March 29, 2024   3:41:50 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ชง 14 หุ้นเด็ด เทรนด์บลูชิพมา ปัจจัยภายนอกดีดัชนีขึ้นต่อ
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 25/11/2014 @ 07:54:03
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.22 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.73/77 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังธนาคารกลางจีนได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะ 1 ปี ลง 0.25% สู่ระดับ 2.75% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปี ลง 0.4% สู่ระดับ 5.6% โดยมีผลตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยบวกต่อ ปัจจัยภายนอกสดใส ช่วงสั้นมีโอกาสไต่ระดับขึ้น ทดสอบ 1,585-1,590 จุด ระยะสัปดาห์ที่ 1,600 จุด และเป้าหมายปลายปีที่ 1,650 จุด และมีโอกาสที่จะเห็นเงินทุนต่างชาติสะสมหุ้นหลัก หุ้นเด่นเลือก GEL-KBANK-STEC-SEAFCO-PTTGC-ANAN-TRT-TASCO-BBL-KTB-CK-RS-SCB และ NWR




นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ สายงานลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่เสร็จสิ้นไปแล้ว ทำให้การดำเนินงานของบริษัท เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GEL มีความเป็นเอกภาพมากขึ้น และยังทำให้จำนวนหุ้นจดทะเบียนลดลงเหลือ 5,560 ล้านหุ้น ย่อมเป็นผลกับผู้ถือหุ้นที่คิดจะเข้ามาลงทุนในหุ้นตัวนี้โดยตรง เพราะการปรับรูปโฉมดังกล่าวเหมือนเป็นการล้างภาพหุ้นปั่นทิ้งไป

ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าไปรับงานในส่วนของการก่อสร้างเป็นมูลค่าหลายพันล้านบาท จึงเชื่อว่า ผลการดำเนินงานในปีหน้าจะเติบโตแบบก้าวกระโดด เพราะงานที่รับทำล้วนเกี่ยวข้องกับการ เสาเข็มคอนกรีตอัดแรง, ผลิตภัณฑ์คอนกรีตเสริมใยแก้ว ผนังคอนกรีตสำเร็จรูป พื้นคอนกรีตอัดแรงในที่ไร้คาน พื้นกึ่งสำเร็จรูปอัลฟ่าทรัส และปูนซีเมนต์พิเศษเด็นก้า ซึ่งเป็นงานที่ตัวบริษัทมีความชำนาญ

เหตุผลดังกล่าวทำให้กลุ่มผู้บริหารตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้โตเกิน 40% จากปีก่อน หลังได้เพิ่มกำลังการผลิตจนเต็มความสามารถของพื้นที่โรงงานในปัจจุบัน และได้วางแผนก่อสร้างโรงงานเพิ่มเติมในพื้นที่ใหม่ เพื่อรองรับคำสั่งซื้อจำนวนมากที่มีอยู่ นอกจากนี้บริษัทยังเพิ่มช่องทางการจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดเพิ่มเติม และจะทำให้ตัวเลขรายได้ และกำไรปี 58 น่าติดตามดูเป็นอย่างยิ่ง

ที่สำคัญคือ ถ้าติดตามความเคลื่อนไหวของบริษัทนี้อย่างใกล้ชิดจะเห็นว่า ตั้งแต่ GEL เริ่มทำธุรกิจในรูปแบบใหม่มาระยะหนึ่ง และผู้บริหารกลุ่มใหม่ยืนยันจะเข้ามาลงทุนระยะยาว และจะพยายามสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร หลังจากที่ผ่านมาถูกมองในแง่ไม่ดี ทั้งเรื่องการเปลี่ยนมือของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่บ่อยครั้ง คณะผู้บริหารมีการเปลี่ยนแปลงทุกปี รวมถึงประเด็นการเป็นหุ้นเก็งกำไร ก็ดูเหมือนว่า ปัญหาดังกล่าวจะลดน้อยลงไปจริงๆ

สิ่งที่นักลงทุนควรคิดถัดมาก็คือ ถ้าดูจากงบการเงินในมุมของส่วนผู้ถือหุ้นปรับปรุงหลังจากล้างขาดทุนแล้วจะพบว่า หุ้นตัวนี้มีความน่าสนใจค่อนข้างมาก โดยเฉพาะเมื่อคำนวณมูลค่า Book value ล่าสุดที่ระดับ 1 บาท นี่คือนวัตกรรมทางการเงินชั้นยอดในการปรับโครงสร้างทุนให้สดใสได้ในเวลารวดเร็ว และทำให้นักวิเคราะห์สามารถประเมินมูลค่าหุ้นได้ชัดเจนขึ้น

“ถ้าจะประเมินจาก premium ของ Book โดยใช้ PBV ที่ 2 เท่า จะได้มูลค่าเบื้องต้น 2 บาท หรือ upside ถึง 50%” นายเผดิมภพ กล่าว



บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (10 พ.ย.) ประเมินว่า SET INDEX ในช่วงสั้นนี้มีโอกาสไต่ระดับขึ้น ทดสอบ 1,590 จุด ผลักดันด้วยเงินทุนสถาบันภายในประเทศ จากเม็ดเงิน LTF และการปิดขาย IPO กองทุนทริกเกอร์ฟันด์ใน 1-2 วันนี้ วงเงิน 2.3 พันล้านบาท และมีโอกาสที่จะเห็นเงินทุนต่างชาติสะสมหุ้นหลัก หลังเสร็จสิ้นการโรดโชว์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เชื่อว่าหุ้น Big Cap และขนาดกลางที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/57 เติบโตเด่น และ/หรือ แนวโน้มในปี 2558 กำไรเติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มอุตสาหกรรมนั้นๆ

ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศเอื้อต่อการลงทุนในเช้าวันนี้ หลังธนาคารกลางจีน ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 25bps และอัตราดอกเบี้ย เงินกู้ 1 ปี มากถึง 40bps เย็นวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพคล่องทางการเงินตึงตัวจากการขาย IPO จานวน 11 บริษัทตลอดสัปดาห์นี้ในตลาดหุ้นจีน ตลาดประเมินว่าสภาพคล่องจะถูกดูดออกไปมากถึง 1 ล้านล้านหยวนทีเดียว

ดังนั้นในเชิงกลยุทธ์การลงทุน แนะนำ “นักลงทุนขายทำกำไรบางส่วนบริเวณ 1,590 จุด +/-‚ แต่หากหุ้นเป้าหมายราคาปรับตัวลงระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย อาจเข้าเก็งกำไรเพิ่มเติมได้เช่นกัน

กลยุทธ์การลงทุนช่วงสั้น MBKET แนะนา “ซื้อ เก็งกำ ไร” KTB / ANAN



บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (10 พ.ย.) SET มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นทะลุแนวต้านย่อยที่ 1,585 จุด วันนี้ และปรับสูงขึ้นต่อด้วยแนวโน้มระยะสัปดาห์ที่ 1,600 จุด และเป้าหมายปลายปีที่ 1,650 จุด ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) ธนาคารกลางจีน (PBoC) ประกาศลดดอกเบี้ยเงินฝากลง 0.25% เหลือ 2.75% และเงินกู้ลง 0.4% เหลือ 5.6% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นการปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกตั้งแต่ ก.ค.12 2) น้ำมันมีแนวโน้มฟื้นตัวก่อนการประชุม OPEC วันที่ 27 พ.ย.นี้ หนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน 3) แรงซื้อหุ้นจากกองทุน RMF LTF หนุน Domestic Plays โดยเฉพาะธนาคาร รับเหมาฯ

แนะนำ “ซื้อ” ธนาคาร รับเหมาฯ ที่เป็นเป้าหมายการเข้าซื้อของกองทุน RMF LTF และได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ อย่าง KBANK BBL CK STEC (“เก็งกำไร” SEAFCO) รวมไปถึง “ซื้อ” PTTGC ลุ้นน้ำมันฟื้นตัวก่อนประชุม OPEC



บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (10 พ.ย.) ว่า ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ บวกต่อ ปัจจัยภายนอกสดใส

KGI มอง SET วันจันทร์ปรับขึ้นต่อ รับจิตวิทยาบวกจากตลาดหุ้นโลก หลังเมื่อเย็นวันศุกร์จีนประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และหุ้นยุโรปพุ่งแรงเฉลี่ย 2.8% หลัง ECB ประกาศเริ่มซื้อพันธบัตร Asset-backed Securities เพิ่มเติมจากก่อนหน้าที่ซื้อ Covered Bonds ไปแล้ว

นอกจากนี้คาดมีแรงเก็งกำไรหุ้นกลุ่มรับเหมาและก่อสร้างต่อเนื่อง ก่อนหน้า ครม. ประชุมพรุ่งนี้อนุมัติ MoU รถไฟรางคู่ไทย-จีน คาดว่าแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันในประเทศจะเป็นปัจจัยหลักหนุน SET หลัง ก.คลังให้ความชัดเจนในสัปดาห์ที่แล้วว่าจะต่ออายุสิทธิประโยชน์ LTF และ RMF แนะนำถือหุ้นต่อหรือซื้อเก็งกำไร

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน เก็งกำไร TRT, TASCO / ซื้อหุ้นใหญ่ต่อ แบงก์ (BBL, KTB), รับเหมาฯ CK



บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (10 พ.ย.) แนะนำกลยุทธ์การลงทุน แม้ตลาดหุ้นไทยยังขาดปัจจัยชี้นำที่ชัดเจน แต่เชื่อว่ายังได้รับ Sentiment เชิงบวก จากที่จีนตัดลดดอกเบี้ยนโยบายลงน่าจะช่วยเพิ่ม Money Supply ในตลาดเอเซีย ขณะที่กลยุทธ์การลงทุนยังเน้นถือเงินสดส่วนใหญ่ และเลือกลงทุนรายหุ้น โดยยังเลือก RS (FV@B 13.20) เป็น Top pick



บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (10 พ.ย.) คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค - สุดสัปดาห์ SET ปรับขึ้นผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 10 ที่ 1,572 จุด ครั้งใหม่ด้วยแรงหนุนของเส้นค่าเฉลี่ย 25 ที่ 1,564 จุด ขณะที่ MACD เพิ่มขึ้นจากวันก่อนอยู่ที่ 3.64 สัญญาณทางเทคนิคระยะสั้นดีขึ้นซึ่งจะส่งผลให้เป็นแนวโน้มมีโอกาสพัฒนาเป็นขาขึ้นครั้งใหม่ต่อไป

แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบแนวรับ 1,572-1,595 จุด

หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไร SCB และ NWR

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com