April 20, 2024   2:11:21 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > บลูชิพเริ่มทำงาน : โมนิก้าและทีมงาน
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 24/11/2014 @ 08:17:42
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

*ดูเหมือนตลาดหุ้นจะเริ่มกลับเข้าสู่โมเมนตัมที่ควรจะเป็นอีกครั้ง จึงเห็นหุ้นกลุ่มบลูชิพเริ่มขยับแข้งขยับขามากขึ้นเรื่อยๆ จนดันดัชนีขึ้นมาปิดที่ 1,579.20 จุด บวกไป 10.52 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.01 หมื่นล้านบาท ตรงกับคอมเม้นท์ที่ “โมนิก้า” เม้าท์ให้ฟังเมื่อสัปดาห์ก่อนเป๊ะๆ ย่อมทำให้เดี๊ยนคาดหวังถึงปรากฏการณ์ December effect ได้อีกครั้ง เพราะมันไม่ใช่เรื่องมโน และเป็นยิ่งกว่าเรื่องจริงผ่านจอนะตัวเอง

*งานนี้ไม่ต้องถามถึงเหตุผลให้เปลืองน้ำลาย เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า วัฏจักรการลงทุนก็หมุนไปหมุนมาแบบนี้แหละ..หุ้นใหญ่หมดรอบ ก็หันไปเล่นหุ้นเล็ก เมื่อได้วงรอบใหม่ ก็หวนกลับไปหาหุ้นใหญ่ สลับผลัดเปลี่ยนแบบนี้ไปเรื่อยๆ “โมนิก้า” จึงขอเท้าความกลับไปยังเรื่องที่เม้าท์ไว้เมื่อวันพุธที่แล้วสักเล็กน้อย เพราะวันนี้ได้ประเมินสถานการณ์ต่างๆ ไว้หมดแล้วนะจ๊ะ

*เหตุการณ์ในวันนั้นเป็นการเม้าท์ถึงโมเมนตัมของการลงทุนเริ่มหันไปหาหุ้นบลูชิพมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ดัชนีทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.10 หมื่นล้านบาท คือข้อมูลจริงที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันมามองหุ้นเหล่านี้อีกครั้ง และกลุ่มหุ้นที่น่ามองสุดในสายตานักลงทุนต่างชาติเที่ยวนี้ ล้วนพุ่งเป้าไปที่หุ้นกลุ่มแบงก์ พลังงาน และ รับเหมาก่อสร้างนะจ๊ะ

*เหตุผลที่ทำให้เป็นเช่นนั้นมาจากโครงการรถไฟรางคู่ ควบด้วยเรื่องการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ ซึ่งฝรั่งตาน้ำข้าวมองเรื่องนี้เป็นแนวทางที่มาถูกทาง และการเข้าซื้อหุ้นเที่ยวนี้เป็นการประเมินอนาคตบริษัทยักษ์ใหญ่จะดีขึ้นล้วนๆ วันนั้นถึงเห็น ITDกระชากขึ้นพรวดเดียวขึ้นมาปิดที่ 6.85 บาท บวกไป 0.45 บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่าเกือบ 2 พันล้านบาท มันมีนัยในตัวมันเองอยู่แล้ว ขณะที่วันศุกร์ที่ผ่านมาขยับขึ้นมาปิดที่ 7.45 บาท บวกไป 0.55บาท หรือขึ้นไป 8% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.70 พันล้านบาท มันเป็นจังหวะต่อเนื่องที่ทำให้เชื่อว่า หุ้นจะไปต่อนะจะบอกให้

*เช่นเดียวกับ KTB ซึ่งเป็นแขนเป็นขาให้กับรัฐบาลดำเนินนโยบายด้านต่างๆ ได้อย่างราบรื่นนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นข้อมูลที่ทุกคนเข้าใจดีอยู่แล้ว เพียงแต่จังหวะไม่เอื้อ เลยไม่กล้าเข้าเก็บ พอทุกอย่างเริ่มชัดเจน แรงซื้อเริ่มไหลกลับ จึงกระโจนใส่กันอย่างเมามัน จนวอลุ่มโป่งไปถึง 2 พันล้านบาท ดันราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 24 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 4% เกจิอาจารย์ดังฟันธงฉับว่า รอบนี้ต้องได้เห็น 30 บาทนะตัวเอง

*เหมือนกับในรายของ KBANK SCB BBL ล้วนเป็นหุ้นแกนหลักที่โผล่ขึ้นมาให้เห็นเป็นประจำในยามที่โมเมนตัมของตลาดหุ้นกลับมาโฟกัสที่หุ้นบลูชิพ “โมนิก้า” ถึงเห็นหุ้นเหล่านี้กระชากขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และตัวที่แจ่มสุดในเที่ยวนี้เป็นรายแรก หลังทำ new high ที่ระดับ 250 บาท ส่วนรายรองลงมาเพิ่งกระชากขึ้นจากฐาน 185 บาท จึงคาดหวังราคา 200 บาทได้ ขณะที่รายหลังสุดต้องรอแรงซื้อแน่นกว่านี้อีกนิดหนึ่ง จึงจะมีสิทธิ์วิ่งกลับไปยังบริเวณ 215 บาท ภาพรวมๆ ยังเป็นอะไรที่น่าสนใจนะจ๊ะ

*เมื่อโอกาส และจังหวะเอื้อให้ขนาดนี้ หุ้นมหานิยมอย่างลูกอ๊อด AOT เลยได้รับผลดีตามไปด้วย แรงซื้อไหลมาเทมาตลอดทั้งวันก็จริง แต่จังหวะการขึ้นยังเนิบๆ ไม่กระโตกกระตาก ก่อนจะปิดที่ระดับ 264 บาท บวกไป 9 บาท หรือขึ้นไป 3.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1 พันล้านบาท มันเป็นอะไรที่แบเบอร์อยู่แล้วว่า มูลค่าของหุ้นตัวนี้สูงขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี.. สุวรรณภูมิเฟส 2 ขึ้นเต็มตัวเมื่อไหร่..หุ้นวิ่งไปรอล่วงหน้าทันทีพะยะค่ะ

*ส่วนหุ้นสื่อสารอาจไม่โดดเด่นเร้าใจ แต่ทุกตัวยังมีสตอรี่ทำให้หุ้นขึ้นไปได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะในรายของ TRUE เริ่มขยับขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะปิดที่ระดับ 11.40 บาท บวกไป 0.20 บาท วอลุ่มแน่นตามประสาหุ้นที่มีแบ็คอัพดี ซึ่งคล้ายคลึงกับกรณีของ ADVANC ในเมื่อทุกอย่างยังไปได้สวย ราคาหุ้นก็ควรขยับขึ้นเสียที แม้ในช่วงที่ผ่านมาจะโดนดักถล่มแถวๆ 240 บาท แต่รอบนี้ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้นอีก และการที่หุ้นปิดในระดับ 237 บาท จึงเป็นอะไรที่ต้องลุ้นกันตัวโก่งนะจ๊ะ

*สำหรับในรายของ DTAC อาจมีอะไรผิดพลาดทางเทคนิคไปบ้าง แต่เมื่อดูรวมๆ ราคาปิดที่ 95.50 บาท ลบไป 2 บาท หรือลงไป 2% ก็เป็นจุดที่เหมาะต่อการทยอยสะสมของ แถมตำราเซียนเทคนิคทุกเล่มเขียนเหมือนกันว่า double bottom แล้วหุ้นเด้งขึ้นอย่างร้อนแรงทุกที “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับ “ข่าวหุ้น” ที่สันทัดเรื่องกราฟแท่งเทียน ลองรับเรื่องนี้ไว้พิจารณาว่า จริงตามตำราไหม?

*ตบท้ายกันที่หุ้นต่ำสิบอย่าง NWR ซึ่งชอบทำตัวเป็นเหาฉลามเมื่อหุ้นกลุ่มรับเหมามายกแผง และที่เม้าท์ถึงในครั้งนี้ก็เพื่อเอาใจขาลุยที่กระโดดไปเล่นหุ้นตัวนั้นทีตัวนี้ที เพราะสเต็ปการขึ้นเที่ยวนี้ไม่มีอะไรให้ยึดเป็นสาระได้เลย และในส่วนที่พอพึ่งได้คงเป็นวอลุ่มที่หนาแน่นผิดปกติ หุ้นถึงเด้งขึ้นมาปิดที่ 2.10 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 6% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 200 ล้านบาท มันเป็นอะไรที่วัดใจมากๆ แถมระยะเวลา 1 ปีเต็มๆ หุ้นนิ่งเป็นสาก ทำให้การขึ้นครั้งนี้เป็นอะไรที่หาเหตุผลยากมากๆ เจ้าค่ะ

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com