*บรรยากาศการลงทุนวานนี้มีอารมณ์หลักๆ ด้วยกัน 2 อย่างคือ “เฮฮา” กับ “เซ็งเป็ด” เพราะหุ้นที่ขึ้นแรงคราวนี้มีทั้งหุ้นขนาดใหญ่ หุ้นขนาดเล็ก ส่วนหุ้นที่ตกหนักล้วนอยู่ในกลุ่มที่ถูกดันราคาขึ้นมาแรงๆ เท่ากับเป็นการสะท้อนให้เห็นกลไกของตลาดหุ้นกำลังทำงาน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากๆ เพราะทำให้พวกโลกสวยเข้าใจถึงสัจธรรมของตลาดหุ้นมากขึ้นกว่าเดิมไงหละจ๊ะ

*งานนี้กระทบชิ่งไปถึง ตลาดหลักทรัพย์ฯ กับสมาคมโบรกเกอร์ เพราะเป็นกลุ่มคนที่ริเริ่มหามาตรการมาสกัดหุ้นร้อน และดูเหมือนว่าจะมีธงนำในเรื่องนี้ตั้งแต่ในมุ้ง “โมนิก้า” ถึงพยายามบอกเล่าเรื่องดังกล่าวให้ทุกคนได้รับรู้ว่า กลไกของตลาดหุ้นมักจัดสมดุลให้เป็นประจำ สิ่งที่ทุกคนควรช่วยกันทำในตอนนี้เป็นเรื่องของการให้ความรู้แก่เหล่าผู้ เล่นหน้าใหม่ และหน้าเก่าต่างหากนะจ๊ะ

*เหมือนกับ “น้องประพันธ์” หัวเรือใหญ่ของตลาด mai พยายามออกตัวแบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น มาตรการสกัดหุ้นร้อนอาจทำให้ค่า P/E ของตลาดลดลงสู่ในระดับปกติ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้รายย่อยเข้ามาลงทุนอย่างสบายใจนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นคำพูดที่ต้องการกระตุ้นให้นักเล่นฉุกคิด และระมัดระวังตัวในการลงทุนมากขึ้น..งานนี้จะมีมาตรการออกมาหรือไม่ ก็ไม่ใช่ปัญหาในการลงทุนเจ้าคะ

*เนื่องจากโมเมนตัมของการลงทุนเริ่มหันไปหาหุ้นบลูชิพมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ดัชนีทะยานขึ้นไปปิดที่ 1,581.27 จุด บวกไป 12.20 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.10 หมื่นล้านบาท มันคือข้อมูลจริงๆ ที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันมามองหุ้นเหล่านี้อีกครั้ง และกลุ่มหุ้นที่น่ามองสุดในสายตานักลงทุนต่างชาติเที่ยวนี้ ล้วนพุ่งเป้าไปที่หุ้นกลุ่มแบงก์ พลังงาน และ รับเหมาก่อสร้างนะจ๊ะ

*เหตุผลที่ทำให้เป็นเช่นนั้นมาจากโครงการรถไฟรางคู่ ควบด้วยเรื่องการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ ซึ่งฝรั่งตาน้ำข้าวมองเรื่องนี้เป็นแนวทางที่มาถูกทาง และการเข้าซื้อหุ้นเที่ยวนี้เป็นการประเมินอนาคตบริษัทยักษ์ใหญ่จะดีขึ้น ล้วนๆ วานนี้ถึงเห็น ITD กระชากขึ้นพรวดเดียวขึ้นมาปิดที่ 6.85 บาท บวกไป 0.45 บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่าเกือบ 2 พันล้านบาท..มันมีนัยในตัวมันเองอยู่แล้วนะจะบอกให้

*เช่นเดียวกับการทะยานขึ้นของ PTT การปฏิรูปพลังงานอาจเป็นของแสลงก็จริง แต่เมื่อทุกอย่างลงตัวตามแผนดังกล่าว “โมนิก้า” กล้าฟันธงลงไปในทันทีว่า เริ่มเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ ยิ่งการปรับเพิ่มราคา LPG ชัดเจนขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งเป็นผลดีต่อการปรับราคา NGV ราคาหุ้นถึงพยายามรักษาฐานแนวรับ 380 บาทอย่างเหนียวแน่น หากย่ำอยู่ตรงนี้อีกระยะหนึ่ง รับรองวิ่งทะลุ 400 บาทแน่ๆ แถมวานนี้กระตุกขึ้นมาปิดที่ 387 บาท บวกไป 3 บาท ด้วยมูลค่า 1.80 พันล้านบาท แสดงว่า เทรนด์กำลังมา..อิอิอิ

*ข้อมูลตรงนี้ยืนยันได้จากหุ้นกลุ่มแบงก์ BBL, SCB, KTB และ KBANK เรียงหน้ากระดานขึ้นมาเป็นแถบ มันสะท้อนว่า ต้องมีสัญญาณอะไรบางอย่างที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แรงซื้อถึงหวนกลับเข้ามาลงทุนอีกรอบ “โมนิก้า” ถึงไม่วอรี่กับอาการผันผวนของดัชนี เพราะของมันเห็นกันอยู่แล้วว่า ทุกอย่างกำลังเป็นไปตามธรรมชาติ หุ้นพื้นฐานดีต้องยกตัวสูงขึ้นวันยันค่ำนะจ๊ะ

*ตบท้ายกันที่หุ้นน้องใหม่สตอรี่สวยอย่างเมืองไทยลิสซิ่ง MTLS ซึ่งจะเปิดขายหุ้น IPO วันนี้เป็นวันแรกสักเล็กน้อย เพราะข้อมูลที่พรายกระซิบส่งตรงมาให้ ล้วนมีแต่ด้านบวกเยอะแยะเต็มไปหมด..ไม่ว่าจะเป็นอัตราการเติบโต ความสามารถในการทำกำไร หรือแม้กระทั่งแผนธุรกิจในอนาคต ฯลฯ กลายเป็นจุดขายที่ทำให้หุ้นตัวนี้เป็นดาวเด่นตลาดหุ้นไทยก่อนถึงช่วง December effect ไงหละคะ

*งานนี้การันตรีคุณภาพด้วย “น้องแกะ” บล.ฟินันเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ทำให้หุ้น FSMART โลดแล่นในตลาด mai อย่างสง่าผาเผย จากราคาจองซื้อ 2.50 บาท วันนี้ยืนอยู่ที่ระดับ 7.40 บาท บวกไป 0.15 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 500 ล้านบาท และทำท่าจะไต่ระดับขึ้นไปยืนเหนือ 8 บาท “โมนิก้า” ถือเป็นผลงานที่ต้องชมเชยกันสักหน่อย..ในเมื่อของมันดีจริงๆ ก็ต้องพูดถึงกันบ่อยๆ นะตัวเอง