สดใสหรือซ้ำรอยฟิลิปปินส์ “สมคิด”ชี้อนาคตประเทศไทยขึ้นกับวันนี้
“สมคิด” การันตีเลือกตั้งมีแน่ แต่อนาคตประเทศจะฟื้นกลับมาสดใสหรือซ้ำรอยฟิลิปปินส์ หลังย่ำแย่มา 1 ทศวรรษเต็ม ไม่มีใครบอกได้ ขึ้นกับการกระทำในวันนี้ย้ำ 3 เงื่อนไขบริหารจัดการรอบคอบไม่เสี่ยง, เลี่ยงคอร์รัปชัน เอาอำนาจใส่กรง และจริงจังกับการปฏิรูป เผยมนุษย์เป็นตัวกำหนดเศรษฐกิจ ถ้าหมดหวังก็ซบเซา หากตั้งสติดีๆ วันนี้ทุกอย่างดีขึ้น

ขอความชัดเจนเศรษฐกิจดิจิตอลเอกชนหวังไทยขยับแข่งเวทีโลก
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการและประธานคณะผู้บริหารบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวในงาน “Looking Forward อนาคตไทยปี 58” ว่า แนวทางของรัฐบาลในการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล หรือ Digital economy ขณะนี้เกิดขึ้นโดยธรรมชาติอยู่แล้ว จากการลงทุนของรัฐบาลและเอกชน โดยปัจจุบันประชาชนบนโลกที่ไร้พรมแดนต้องการเข้าถึงแหล่งข้อมูลข่าวสารบันเทิง รวมถึงการค้าที่เกิดขึ้นในระบบอินเตอร์เน็ตที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีของประเทศ ไม่ว่ารัฐบาลไหนมาก็จำเป็นต้องทำ

"อาคม" พร้อมลุยโครงการยักษ์ลุ้นประเทศไทยหลุดพ้นยากจน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคมและเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “เชื่อมโยงแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย” ในงานสัมมนา “Looking Forward อนาคตไทยปี 58” ว่า หลังวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของไทยมีการขยายตัวสูงเพียง 2 ปี คือปี 2546 และปี 2553 เกิดจากการที่รัฐบาลอัดฉีดเม็ดเงินงบประมาณลงไปกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่การลงทุนจากภาครัฐ ซึ่งถ้าเป็นการลงทุนภาครัฐจะทำให้เศรษฐกิจหมุนได้หลายรอบ แต่การอัดฉีดเงินไปเข้ากระเป๋าประชาชนจะหมุนได้รอบเดียว ขณะที่การลงทุนภาครัฐที่เป็นเมกะโปรเจกต์จริงๆ และทำให้จีดีพีขยายตัวสูงคือ โครงการอีสเทิร์นซีบอร์ด ซึ่งเกิดก่อนปี 2540 มีทั้งการลงทุนสร้างถนน 4 เลน รถไฟ ท่าเรือแหลมฉบังและมาบตาพุด

บจ.กำไร 9 เดือนพุ่ง 6 แสนล้าน
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียนใน ตลท. 494 บริษัท หรือ 94.10% จากทั้งหมด 525 บริษัท (ไม่รวมบริษัทในกลุ่มที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน หรือ NC และบริษัทที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ตามกำหนด หรือ NPG) นำส่งผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.57 แล้ว โดย บจ.มีกำไรสุทธิ 401 บริษัท คิดเป็น 81.17% ของบริษัทที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด ยอดขายเท่ากับ 2.895 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.29% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 194,851 ล้านบาท ลดลง 5.17% สำหรับงวด 9 เดือนของปี 57 มียอดขายรวม 8.580 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.10% จากงวดเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิ 614,407 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.23% ด้านอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 1.23 เท่า

คลอดมาตรการเด็ดจัดการหุ้นร้อน
นางเกศนา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า ผลการหารือได้ข้อสรุปว่า ตลาดหลักทรัพย์จะเสนอมาตรการการสกัดหุ้นร้อนเพิ่มเติมให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เห็นชอบ โดยมาตรการที่จะออกมาเพิ่มเติม คือ กำหนดให้หุ้นที่มีการซื้อขายผิดปกติและถูกขึ้นเครื่องหมายเตือน (Trading Alert) และตลาดสั่งให้บริษัทจดทะเบียนชี้แจง ว่าธุรกิจมีพัฒนาการหรือมีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญที่มีผลต่อราคาหุ้นอย่างไร โดยหุ้นที่ถูกเตือนจะต้องซื้อขายด้วยบัญชีเงินสด (แคช บาลานซ์) ทันทีเป็นเวลา 3 สัปดาห์ และหากราคาหุ้นยังคงเคลื่อนไหวผิดปกติติด Trading Alert อีก ก็จะต่อเวลาในการซื้อขายด้วยบัญชีแคบาลานซ์ต่ออีก 3 สัปดาห์ และหุ้นตัวนั้นๆ จะถูกห้ามใช้เป็นหลักประกันในการคำนวณวงเงินซื้อขายหุ้น

ญี่ปุ่นเกาะขบวนรถไฟทางคู่ เปิดสายใหม่ตาก-มุกดาหารเชื่อมอีสต์-เวสต์
คมนาคมเปิดทางดึงญี่ปุ่นร่วมโปรเจกต์รถไฟทางคู่สายใหม่ตาก-มุกดาหารเชื่อมฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก “ประจิน” แจงเอ็มโอยูไทย-จีนสายหนองคาย-มาบตาพุด ทำมาก่อนรัฐบาลชุดนี้แล้วจึงยากปฏิเสธ

ทีโอทีจ้องโละทิ้งหุ้น 11 บริษัท ปรับทัพองค์กรหวังฟื้นรายได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ที่มี พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ เป็นประธาน กับคณะอนุกรรมการกลั่นกรองแผนการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจ ที่มี พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ เป็นประธานนั้น ได้มีการเสนอยกเลิกการลงทุนหรือขายหุ้นใน 11 บริษัทที่ทีโอทีถือหุ้น จาก 14 บริษัท คาดว่าจะได้เงินจากการขายหุ้นกว่า 15,000 ล้าน โดยจะนำเงินดังกล่าวมาลงทุน ซึ่งจะเสนอแผนการขายหุ้นต่อคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) และ ครม.เพื่ออนุมัติต่อไป สำหรับ 11 บริษัทที่ทีโอทีต้องการขายหุ้นได้แก่ บริษัท เอซีที โมบาย จำกัด บริษัท แอดวานซ์ ดาต้าเน็ทเวิร์ค คอมมิวนิเคชั่น จำกัด บริษัท เลนโซ่ ดาต้าคอม จำกัด บริษัท เทลการ์ด จำกัด บริษัท โมไบล์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิสเสส จำกัด บริษัท ไทยอะมาดิอุส เซาท์อีสต์เอเชีย จำกัด บริษัท เทรดสยาม จำกัด บริษัท ไทยลองดิสแทนส์ เทเลคอมมิวนิเคชั่น จำกัด บริษัท ทรู มัลติมีเดีย จำกัด บริษัท โทเทิ่ล แอ็ดเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค บริษัท อินเตอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ส่วน 3 บริษัทที่ควรปรับปรุงกิจการ ได้แก่ บริษัท ทีโอที เอาท์ซอร์สซิ่ง เซอร์วิส จำกัด บริษัท ทีโอที สปอร์ตคลับ จำกัด และบริษัท ศูนย์คงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์ จำกัด

คลังจัดเก็บรายได้พุ่งเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้น
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ในเดือน ต.ค.57 ซึ่งเป็นเดือนแรกของปีงบประมาณ 2558 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 171,498 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 8,352 ล้านบาท หรือ 5.1% แต่ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 4% โดยการจัดเก็บรายได้ของ 3 กรมจัดเก็บภาษีคือกรมสรรพากร กรมสรรพสามิตและกรมศุลกากรสูงกว่าเป้าหมาย 1,320 ล้านบาท หรือ 0.9% สาเหตุสำคัญมาจากภาษีมูลค่าเพิ่มภาษียาสูบและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการส่วนหนึ่งเป็นผลจาก การบริโภคภายในประเทศที่ยังคงขยายตัว นอกจากนี้ การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจสูงกว่าเป้าหมาย 11,669 ล้านบาท หรือ 46.1% และการจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่นสูงกว่าเป้าหมาย 633 ล้านบาท

"คริสตัล" พร้อมลุยราชพฤกษ์
นายกวีพันธ์ เอี่ยมสกุลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.อี.แลนด์ จำกัด บริษัทพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รายใหญ่ ผู้บริหารโครงการคริสตัลดีไซน์เซ็นเตอร์ (ซีดีซี) และโครการเดอะคริสตัล เปิดเผยว่า วันที่ 1 ธ.ค.นี้ โครงการเดอะ คริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์ ไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์ มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท พร้อมเปิดให้บริการแล้ว ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ของการช็อปปิ้งของย่านดังกล่าว เพราะมีความครบครันทั้งสินค้าและบริการที่ประกอบด้วย เอสบีดีไซน์สแควร์, กูร์เมต์ มาร์เก็ต ซุปเปอร์มาร์เก็ตระดับเวิลด์คลสาของกลุ่มเดอะมอลล์กรุ๊ป, โรงภาพยนตร์เอสเอฟ ,ฟิตเนสเฟิร์สม ร้านอาหารชั้นนำ, โซนแฟชั่น, โซนการศึกษา, บริการเสริมความงาม และไลฟ์สไตล์ช็อปรวมกว่า 200 ร้านค้าในที่เดียว ที่คู่แข่งในย่านดังกล่าวไม่มี

"สยามสปอร์ต" จัดทัพรับกำไร ปั้น 4 ธุรกิจแกร่งตอบโจทย์จ่ายเงินปันผลผู้ถือหุ้น
นายอดิศัย วารินทร์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามสปอร์ตซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้ปรับทิศทางธุรกิจใหม่เพื่อสร้างรายได้และผลประกอบการให้มีกำไร เพื่อจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นรายย่อย ทั้งนี้เพื่อปรับภาพรวมจากการเติบโตของธุรกิจสื่อออนไลน์จนรายได้จากการจำหน่ายสิ่งพิมพ์ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ