April 20, 2024   3:44:24 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ลุ้นTSEพุ่งเหนือจอง-โซลาร์ฯกระแสแรง
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 30/10/2014 @ 08:30:48
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

"ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่" ประเดิมลงเทรดใน mai วันนี้ ผู้บริหารมั่นใจราคายืนเหนือจอง 3.90 บาท ไม่หวั่นแม้เข้าจดทะเบียนด้วยเกณฑ์มาร์เก็ตแคป เหตุพื้นฐานดีมีอนาคต ภาครัฐหนุนเอกชนลงทุนพลังงานทดแทน คุยรายได้ขายไฟฟ้าจากโซลาร์ฟาร์มเข้ามาสม่ำเสมอ ปีหน้าต่อยอดออกไปรุกต่างประเทศ ทั้งญี่ปุ่น-ฟิลิปปินส์ พร้อมวางแผนล้างขาดทุนสะสมเกลี้ยง ด้านหุ้นสปา "สยามเวลเนสกรุ๊ป" และสายการบิน "บางกอกแอร์เวย์ส" จ่อคิวเทรดใน SET วันที่ 31 ต.ค. และ 3 พ.ย.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หุ้นบริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน)หรือ TSE จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)วันนี้ (30 ต.ค.2557) เป็นวันแรก และถือเป็นหุ้นตัวที่ 2 ที่เข้าจดทะเบียนในตลาด mai ด้วยเกณฑ์คุณสมบัติมาร์เก็ตแคป ( การรับหุ้นสามัญสำหรับบริษัทที่มี market cap. ตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป) ต่อจากรุ่นพี่อย่าง AIE ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีกำไรสุทธิในงวดสะสมของปีที่ยื่นคำขอโดย TSE เป็น บจ.เข้าใหม่ลำดับที่ 14 ในตลาด mai
ดังนั้น จึงเป็นที่น่าติดตามว่า TSE จะสามารถยืนเหนือจองและปิดเหนือจอง 3.90 บาทในวันแรกได้หรือไม่ หลังก่อนหน้านี้หุ้น mai รุ่นพี่อย่าง AIE ที่เข้าจดทะเบียนเมื่อต้นปี ด้วยเกณฑ์คุณสมบัติเดียวกันนี้ สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุน และจนปัจจุบันราคาหุ้นยังต่ำกว่าราคาจองที่ 4.75 บาท ขณะที่รุ่นพี่ใน SET ที่เข้าจดทะเบียนเมื่อปี 2556 ด้วยเกณฑ์คุณสมบัติมาร์เก็ตแคปอย่าง ANAN และ PACE ก็ล้วนเปิดเทรดวันแรกต่ำกว่าราคาจอง
สำหรับ TSE เป็นผู้ประกอบการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานจากแสงอาทิตย์รายใหญ่ ติดอันดับหนึ่งใน 5 ของประเทศของกลุ่มธุรกิจนี้ บริษัทได้เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 450 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 24.8 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดที่ 1,815 ล้านบาท ราคาขายหุ้น IPO หุ้นละ 3.90 บาท
บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้ ประมาณ 1,755 ล้านบาท ไปใช้ขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ เช่น ลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานหมุนเวียนอื่น การให้บริการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และจัดหาอุปกรณ์ อีกส่วนหนึ่งจะนำไปชำระคืนเงินกู้ยืมระยะยาวและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจต่อไป

*** TSE ไม่หวั่นต่ำจอง แม้เข้าจดทะเบียนเกณฑ์มาร์เก็ตแคป
นายธีร์ สีอัมพรโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน TSE เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ไม่ได้กังวลว่าการเข้าจดทะเบียนในตลาด mai ด้วยเกณฑ์มาร์เก็ตแคปจะมีผลกระทบต่อราคาหุ้น TSE เมื่อเข้าเทรด เนื่องจากบริษัทมีพื้นฐานที่ดี โดยมีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าในโครงการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)และการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.)เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ
“ในเรื่องที่ TSE เข้าตลาดด้วยเกณฑ์มาร์เก็ตแคป ซึ่งที่ผ่านมาหุ้นอสังหาฯ บางตัวเข้าเทรดแล้วราคาต่ำกว่า IPO แต่ TSE เราไม่มีความกังวลนั้น เพราะธุรกิจเรามีพื้นฐานที่ดี โครงการ Solar ก็ประสบความสำเร็จและก็มี Performance ที่ดีเข้ามาเรื่อยๆ รายได้ก็เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการขายไฟเข้าระบบที่สิ้นปีนี้เราก็จะขายทั้งหมด 99 MW และเราก็มีศึกษาโครงการ Solar ในต่างประเทศ อย่างญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์ คาดว่าจะสรุปปีหน้า และเราเชื่อว่าราคา IPO ที่จะออกมาก็จะมีความเหมาะสมกับพื้นฐานของธุรกิจเรา"นายธีร์ กล่าว
นอกจากนี้ คาดว่าในปี 58 บริษัทฯ จะมีการล้างขาดทุนสะสมในงบเดี่ยวที่มีอยู่ราว 234 ล้านบาท โดยจะนำกำไรจากงบรวมไปดำเนินการ ซึ่งผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 57 ในงบรวมมีกำไรสุทธิราว 648 ล้านบาท และมีกำไรสะสม 473 ล้านบาท หลังจากนั้นบริษัทอาจจะพิจารณาจ่ายเงินปันผลงวดปี 58 ให้กับผู้ถือหุ้น ซึ่งบริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิในงบเดี่ยว

***ฟุ้งมาร์เก็ตแคป 7 พันลบ. สูงสุดใน mai ที่เข้าจดทะเบียนในปีนี้
นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น TSE เปิดเผยว่า สำหรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ของ TSE จะมีมาร์เก็ตแคปรวมอยู่ที่ 7,000 ล้านบาท ซึ่งสูงที่สุดของบริษัทที่เข้าจดทะเบียนในปีนี้ และหากเทียบกับบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ mai มาร์เก็ตแคปมากสุดอันดับ3
ทั้งนี้ การเข้าจดทะเบียนของ TSE คาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะตลาดหุ้นไทยที่ปรับลดลง เนื่องจากธุรกิจของ TSE มีรายได้ที่มั่นคงในระยะยาว ทำให้เชื่อว่านักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในหุ้น TSE จะถือหุ้นในระยะยาว โดยไม่ได้มองเฉพาะวันแรกที่เข้าจดทะเบียน

ดร.แคทลีน มาลีนนท์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TSE เปิดเผยว่า สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้จำนวน 1,755 ล้านบาท จะใช้ในการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนได้เพิ่มอีก 100 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันที่มีโครงการที่ดำเนินการอยู่ทั้งหมด 25 โครงการ รวม 98.5 เมกะวัตต์ และในปีหน้าหากรัฐบาลประกาศเปิดให้ยื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์ รูฟท็อป)จำนวน 900 เมกะวัตต์ บริษัทฯ ก็จะยื่นขอใบอนุญาตดังกล่าวเพิ่ม
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ในวันทำการแรกของเดือนมกราคม 2558 mai จะนำหลักทรัพย์จัดแยกเป็นกลุ่มอุตสาหกรรม (Industry group) 8 กลุ่ม ตามลักษณะการประกอบธุรกิจ ซึ่ง TSE จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มทรัพยากร (Resources) ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.thaisolarenergy.com และที่เว็บไซต์ www.mai.or.th

***ธุรกิจแห่งอนาคต-ภาครัฐส่งเสริมเอกชนลงทุนพลังงานทดแทน
ดร.แคทลีน กล่าวว่า ธุรกิจของบริษัทฯ มีแนวโน้มสดใส จากการที่ภาครัฐมีนโยบายส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติม โดยภาครัฐได้เพิ่มเป้าหมายของพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกในแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก พ.ศ. 2555-2564 ให้เป็นร้อยละ 25 ของกำลังการผลิต ซึ่งจากนโยบายดังกล่าวส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ที่มีเป้าหมายไฟฟ้าอยู่ที่ 3,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2564 ที่เชื่อว่า ภาครัฐจะพิจารณาเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากภาคเอกชนเพิ่มเติม โดยบริษัทฯ พร้อมเข้าร่วมเสนอโครงการเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจต่อไปในอนาคต
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีโครงการที่ดำเนินการอยู่ทั้งหมด 25 โครงการ รวม 98.5 เมกะวัตต์ ซึ่งแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ โครงการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าความร้อนจากแสงอาทิตย์ในระบบรางรวมแสง กำลังการผลิต 4.5 เมกะวัตต์ และธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยโซล่าร์เซลล์ ในรูปแบบ Solar Farm
โดยในส่วนของ Solar Farm ได้ร่วมทุนกับบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด หรือ GPSC ซึ่งเป็นบริษัทหลักด้านธุรกิจไฟฟ้าของกลุ่ม ปตท. จำนวน 10 โครงการ รวม 80 เมกะวัตต์ ซึ่งจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ได้ครบทั้ง 10 โครงการแล้ว และโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ติดตั้งบนหลังคาอาคารพาณิชย์ จำนวน 14 โครงการ โครงการละ 1 เมกะวัตต์ รวม 14 เมกะวัตต์ โดยเป็นพันธมิตรกับโฮมโปรและเดอะมอลล์กรุ๊ป ซึ่งคาดว่าจะเริ่มทยอยจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ครบทุกโครงการภายในสิ้นปีนี้ ทำให้บริษัทฯ ถือเป็นผู้ประกอบการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาอาคารพาณิชย์รายใหญ่ที่สุดของไทยในปัจจุบัน

*** ครึ่งแรกปีนี้กำไร 648.05 ลบ.-งวดปี56ขาดทุนสุทธิ 15.62 ลบ.
TSE แจ้งผลประกอบการไตรมาส 2/57 มีกำไรสุทธิ 592.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/56 ที่มีกำไรสุทธิ 281.51 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกปีนี้มีกำไร 648.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 351.35 ล้านบาท
ส่วนงวดปี 2556 ขาดทุนสุทธิ 15.62 ล้านบาท ลดลงจากงวดปี 2555 ที่ขาดทุนสุทธิ 100 ล้านบาท
อนึ่ง อ้างอิงข้อมูลเอกสารรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ ระบุว่า ณ 31 ธันวาคม 2556 บริษัทฯ ยังมีขาดทุนสะสม (ในงบการเงินเฉพาะกิจการ) จำนวน 200 ล้านบาท จึงทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ จนกว่าผลขาดทุนสะสมของบริษัทฯ จะหมดไป และ/หรือปฏิบัติตามข้อกำหนดของธนาคารผู้ให้กู้แล้ว
อย่างไรก็ดี บริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิ จากงบเฉพาะกิจการภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหลังหักเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนดและตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับของบริษัทฯ

*** "สยามเวลเนสกรุ๊ป" เข้าเทรดใน SET วันที่ 31 ต.ค.นี้
นายธนพิศาล คูหาเปรมกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และแกนนำการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA ผู้ประกอบการสปาชั้นนำครบวงจร กล่าวว่า จากการเปิดให้จองหุ้น SPA ที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก หุ้นได้รับความสนใจอย่างสุงจากนักลงทุนรายย่อยทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ทำให้จำนวนหุ้น 170 ล้านหุ้นที่ทางสยามเวลเนลกรุ๊ป ได้เสนอขายไม่เพียงพอต่อความต้องการของนักลงทุน
สาเหตุสำคัญมาจากแผนการดำเนินงานของสยามเวลกรุ๊ป ที่มีศักยภาพแข็งแกร่งมีธุรกิจที่เกื้อหนุนกันตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาวภายใต้การบริหารจัดการที่ดี ร่วมถึงการกำหนดราคาเสนอขาย IPO ในราคา 1.70 บาท ต่อหุ้นนั้น ถือเป็นราคาที่เหมาะสม ประกอบกับกระแสตอบรับที่ดีจากการโรดโชว์ของบริษัทฯ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ทำให้นักลงทุนเข้าใจถึงโครงสร้างธุรกิจของ SPA อย่างไรก็ตาม นักลงทุนที่ไม่ได้รับการจัดสรรหุ้น IPO ของ SPA ก็สามารถเข้าซื้อหุ้นบนกระดานได้
ทั้งนี้ SPA จะเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม 2557 มั่นใจจะได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างแน่นอน ด้วยปัจจัยสนับสนุนต่าง ๆ ที่สำคัญจะทำให้นักลงทุนสนใจในหุ้นของ SPA อย่างมาก จากการที่บริษัทฯ มีการลงทุนเพื่อขยายสาขารองรับตลาดท่องเที่ยวที่กำลังฟื้นตัว อย่างต่อเนื่อง

*** "บางกอกแอร์เวย์ส" เข้าเทรด SET วันที่ 3 พ.ย. นี้
นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)(BA) หรือ บางกอกแอร์เวย์ส เปิดเผยว่า จากการเสนอขายหุ้นไอพีโอ 730 ล้านหุ้น พบว่านักลงทุนสถาบันให้ความสนใจจองซื้อหุ้นล้นประมาณ 2 เท่าของหุ้นที่จัดสรร โดยราคาเสนอขายหุ้นครั้งนี้อยู่ที่ 25 บาท เปิดจอง 14-24 ต.ค. 2557 ที่ผ่านมา และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) วันที่ 3 พ.ย.นี้
" ราคาเสนอขาย IPO ที่ 25 บาท ซึ่งเป็นราคาระดับกลางๆ จากช่วงราคาที่ 23-27 บาท ถือว่าเป็นระดับที่เหมาะสมที่นักลงทุนแสดงความสนใจจองซื้อเข้ามา โดยการเข้าจดทะเบียนของบางกอกแอร์เวย์ส ถือว่าเป็นจังหวะที่ดีที่ระดับราคาอยู่ในขาลง การเมืองนิ่งและเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว" นายพิเชษฐ กล่าว

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com