April 26, 2024   12:07:09 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > FIRE ร้อนแรง!พื้นฐานปึ้กยืนเหนือจอง
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 13/11/2014 @ 08:19:37
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

" ไฟร์วิคเตอร์ " ลงสนามเทรดเอ็มเอไอ วันนี้ เป็น บจ.เข้าใหม่ลำดับที่ 17 ของปี ผู้บริหารมั่นใจราคาหุ้นยืนเหนือจอง 3 บาท หลังความต้องการทะลัก เผยระดมทุน 270 ล้านบาท ใช้เปิดสาขาต่างจังหวัด รุกธุรกิจออกแบบติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิง ยันพื้นฐานดีรายได้โตต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ15-17% อัตรากำไรสุทธิ 11-12% โชว์กำไรครึ่งปีแรกกำไร 30 ล้านบาท โต 6% ส่วนเป้ารายได้ปีหน้าโตขั้นต่ำ 20%


*** FIRE ลงสนามเทรด เป็น บจ.ลำดับที่ 17

นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)เปิดเผยว่า บมจ.ไฟร์วิคเตอร์ (FIRE)จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่ 13พฤศจิกายน 2557โดย FIRE เป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับดับเพลิง อาทิ วาล์วระบบดับเพลิง หัวกระจายน้ำดับเพลิง สวิตช์แจ้งสัญญาณ รวมถึงจำหน่ายวาล์วและอุปกรณ์ระบบสุขาภิบาลและปรับอากาศ
FIRE มีสินค้าหลากหลายมากกว่า 3,000 รายการ ภายใต้ตราสินค้าที่มีชื่อเสียงมากกว่า 25 ตราสินค้า ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่าย 16ตราสินค้า โดยเป็นตัวแทนสินค้ารายเดียว (Sole Distributor)ในประเทศไทยให้กับผู้ผลิตในสหรัฐอเมริกา 2 ตราสินค้าคือ POTTER ELECTRIC และ WEISS รวมทั้งบริษัทได้พัฒนาตราสินค้าของตัวเองอีก 3 ตราสินค้า คือ VALTEC, SPARK และ GUARDIAN โดยมีกลุ่มลูกค้าหลักเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างงานอาคารสูง หรือโรงงานอุตสาหกรรม นอกจากนี้ บริษัทยังให้คำปรึกษา ออกแบบ และติดตั้งระบบดับเพลิงต่างๆ?
บริษัทฯ มีทุนชำระแล้ว 175 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 260 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่จำหน่ายให้ประชาชนครั้งแรก (IPO)จำนวน 90ล้านหุ้น โดยเสนอขายเมื่อวันที่ 5-7พฤศจิกายน 2557 ในราคาหุ้นละ 3.00บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 270 ล้านบาท มีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO1,050 ล้านบาท โดยมีบริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย??

*** นำเงินระดมทุนไปเปิดสำนักงานสาขาในต่างจังหวัด
นายวิรัฐ สุขชัย กรรมการผู้จัดการ FIRE เปิดเผยว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ maiนับเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ ชื่อเสียง ความแข็งแกร่งทางด้านเงินทุน และเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจให้กับบริษัท โดยจะนำเงินระดมทุนไปเปิดสำนักงานสาขาในต่างจังหวัด เพื่อรองรับการขยายธุรกิจให้ครอบคลุมพื้นที่ให้มากขึ้น รวมถึงลงทุนในอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และโปรแกรม SAP เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการ พร้อมทั้งชำระหนี้และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัท?
บริษัทฯ มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มชาญณรงค์ ถือหุ้น 30.00% กลุ่มสุขชัย ถือหุ้น 29.12% และนายประชา พร้อมพรชัย ถือหุ้น 3.71%
การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นครั้งนี้คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) ที่ 16.67เท่า คำนวณจากผลประกอบการ 4 ไตรมาสล่าสุด (ไตรมาส 3 ปี 2556 – ไตรมาส 2 ปี2557) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (Fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.18 บาท
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังจากหักภาษีและสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนดในวันทำการแรกของเดือนมกราคม 2558 mai จะนำหลักทรัพย์จัดแยกเป็นกลุ่มอุตสาหกรรม mai Industry group) 8 กลุ่ม ตามลักษณะการประกอบธุรกิจ ซึ่ง FIRE จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มบริการ (SERVICE)

*** มั่นใจวันนี้ราคาหุ้นยืนเหนือจอง
นายวิรัฐ เปิดเผยว่า มั่นใจว่าการเข้าซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ วันนี้ (13พ.ย.57)จะสามารถยืนเหนือจองได้ เพราะนักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาจองซื้อจำนวนมาก ทำให้หุ้นไม่เพียงพอขายให้นักลงทุน สาเหตุจากบริษัทฯ มีพื้นฐานดี รายได้โตต่อเนื่อง15-17%ต่อปี และบริษัทฯ มีอัตราการทำกำไรสุทธิในระดับสูง 11-12% นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายสาขาที่ จ.ระยอง เพื่อรุกตลาดเทรดดิ้งอุปกรณ์ดับเพลิง ในโรงงานปิโตรเคมีมากขึ้น ?

*** ตั้งเป้ารายได้ปีหน้าโตขั้นต่ำ 20%
บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปี 2558 โตเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 20%จากปีนี้ที่คาดจะโต 10%จากปี 2556 ที่ทำได้ 521.26 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ จะเพิ่มสินค้าใหม่ โดยกลางเดือนหน้าจะเดินทางไปประเทศสเปน เพื่อพบผู้ผลิตอุปกรณ์ดับเพลิง1-2 แบรนด์ เพื่อนำเข้ามาจำหน่ายปีหน้า ????
นอกจากนี้ จะรุกตลาดออกแบบและติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิง และเพิ่มจำนวนพนักงานให้มากขึ้น เพื่อรองรับการขยายสาขาที่ จ.ระยอง ปัจุบันมีออร์เดอร์ 100ล้านบาท จะรับรู้รายได้ในอีก 3-4 เดือนข้างหน้า ????
โครงสร้างรายได้ปีหน้าจะมาจากธุรกิจเทรดดิ้ง(นำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับดับเพลิง)60% ออกแบบและติดตั้ง 35%บริการหลังการขาย 5% ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเอกชน โรงงาน อาคารสูง และกลุ่มอุตสาหกรรม ?? นายวิรัฐ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้า 5-10 ปีข้างหน้า จะเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ดับเพลิง จากปัจจุบันที่เป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับดับเพลิง โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มีแบรนด์ของตนเอง 3แบรนด์ แต่เป็นการจ้างต่างประเทศผลิตให้ ดังนั้น ช่วงนี้จะพยายามเร่งสร้างแบรนด์บริษัทฯ ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และศึกษาต้นทุนในการผลิตอุปกรณ์ดับเพลิงว่า คุ้มค่าที่จะลงทุนเองหรือไม่ ?? ??
"สาเหตุที่ตอนนี้จ้างต่างประเทศผลิตให้ เพราะต้นทุนการผลิตต่ำกว่า นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะจำหน่ายสินค้าในต่างประเทศในแถบอาเซียน จากปัจจุบันที่บริษัทมีการทดลองตลาดไปแล้วเล็กน้อย "นายวิรัฐ กล่าว

*** กำไรครึ่งปีแรก 30 ล้านบาท โต 6%YoY
กำไรสุทธิในงวด 6 เดือนแรกของปี 2557 มีจำนวน 30.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 1.73 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 6.01 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 28.79 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรสุทธิในงวด 6เดือนแรกของปี 2557เท่ากับร้อยละ 11.04 ลดลง เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีอัตรากำไรสุทธิเท่ากับร้อยละ 12.01
ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนของปี 2557 เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนรายได้รวมของบริษัทในงวด 6 เดือนของปี 2557 มีจำนวน 276.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 36.85 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 15.38 เมือเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที มีจำนวน 239.67 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขายและบริการจำนวน 270.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 33.23 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 14.01 เมือเทียบกับจากงวดเดียวกันของปี ก่อนทีมี
จำนวน 237.27 ล้านบาท
โดยรายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของการรายได้จากการขายสินค้าและงานโครงการ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าภายใต้ตราสินค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้น และมีรายได้อืนจำนวน 6.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 3.62 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 150.83 เมื่อเทียบกับจากงวดเดียวกันของปี ก่อนที่มีจำนวน 2.40ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการรับบริการจัดการงานด้านสนับสนุนให้แก่บริษัททีเกียวข้องกันที่เริ่มตั้งแต่ต้นปี2557
ต้นทุนขายและบริการในงวด 6 เดือนแรกของปี 2557 มีจำนวน 200.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 32.64 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 19.44 เมือเทียบกับงวดเดียวกันของปี ก่อนทีมีจำนวน 167.87 ล้านบาท
โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 25.87ลดลงจากงวดเดียวกันของปี ก่อนทีมีอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 29.25 สาเหตุหลักมาจาก ต้นทุนสินค้าปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งได้รับผลกระทบจากต้นทุนนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเมื่อแปลงเป็นเงินบาทจากการที่เงินบาทอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ในขณะทีไม่สามารถปรับราคาขายสินค้าทั้งหมดได้ทันที



 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com