านบาท ซึ่งแม้ว่ากำไรสุทธิในปีนี้จะน้อยกว่าปีที่แล้วที่อยู่ที่ 16,347 ล้านบาท แต่เมื่อปรับตัวเลขรายการพิเศษ (one-time item) ที่รวมถึง กำไร/ขาดทุนจากการกลับรายการด้อยค่าสินทรัพย์ของท่าอากาศยานดอนเมืองและอัตราแลกเปลี่ยนแล้ว พบว่ากำไรสุทธิปีนี้อยู่ที่ 11,937 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อนที่อยู่ที่ 9,952 ล้านบาท
ทั้งนี้ เมื่อมองถึงรายได้ในปีนี้พบว่ามีอัตราเติบโตลดลงเกือบ 4% เนื่องจากผลกระทบจากความไม่สงบทางการเมือง แต่ ทอท.ได้พยายามรักษาสถานการณ์โดยการออกมาตรการประหยัดค่าใช้จ่าย ทำให้สามารถสามารถรักษาอัตราการเติบโตของกำไรจากการดำเนินงานไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีอัตรากำไรจากการดำเนินงานต่อรายได้คิดเป็น 40% อย่างไรก็ดี หลังจากที่ คสช. ได้เข้ามาบริหารจัดการประเทศ รวมถึงการยกเลิกเคอร์ฟิวและกฏระเบียบที่มีผลกระทบต่างๆ พบว่ามีแนวโน้มในการท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งทำให้ AOT มั่นใจว่าในปี 2558 จะสามารถผลักดันการเติบโตของรายได้ได้อย่างเป็นปกติ
สำหรับผลประกอบการของ ทอท. งวดสิ้นปี 2557 เริ่ม 1 ต.ค. 56 สิ้นสุด 30 ก.ย. 57 มีรายได้จากการขายและการให้บริการรวมอยู่ที่ 37,585.46 ล้านบาท คิดเป็นรายได้เกี่ยวกับกิจการการบิน 21.893.08 ล้านบาท รายได้ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการการบิน 15,692.38 ล้านบาท และรายได้อื่นๆ 2,185.27 ล้านบาท
“ทอท.ได้บริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพและมีการพัฒนาศักยภาพในทุกๆ ด้าน ส่งผลให้สัดส่วนรายได้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการการบินเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปตามแนวทางการทำงานแบบสากลของธุรกิจท่าอากาศยานทั่วโลก ที่ต้องเพิ่มรายได้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการการบิน เพื่อให้รายได้โดยรวมยังคงมีเสถียรภาพและไม่ผันผวนแม้จะเกิดสถานการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น เศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก วิกฤตการณ์โรคระบาด หรืออุทกภัย โดยรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบินจะเป็นตัวที่เกื้อหนุนให้รายได้โดยรวมมีความมั่นคงในระยะยาว”นางพูลศิริ กล่าว


*** จำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้น 9%
นางพูลศิริ กล่าวว่า สำหรับปริมาณการจราจรทางอากาศยานของท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ ทอท. งวดสิ้นปี 2557 ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยมีจำนวนเที่ยวบินรวม 609,937 เที่ยว เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 324,792 เที่ยว และเที่ยวบินภายในประเทศ 285,145 เที่ยวบิน ส่วนจำนวนผู้โดยสารรวม 87.57 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1.67% ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ ทอท.มีโครงการส่งเสริมและจูงใจสายการบินต้นทุนต่ำและสายการบินที่ไม่มีการเชื่อมต่อ รวมทั้งมีการจัดกิจกรรมต่างๆ และประกอบกับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา (visa fee)และ VISA On Arrival ประเภทนักท่องเที่ยวแก่ผู้ถือหนังสือเดินทางจีนและจีนไทเปเป็นการชั่วคราวซึ่งครบกำหนดไปเมื่อ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งสามารถจูงใจให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น และเชื่อว่าในปี 2558 จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ
ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของเที่ยวบินดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวที่เริ่มกลับมา สอดคล้องกับข้อมูลของกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ระบุถึงจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาใช้บริการที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคม 2557 เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2556 ว่า มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศมาใช้บริการที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจำนวน 10,354,106 คน ส่วนคนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศมีจำนวนเพิ่มขึ้น 8.49% ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากนโยบายส่งเสริมของภาครัฐและเอกชนที่ร่วมมือกันดำเนินการดังกล่าวคณะกรรมการ ทอท. และทีมงานบริหาร มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะให้ ทอท.มีความเจริญเติบโตก้าวหน้าอย่างยั่งยืน โดยมีการประสานความสัมพันธ์การบริหารในส่วนของการเพิ่มรายได้และการควบคุมค่าใช้จ่ายและการขยายประสิทธิภาพในการรองรับเที่ยวบินและผู้โดยสารอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาไว้ซึ่งการเป็นผู้ดำเนินการและจัดการท่าอากาศยานที่ดีระดับโลก


 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com