March 29, 2024   2:23:51 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > CBGกำไรกระโดด-ลุ้นหุ้นยืนเหนือจอง
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 21/11/2014 @ 08:24:11
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

"คาราบาวกรุ๊ป" ประเดิมลงสนามเทรดใน SET วันแรก ลุ้นราคายืนเหนืองจอง 28 บาท เหตุพื้นฐานแกร่ง กำไรเฉลี่ยตั้งแต่ปี 54-56 โตปีละกว่า 75% ขณะที่งวด 9 เดือนแรกปี 57 โตขึ้นอีก 68% ผู้บริหารตั้งเป้าปีหน้ากำไรโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 25% หลังนำเงินระดมทุน 4.2 พันล้านบาท ไปคืนหนี้ลดต้นทุนดอกเบี้ย-ขยายกำลังผลิตเครื่องดื่มบำรุงกำลัง-ซื้อที่ดินเพิ่ม วางแผนการตลาดรุกทั้งในและต่างประเทศ มั่นใจนักลงทุนตอบรับดี



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บมจ.คาราบาวกรุ๊ป (CBG)ผู้นำในธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มบำรุงกำลัง ภายใต้ชื่อการค้า “คาราบาวแดง”จะเข้าซื้อขายใน ตลท.วันนี้ (21พ.ย.)ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 28,000ล้านบาท โดยจะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน ตลท.ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดอาหารและเครื่องดื่ม


*** คาราบาวกรุ๊ป (CBG)ลงสนามเทรด SETวันนี้

นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)เปิดเผยว่า บมจ. คาราบาวกรุ๊ป(CBG)จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน ตลท.ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดอาหารและเครื่องดื่ม ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2557
CBG ประกอบธุรกิจหลักโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding company)ที่เป็นผู้ผลิต ทำการตลาด และบริหารจัดการการจัดจำหน่ายเครื่องดื่มบำรุงกำลังและเครื่องดื่มอื่นๆ อย่างครบวงจรภายใต้เครื่องหมายการค้า “คาราบาวแดง”หนึ่งในผู้นำตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังในประเทศไทยที่มีส่วนแบ่งการตลาดในช่วง 7เดือนแรกของปี 2557เท่ากับ 21.3% นอกจากนี้ ยังผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มเกลือแร่ “สตาร์ทพลัส”ด้วย
CBG มีทุนชำระแล้ว1,000 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ1บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 850 ล้านหุ้นหุ้นสามัญเพิ่มทุน 150 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไป จำนวน 250 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 28บาท เมื่อวันที่ 12–14 พฤศจิกายน 2557 คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 4,200ล้านบาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)และธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)และบริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

*** นำเงินคืนหนี้-ขยายกำลังผลิตเครื่องดื่ม-ซื้อที่ดิน

นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG กล่าวว่า กลุ่มบริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวไปใช้ในการชำระเงินกู้ระยะยาวจากสถาบันการเงินซึ่งเป็นเงินกู้ที่กลุ่มบริษัทฯ ใช้ในการ (1) ขยายกำลังการผลิตเครื่องดื่มของบริษัทย่อย คือ บริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด (CBD) โดยติดตั้งสายการผลิตความเร็วสูง Krones ซึ่งมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากประเทศเยอรมัน (2) สร้างโรงงานผลิตขวดแก้วสีชาของบริษัท เอเชียแปซิฟิกกลาส จำกัด (APG) และ (3) ลงทุนในที่ดิน และอาคารเพื่อใช้เป็นอาคารสำนักงานใหญ่ของกลุ่มบริษัทฯ ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯ มีแผนการตลาดที่จะรุกทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น
หลัง IPO ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ CBG 3 ลำดับแรก ได้แก่ กลุ่มนายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ถือหุ้น 34.3% กลุ่มนางสาว ณัฐชไม ถนอมบูรณ์เจริญ ถือหุ้น 26.6 % และกลุ่มคุณยืนยง โอภากุล ถือหุ้น 14.2% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO พิจารณาจากการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ของผู้ลงทุนสถาบัน (book building) คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio)ที่ 30.3เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิในช่วง 4ไตรมาสล่าสุด (ไตรมาส 4/2556-ไตรมาส 3/2557)หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted)คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.93 บาท โดย P/E Ratio เฉลี่ยของบริษัทจดทะเบียนที่ดำเนินธุรกิจคล้ายคลึงกับบริษัทในช่วง 3เดือน ตั้งแต่วันที่ 1สิงหาคม – 30 ตุลาคม 2557เท่ากับ 27 เท่า
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการ หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินสำรองตามที่กฎหมายกำหนด
คาราบาวกรุ๊ป ประกอบธุรกิจการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company)ซึ่งมีการลงทุนหลักในบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจทำการตลาด จำหน่ายและบริหารจัดการเครื่องดื่มบำรุงกำลัง และเครื่องดื่มอื่นๆ อย่างครบวงจร โดยมีสินค้าหลัก คือ เครื่องดื่มคาราบาวแดง ปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ 20% เป็นอันดับสองของตลาดรวมในประเทศที่มีมูลค่าราว 36,000 ล้านบาท

*** ค่าเฉลี่ย3ปีย้อนหลังกำไรโตปีละ75%
นางสาวณัฐชไม ถนอมบูรณ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG กล่าวว่า ความสามารถในการทำกำไร และรายได้ของกลุ่มบริษัทฯ ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กลุ่มบริษัทฯ ยังมีโอกาสในการขยายตลาดในประเทศ และรุกตลาดในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเพิ่มทั้งยอดขายและส่วนแบ่งตลาด ซึ่งถือว่ายังมีสัดส่วนที่สามารถจะขยับเพิ่มขึ้นได้อีก
ในส่วนผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ เก้าเดือนแรกปี 2557 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม 5,638.5ล้านบาท เพิ่มขึ้น 523.5 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 10.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ในปี 2556กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม 6,929.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,920.7 ล้านบาท หรือคิดเป็น 38.3% จากปี 2555
ในปี 2555 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม 5,008.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 699.5 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 16.2% จากปี 2554 และในปี 2554 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม 4,309.2 ล้านบาท ทั้งนี้ สำหรับปี 2554-2556กลุ่มบริษัทฯ มีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR)ของรายได้จากการขายประมาณ 26.7%
สำหรับเก้าเดือนแรกปี 2557 กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 736.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 298.9 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 68.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่วนในปี 2556กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 626.4 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 438.7ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 233.6%จากปี 2555
ในปี 2555 กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 187.8 ล้านบาท และในปี 2554 กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 204.5 ล้านบาท ทั้งนี้ สำหรับปี 2554 - 2556 กลุ่มบริษัทฯ มีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ของกำไรสุทธิประมาณ 75.0%

*** ตั้งเป้ารายได้-กำไร ปีหน้าโต 25%

นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ CBG เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้และกำไรปีหน้าเติบโต 25% จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้แตะ 8,000ล้านบาท กำไรสุทธิราว 1,000 ล้านบาท โดยจะมาจากการขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับจะมีการรับรู้กำลังการผลิตใหม่ๆ ที่ได้มีการเริ่มเดินเครื่องในปีนี้ ??พร้อมกันนี้ บริษัทฯตั้งเป้าหมายจะรักษาอัตราการเติบโตของรายได้อย่างน้อยปีละ 20%
"ปีนี้ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่รายได้ 8,000 ล้านบาท กำไรราว 1,000 ล้านบาท ขณะที่ปีหน้าคาดว่าจะมีการเติบโตประมาณ 25% ซึ่งจะมาจากการเติบโตของการส่งออกราว 30% และขายในประเทศ 25% โดยเป็นไปตามแผนงานที่จะขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง สำหรับการขายหุ้น IPO เชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เพราะมั่นใจในพื้นฐานของบริษัทฯที่แข็งแกร่ง มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีการทำกำไรในระดับกว่าพันล้านบาท CBG จึงจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน" นายเสถียร กล่าว

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com