April 19, 2024   5:49:15 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ส่งทัพ 18 หุ้นสวย เน้นหนักกลุ่มพลังงานฯ-กลุ่มน้ำมัน
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 28/10/2014 @ 08:38:02
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.39 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.39/32.43 บาทต่อเหรียญ โดยเงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 32.38/40 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.41/43 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นเช้านี้ หลังธนาคารส่วนใหญ่ในยุโรปผ่านการทดสอบ stress test ซึ่งส่งสัญญาณว่าสภาพเศรษฐกิจในภูมิภาคฟื้นตัวดีขึ้น

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้คาดว่าปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค โดยมีเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 1,550 จุด สำหรับหุ้นเด่นวันนี้เน้นหุ้นกลุ่มพลังงานทางเลือกและคาดการณ์กำไรออกมาดี ได้แก่ SOLAR, DEMCO, GUNKUL, TTA, IFEC, PSL, RCL, TOP, PTTGC, CK, STEC, AOT, TUF, DTAC, VPO, EA, SPCG และ TASCO

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (27 ต.ค.) ว่า สำหรับแนวโน้ม SET ระยะสั้นอยู่ในแนวโน้มRebound ต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 1,550 จุด โดยหุ้นกลุ่มธนาคารมีแนวโน้มแข็งแกร่งหลัง NVDR ยกเลิกระงับการซื้อหุ้น BBL ผ่าน NVDR ขณะที่หุ้นขนาดกลางมีจังหวะ “เก็งกำไร” กลุ่มหุ้นพลังงานทางเลือกอย่าง IFEC, DEMCO, GUNKUL และ EA ต่อเนื่อง โดยเป็นกลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีเชิงนโยบายการการสนับสนุนอุตสาหกรรมพลังงานทางเลือกของรัฐบาล ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศติดตามการประชุม FOMC กลางสัปดาห์นี้

กลยุทธ์หลักแนะนำ “ซื้อ” KBANK BBL CK STEC SPALI LPN QH SIRISAMART BEAUTY SAPPE BGH ต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มหุ้นพลังงานทางเลือกมีจังหวะ “ฟื้นตัว” และคาดการณ์กำไรออกมาดี y-y อย่าง EA(ต้าน 25.25), SPCG (ต้าน 27), DEMCO และ GUNKUL (ต้าน 24.5)



บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (27 ต.ค.) ว่า ตลาดหุ้นโลกผ่อนคลาย ต่อหลังผล Stress Test ไม่ได้ย่ำแย่นัก และหลัง ECB เข้าซื้อหุ้นกู้ในบางประเทศ ช่วยเพิ่มเงินหมุนเวียนในระบบ แต่อุปสรรคตลาดหุ้นไทยที่มี Current P/E สูงถึง 16 เท่าความผันผวนยังมีอยู่ จึงยังแนะถือเงินสดเป็นส่วนใหญ่ ยังเลือก DEMCO(FV@B18) เป็น Top pick



บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (27 ต.ค.) ว่า ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ บวกกรอบแคบๆ

KGI มอง SET วันจันทร์ปรับขึ้นกรอบจำกัด ปัจจัยบวกคือหุ้นสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวต่อ หลังผลประกอบการของ บ. UPS และ Ford สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ผนวกกับแรงซื้อหุ้นเก็งกำไรฤดูรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ของ บจ.ไทย และคลายกังวลอีโบลาหลังผลทดสอบศพชาวอังกฤษที่ภูเก็ตไม่พบเชื้อ อย่างไรก็ดีทางขึ้นจะยังจำกัด เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติคงรอดูปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่การประชุม US FOMC วันที่ 28-29 ต.ค. ว่าจะมีการยกเลิกมาตรการ QE หรือไม่ ส่วนในค่ำวันนี้เวลาในประเทศ ธ.กลางยุโรปจะออกรายงานประจำสัปดาห์ เกี่ยวกับการซื้อพันธบัตร cover bond ในสัปดาห์ที่แล้ว

หุ้นเด่นวันนี้ สะสมหุ้นกลุ่มพลังงานทดแทนและเดินเรือต่อ SOLAR, DEMCO, GUNKUL, TTA* เป้า Consensus 26.0 บาท, PSL* เป้า Consensus 27.5 บาท, RCL เป้า Consensus 11.7 บาทเก็งกำไรหุ้นกลุ่มน้ำมัน TOP, PTTGC



บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์ (27 ต.ค.) ว่า ทิศทางตลาด : คาดยังมีความผันผวน? หลังตลาดต่างประเทศเคลื่อนไหวในแดนบวก / ลบ ตามปัจจัยที่มีผลต่อตลาดในแต่ละประเทศ อย่างไรก็ตามคาดนักลงทุนส่วนใหญ่อยู่ระหว่างรอผลการประชุมเฟด (เช้า พฤ. ตามเวลาไทย) ว่าจะมีการส่งสัญญาณใดๆ เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ หลังวงเงิน QE จะหมดลงในเดือนนี้ แต่จากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้น ทาให้มีการคาดการณ์ว่าเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยก่อนกลางปี’ 58

ทางด้านประเด็นในประเทศ คาดได้รับปัจจัยกดดันจาก Fund Flow ที่ล่าสุดต่างชาติขายสุทธิกว่า 2,700 ล้านบาท อย่างไรก็ตามคาด ภาพรวม Fund Flow ยังมีความผันผวน แรงซื้อ / ขายสุทธิ สลับกัน ขณะที่อยู่ระหว่างประกาศผลการดาเนินงาน – 3Q/57 ที่คาดยังมีแรงเก็งกาไร (ทั้ง + / -) ต่อเนื่องถึงกลางเดือนพ.ย.

และยังแนะติดตามความชัดเจนเกี่ยวกับวงเงินลงทุนกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระยะเวลา 8 ปี (ปี’ 58 – 65) ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะสรุปในเดือนพย. หลัง (21/10/57) ครม. อนุมัติแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม ในปี’58 - 65 เช่น รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้า การขยายถนน และการขยายสนามบินฯ เป็นต้น เพื่อช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ และเพิ่มศักยภาพของประเทศ ให้รองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งคาดกลุ่มรับเหมาก่อสร้างน่าจะได้รับผลดีต่อเนื่องในระยะยาว

รวมถึงประเด็นการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่คาดยังเป็นปัจ จัยบวกต่อภาพรวมกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง หลังมีการยื่นซองประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว เส้นทางหมอชิต – คูคต เมื่อ 30/9/57 ซึ่งมีผู้ยื่นซองทั้งหมด 4 ราย (ITD, CK, STEC และ UNIQ) คาดใช้ระยะเวลา 1 – 3 เดือน ทราบผลการประมูล คาดอย่างเร็วคาดสามารถลงนามสัญญาและเริ่มก่อสร้างในช่วง 1H/58

หุ้นแนะนำ : TASCO



บล.ฟินันเซีย ระบุในบทวิเคราะห์ (27 ต.ค.) ว่า แม้ SET ยังมีสิทธิดีดขึ้นได้ แต่คาดกรอบบวกจำกัด จึงเน้นถือเงินสดต่อ!

แนวโน้ม : ตลาดหุ้นสหรัฐยังสามารถขยับบวกต่อเนื่องเมื่อคืนวันศุกร์(24 ต.ค.) หลังผลประกอบการของบริษัทเอกชนต่างๆ ที่ทยอยประกาศยังออกมาดี ถึงแม้ว่าตลาดหุ้นยุโรปจะปิดปรับตัวลง จากความวิตกเกี่ยวกับผลการทดสอบภาวะวิกฤติ(stress test) ของธนาคารในยุโรป ซึ่งนักลงทุนกังวลว่าจะมีธนาคารหลายแห่งไม่ผ่านการทดสอบ อย่างไรก็ตามสุดท้ายแล้ว ECB ประกาศว่ามีธนาคารเพียง 25 แห่งจาก 130 แห่งที่ไม่ผ่านการทดสอบฯ ซึ่งธนาคารเหล่านี้มีเวลา 9 เดือนในการชดเชยภาวะฐานเงินทุนให้เป็นไปตามข้อกำหนด จึงทำให้นักลงทุนยังมีความมั่นใจในสินทรัพย์เสี่ยง และช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เปิดเป็นบวกได้ดีพอควร

ขณะที่ตลาดหุ้นไทยก็ยังมีแรงซื้อกลับเข้ามาช่วยผลักดันให้ SET มีจังหวะแกว่งบวกได้ตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ FSS คาดว่าต้นสัปดาห์นี้ดัชนียังมีลุ้นโอกาสแกว่งตัวในด้านบวกได้อีก แต่ถ้าไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาหนุนเพิ่มเติม เราคาดว่า SET จะขยับบวกขึ้นได้ในกรอบจำกัด และต้องระวังแรงขายกดดันให้ SET กลับไปปรับตัวลงต่อไว้ด้วย

แนวรับ 1535-1530 , 1525-1520 จุด แนวต้าน 1542-1545 , 1550-1556 จุด

กลยุทธ์ : แม้ว่า SET ยังอยู่ในช่วงรีบาวด์กลับขึ้นมาได้ หลังนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับการทำ stress test ของแบงก์ในยุโรปลงบ้าง แต่ถ้ายังไม่มีปัจจัยสนับสนุนใหม่ๆ เข้ามาเพิ่ม FSS คาดว่าก็ยังต้องระวังแรงขายทำกำไรกดดันในช่วงบวกให้ SET กลับไปปรับตัวลงอีกครั้งไว้อยู่ โดยกรอบบวกช่วงนี้คาดว่ามีจำกัด ดังนั้นเรายังแนะนำให้เน้นถือเงินสดไว้ก่อนดีกว่า เพื่อรอจังหวะซื้อใหม่เมื่อดัชนีไหลลงต่ำ ซึ่งเรามองเป้าหมายไว้ที่ 1500 จุดหรือใกล้เคียง

หุ้นเด่นมีประเด็น CK, STEC, AOT, TUF, DTAC, VPO

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com