March 28, 2024   6:49:54 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เก็บ 14 หุ้น Domestic Play ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุด
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 18/11/2014 @ 08:22:33
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.22 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.78/32.80 บาทต่อเหรียญ ด้านตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ปีนี้ หดตัวลง 1.6%

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้มีแนวโน้มปรับฐานลงสู่แนว 1,565 จุด +/- และตลาดหุ้นยุโรปยังแกว่งตัวค่อนข้างผันผวน ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เปิดเป็นลบ ซึ่งคาดว่าน่าจะกดดันให้ SET กลับมามีจังหวะปรับตัวลงต่อเนื่องอีกครั้งได้ด้วย อย่างไรก็ตาม อาจจะเกิด Technical rebound ได้ในที่สุด สำหรับหุ้นเด่นวันนี้แนะนำ SUPER, ROBINS, TSR, TK, PTTGC, TUF, BCH, VIBHA, SIRI, CK, KTB, VGI และ HEMRAJ

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (17 พ.ย.) ว่า สำหรับแนวโน้ม SET วันนี้ คาดปรับสูงขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,587 จุด ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) การ Rebound ของราคาน้ำมันดิบ 2.5% เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา หนุนการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มพลังงาน 2) GDP 3Q14 (ประกาศเช้านี้) แม้ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่คาดว่าจะค่อยๆ เร่งตัวขึ้นใน 4Q14-1Q15 หลังเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าสู่ระบบ ขณะที่ GDP 3Q14 ญี่ปุ่น -1.6% 3) เม็ดเงินจากกองทุน RMF LTF ยังเป็นปัจจัยหนุน SET ช่วงปลายปีต่อไป

แนะนำ “ซื้อ” PTTGC เป้าหมาย 80 บาท จาก 1) การฟื้นตัวของราคาน้ำมันก่อนการประชุม OPEC วันที่ 27 พ.ย.นี้ เป็นปัจจัยบวกทาง Sentiment หุ้นกลุ่มพลังงาน 2) กำไรผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และคาดว่าจะฟื้นตัวตั้งแต่ 4Q14 เป็นต้นไป 3) Valuation ที่ PBV 1.1x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตมาก 4) มีจังหวะฟื้นตัวทางเทคนิคเป้าหมาย 66-68 บาท




บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (17 พ.ย.) ว่า ภาวะการลงทุนในวันนี้ขึ้นอยู่กับ GDP ใน 3Q57 ของไทยเป็นสำคัญ ณ ปัจจุบัน Bloomberg consensus คาด 1.0% yoy และ 1.5% qoq หาก

GDP เช้าวันนี้ออกมาเท่ากับหรือดีกว่าคาด เราเชื่อว่า SET INDEX จะฟื้นตัวไต่ระดับขึ้นทดสอบแนว 1,585 จุด +/- ผลักดันด้วยหุ้น Big Cap โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร / ICT / ที่อยู่อาศัย

GDP เช้าวันนี้ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ SET INDEX มีแนวโน้มปรับฐานลงสู่แนว 1,565 จุด +/- แต่จะเกิด Technical rebound ในที่สุดต่อการประชุมครม.ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเราให้น้ำหนักกับโอกาสนี้มากที่สุด

ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศขาดความโดดเด่นในวันนี้ ทำให้ภาพรวมตลาดหุ้นในเอเชียเป็นกลาง รวมถึงหุ้นขนาดเล็กที่รอความชัดเจนในการประชุมวันที่ 19 พ.ย.

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ “ทยอยสะสมหุ้น Big Cap ที่เกี่ยวข้องกับ Domestic Play หรือ หุ้นที่ Laggard หรือผ่านจุดต่ำสุดของผลประกอบการไปแล้ว”

กลยุทธ์การลงทุนช่วงสั้น MBKET แนะนำ “สะสม” KTB และ “เก็งกำไร” VGI



บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (17 พ.ย.) ว่า กำไรงวด 9M57 ที่ทำได้เพียง 68.23% ของประมาณการทั้งปีทำให้ต้องปรับลดประมาณการกำไรลงทั้งปี 2557 และ 2558 ส่งผลให้ค่า PER ณ สิ้นปี 2557 สูงถึง 16.97 เท่า การปรับขึ้นต่อของ SET Index จึงเกิดขึ้นยาก แต่แรงซื้อจากนักลงทุนในประเทศ ยังพยุงให้ SET Index ทรงตัวอยู่ได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ เลือก PTTGC(FV@B75) เป็น Top pick มีจุดเด่น P/E ต่ำ และ Div Yield เฉลี่ย 5% ต่อปี



บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (17 พ.ย.) ว่า ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ รอจีดีพีไทยไตรมาส 3 ชี้ทิศตลาดหุ้น

KGI มอง SET วันจันทร์แกว่งแคบต่อ สมมติฐาน GDP ไทยไตรมาส 3/57 ที่จะรายงาน 9.30 น.เป็นไปตามนักเศรษฐศาสตร์ KGI คาด +0.9% YoY แต่หากเปลี่ยนไปจากนี้อาจส่งผลต่อทิศทาง SET ได้ด้านปัจจัยภายนอกเป็นกลาง สหรัฐฯ รายงานยอดค้าปลีก ต.ค. (ไม่รวมหมวดขนส่ง) +0.3% MoM สูงกว่าคาด อย่างไรก็ดีจิตวิทยาภายนอกเช้านี้ไม่ดีนัก ญี่ปุ่นรายงาน GDP ไตรมาส 3/57 ลดลง 1.6% เทียบกับที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.2% ภาพรวม SET น่าจะยังซื้อขายในกรอบจำกัด และกระแสทุนต่างชาติยังมีแนวโน้มชะลอตัว คงให้น้ำหนักหุ้นขนาดกลางโดดเด่นกว่าเช่นเดิม

หุ้นเด่นวันนี้ เก็งกำไร SUPER / กลุ่มค้าปลีก (ROBINS*, BIGC*) + เช่าซื้อรากหญ้า (TSR,TK)



บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ (17 พ.ย.) ว่า คาด SET ยังเสี่ยงผันผวน ดังนั้นถ้าจะซื้อ...น่ารอช่วงตลาดอ่อนลง!!

แนวโน้ม : เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET ยังแกว่งตัวผันผวนและมีจังหวะปรับย้อนลงไปเคลื่อนไหวเป็นลบอีกครั้ง หลังจากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาหนุน ขณะที่ช่วงเย็นแม้ว่าตัวเลข GDP ของยูโรโซนจะขยายตัวขึ้นได้ในไตรมาส 3 แต่ก็เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยแสดงถึงการฟื้นตัวที่ยังเป็นไปอย่างซบเซา ทำให้นักลงทุนส่วนหนึ่งเริ่มชะลอการเข้าลงทุน ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐกลับมาปิดเป็นลบเล็กน้อย และตลาดหุ้นยุโรปยังแกว่งตัวค่อนข้างผันผวน ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เปิดเป็นลบ ซึ่งคาดว่าน่าจะกดดันให้ SET กลับมามีจังหวะปรับตัวลงต่อเนื่องอีกครั้งได้ด้วย ดังนั้น FSS จึงยังแนะนำให้รอเลือกหุ้นเพื่อทยอยเข้าซื้อในช่วงตลาดเป็นลบเช่นเดิมดีกว่า โดยส่วนที่เป็นหุ้นถือลงทุนหลังจากซื้อแล้วสามารถถือต่อเนื่องได้ แต่ถ้าเป็นส่วนเทรดดิ้งตามรอบ ก็ควรหาจังหวะขายทำกำไรบ้าง เพื่อลดความเสี่ยงจากการผันผวนของตลาด

แนวรับ 1572-1570 , 1565-1560 จุด แนวต้าน 1578-1582 , 1585-1588 จุด

กลยุทธ์ : สัปดาห์ที่แล้ว SET ยังอยู่ในช่วงแกว่งตัวลงต่อเนื่องอยู่ ถึงแม้ว่าในช่วงท้ายสัปดาห์จะเริ่มมีจังหวะดีดกลับขึ้นมาได้บ้าง แต่กรอบบวกยังจำกัดและมีแรงขายกดดันอยู่ ทำให้ FSS คาดว่า SET ยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงให้เป็นจังหวะเลือกหุ้นเข้าซื้อได้ใหม่ โดยเรายังมีมุมมองต่อภาวะตลาดหุ้นไทยในช่วงท้ายปีนี้ไปจนถึงปีหน้าในเชิงบวก ดังนั้นหลังจากเลือกหุ้นทยอยซื้อช่วงลบไปแล้วก็สามารถถือต่อเนื่องได้ แต่ถ้าเป็นส่วนเทรดดิ้งตามรอบ ก็ควรหาจังหวะทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงในช่วงบวกด้วย เพื่อรอซื้อกลับเมื่อตลาดปรับตัวลงอีกครั้งหุ้นเด่นมีประเด็น TUF ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 95 บาท

BCH คงเป้าหมายปี 2015 ที่ 8.5 บาท

VIBHA คงเป้าหมายปี 2015 ที่ 15.6 บาท

SIRI ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 2.20 บาท

CK ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 30 บาท



บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(17 พ.ย.)ว่า ทิศทางตลาด : Sideway? คาดเคลื่อนไหวทั้ง +/- ตามตลาดต่างประเทศ (ยกเว้น NIKKEI เช้านี้ที่ลดลงกว่า 1.7% เนื่องจากตัวเลข GDP – 3Q/57หดตัว 1.6%) โดยที่ยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ ขณะที่อยู่ในช่วงท้ายของการประกาศงบการเงิน – 3Q/57 ซึ่งอาจมีการขายทำกำไร (Sell on Fact)

นอกจากนี้อยู่ระหว่างรอดูตัวเลข GDP ทั้งปี’57 ที่มีการประเมินว่าอาจจะมีการปรับลงจากเป้าหมายครั้งก่อน (1.5%) เป็นประมาณ 1.1 – 1.2%

อย่างไรก็ตามตลาดมียังมีปัจจัยบวกจากแรงซื้อของกองทุน LTF และ RMF (+)ยังแนะติดตามความชัดเจนเกี่ยวกับวงเงินลงทุนกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระยะเวลา 8 ปี (ปี’ 58 – 65) ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะสรุปในเดือน พ.ย. หลัง (21/10/57) ครม. อนุมัติแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม ในปี ’58 – ’65 เช่น รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้า การขยายถนน

และการขยายสนามบินฯ เป็นต้น เพื่อช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ และเพิ่มศักยภาพของประเทศ ให้รองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)ซึ่งคาดกลุ่มรับเหมาก่อสร้างน่าจะได้รับผลดีต่อเนื่องในระยะยาว

รวมถึงประเด็นการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่คาดยังเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง หลังมีการยื่นซองประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว เส้นทางหมอชิต – คูคต เมื่อ 30/9/57 ซึ่งมีผู้ยื่นซองทั้งหมด 4 ราย (ITD, CK, STEC และ UNIQ) คาดใช้ระยะเวลา 1 – 3 เดือน ทราบผลการประมูล คาดอย่างเร็วคาดสามารถลงนามสัญญาและเริ่มก่อสร้างในช่วง 1H/58

หุ้นแนะนำ : HEMRAJ

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com