April 26, 2024   4:11:06 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ส่อง 21 หุ้นเด็ด ตลาดเอเชียผันผวนหลังเฟดเลิก QE
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 31/10/2014 @ 08:35:29
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.19 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.54/58 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวนในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ประกาศยุติโครงการซื้อสินทรัพย์ หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม เฟดแถลงว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกเป็นเวลานานขึ้น


นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวหรือขึ้นแคบๆ ระยะสั้นยังมีความเสี่ยงจากแรงขายทำกำไรแต่ประเมิน Downside Risk จำกัด เลือกลงทุนรายหุ้นที่ราคาลงลึก และกลุ่มที่ได้รับผลดีจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐฯโดยตรง หุ้นเด่นเลือก ITD-SCB-KBANK-BBL-CK-STEC-SPALI-LPN-QH-SIRI-SAMART-BEAUTY-SAPPE-BGH-PTT-PTTEP-SCC-SAMART-BJCHI-ANAN และ GRAND



บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (30 ต.ค.) ผลการประชุมเฟดคืนวานนี้เป็นไปตามที่นักลงทุนทั่วโลกประเมินไว้ ด้วยการยุติวงเงิน QE หลังตลาดการจ้างงานปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง แต่จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายการเงินต่อไปอีกระยะหนึ่ง (Considerable time) ส่งผลให้ DJIA เกิดแรงขายสะท้อนผล (Sell on Fact) ตามที่เราประเมินไว้ก่อนหน้านี้ แน่นอนว่า ตลาดหุ้นเอเชียเช้าวันนี้จะแกว่งแคบ พร้อมเผชิญกับแรงขายทำกำไรระยะสัปดาห์มากยิ่งขึ้น ยกเว้นตลาดหุ้นจีน – HSKI ที่ทางการฮ่องกง ได้ร่างหลักเกณฑ์การซื้อขายหุ้นระหว่าง 2 ตลาดเสร็จสิ้นแล้ว คาดว่าจะเริ่มโครงการดังกล่าวได้เร็วๆ นี้ กลายเป็นประเด็นเก็งกำไร
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ จับตาการเยือนประเทศกัมพูชา ของนายกฯ ในวันที่ 30-31 ต.ค. อาจมีการหารือถึงการรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินที่จะเริ่มลงทุนในกัมพูชา รวมถึงการเจรจาถึงโครงการปิโตรเลียมในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทย และ กัมพูชา

ภาพตลาดหุ้นไทยช่วง 1-2 วันนี้ ด่านสำคัญ 1,565-1,570 จุด มีแนวโน้มยังไม่ผ่าน แรงขายทำกำไรระยะสัปดาห์เข้ามามากขึ้น แม้ว่ากระแสเงินทุนต่างชาติเป็นกลางถึงบวก แต่ยังไม่อาจสรุปได้ว่า เงินทุนต่างชาติจะกลับเข้าตลาดหุ้นไทยอย่างจริงจังในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้เช่นกัน ตัวแปรสำคัญ เราให้น้ำหนักกับการประชุม ECB ในวันที่ 6 พ.ย. หากมีมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม จะเป็นตัวแปรผลักดันตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นไทยให้ขึ้นทดสอบด่านสำคัญ 1,580-1,600 จุด

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ “นักลงทุนรอทยอยสะสมหุ้นเป้าหมาย หากราคาหุ้นย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขายในช่วงสั้นนี้” หลังจากขายทำกำไรไปในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา

กลยุทธ์การลงทุนช่วงสั้น MBKET แนะนำ “เก็งกำไร” ITD / SCB



บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (30 ต.ค.) สำหรับแนวโน้ม SET ระยะสั้น แม้มีความเสี่ยงจากแรงขายทำกำไรระยะสั้น แต่ประเมิน Downside Risk จำกัดที่ 1,557 จุด และคงเป้าหมายการปรับสูงขึ้นระยะสัปดาห์ที่ 1,600 จุด (มีแนวต้านย่อย 1,575 จุด) ขณะที่การประชุม FOMC เมื่อคืนนี้ FED ยุติมาตรการ QE ตามคาด ขณะที่ดอกเบี้ยจะยังอยู่ในระดับต่ำต่อไป โดยข้อมูล Fed Funds Futures ล่าสุดแสงให้เห็นถึงโอกาสที่ Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยภายใน ก.ย.2015 ลดลงเหลือ 42% จากสิ้นเดือนก่อนที่ 76%

กลยุทธ์ลงทุนหลัก แนะนำ “ซื้อ” Domestic Plays ต่อเนื่อง โดยเป็นกลุ่มที่ได้รับผลดีจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐฯ โดยตรง อย่าง KBANK BBL CK STEC SPALI LPN QH SIRI SAMART BEAUTY SAPPE BGH โดยรัฐบาลมีแผนที่จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเร็วๆ นี้



บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (30 ต.ค.) ว่า ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ แกว่งตัวหรือขึ้นแคบๆ

KGI คาด SET วันพฤหัสฯ แกว่งหรือบวกกรอบจำกัด หลังขึ้นติดกันหลายวัน คาดนักลงทุนจะปรับ expectation อีกเล็กน้อยต่อประเด็นของ ธ.กลางสหรัฐฯ ซึ่งยุติ QE โดยสมบูรณ์แล้วเมื่อคืนนี้ และชี้ว่าภาคแรงงานสหรัฐฯ ฟื้นตัวต่อ แต่ขณะเดียวกันเงินเฟ้อยังต่ำและดอกเบี้ยเฟดน่าจะต่ำยาวอีกพักใหญ่

โดยสรุปแล้ว consensus มองดอกเบี้ยเฟดจะขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้เดิมสัก 1-2 เดือน น่าจะเป็นช่วงกลางปี 2558 ซึ่งยังอยู่ในประมาณการของนักเศรษฐศาสตร์ KGI ทั้งนี้เมื่อเข้าสู่ พ.ย. คาดตลาดหุ้นโลกจะเปลี่ยนความสนใจไปที่ฝั่งยุโรป ในประเด็นของมาตรการซื้อพันธบัตร (ECB มีประชุม 6 พ.ย.) คงมุมมอง SET ผ่านจุดต่ำสุดแล้วใน ต.ค. จึงแนะถือหุ้นหรือซื้อเก็งกำไร

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน เก็งกำไร SAMART, SCC / ซื้อสะสม BJCHI



บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (30 ต.ค.) กองทุน LTF ยังทำงานและหนุนให้ SET แข็งแกร่ง แต่ยังคงกลยุทธ์เดิมคือถือเงินสดส่วนใหญ่ และเลือกลงทุนรายหุ้นที่ราคาลงลึก PTTEP (FV@B170) และขายหุ้นแพง PTT (FV@354) เพราะราคาตลาดสะท้อนราคาน้ำมัน 90 เหรียญฯ วันนี้เลือก SCC (FV@B515) Top pick คาดกำไรจะโดดเด่นตั้งแต่ไตรมาส 4/57 ทั้งปิโตรเคมีและวัสดุก่อสร้าง ตามโครงการลงทุนภาครัฐ



บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (30 ต.ค.) คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค - SET ยังคงบวกเพิ่มต่อเนื่องและผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันที่ 1556 จุดเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม พบว่า MACD ได้ปรับขึ้นจาก -5.32 มาอยู่ที่ -2.72 ทิศทางแกว่งตัวขึ้นช่วงสั้นๆยังเกิดขึ้นอยู่ การทดสอบแนวต้าน 1,565 และ 1570 จุด ยังดำเนินการต่อไปอีก

แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบแนวรับ 1,538-1,560 จุด

หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไรที่ ANAN และ GRAND


 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com