April 19, 2024   11:06:08 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > น้ำมันลงดันขนส่ง-การบินรุ่ง
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 15/10/2014 @ 08:09:09
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

TASCO- RCL -AAV- THAI รับอานิสงส์น้ำมันขาลง โดยเฉพาะ "ทิปโก้แอสฟัลท์ " รับประโยชน์เต็มๆ เหตุต้นทุนการผลิตกว่า 90% มาจากน้ำมันดิบ ตามด้วยกลุ่มสายการบินมีต้นทุนน้ำมันคิดเป็นสัดส่วนราว 30-40% โบรกฯ คาด " การบินไทย " กำไรเพิ่มราว 6 พันลบ.ต่อปี ด้าน "เอเชีย เอวิเอชั่น" กำไรเพิ่มประมาณ 520 ลบ.ต่อปี หากต้นทุนน้ำมันลดลง 15% จากสมมติฐานที่100 เหรียญฯต่อบาร์เรล แนะเก็งกำไรหุ้นสายการบิน และซื้อ RCL มูลค่าเหมาะสม 12 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบโลก ยังคงปรับลดลงต่อเนื่องทั้ง 3 ตลาด ทั้ง NYMEX -BRENT และ DUBAI จากความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ล่าสุดวานนี้ ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ย.2557 ปิดที่ 85.74 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ลดลง 0.08 เหรียญฯต่อบาร์เรล หรือ -0.09% dod จากวันก่อนหน้าที่ 85.82 เหรียญฯต่อบาร์เรล แต่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเช้าวานนี้นี้เป็น 84.89 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล (ปรับตัวลงทำระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี) จากปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบได้แก่ ความกังวลต่อการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจ , คูเวตให้ความเห็นว่า โอเปคจะยังไม่ลดกำลังการผลิตน้ำมันลง , ซาอุดิอาระเบียคาดว่าราคาน้ำมันดิบมีโอกาสปรับตัวลงทดสอบบริเวณ 80 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบ BRENT ปรับตัวลงปิดที่ 88.89 เหรียญฯต่อบาร์เรล ลดลง 1.32 เหรียญฯต่อบาร์เรล หรือ -1.46% dod จากวันก่อนหน้าที่ 90.21 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบ DUBAI ปรับตัวลง ปิดที่ 87.88 เหรียญฯต่อบาร์เรล ลดลง 1.32 เหรียญฯต่อบาร์เรล หรือ -1.48% dod จากวันก่อนหน้าที่ 88.20 เหรียญฯต่อบาร์เรล

*** TASCO- RCL -AAV- THAI ได้ประโยชน์จากน้ำมันขาลงมากสุด
บล.เอเซียพลัส ระบุว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ตกต่ำ โดยราคาน้ำมันดิบโลกที่ลดลงอย่างรุนแรง กล่าวคือ ราคาน้ำมันดิบโลกได้ลดลงจากระดับสูงสุดของปีนี้ที่ 110 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล เมื่อ 19 มิ.ย. 2557 ลงมาที่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีที่ 86.39 เหรียญฯ หรือลดลงราว 21.5% ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่า สมมติฐานราคาน้ำมันดิบระยะยาวที่ ASP กำหนดไว้ที่ 100 เหรียญฯต่อบาร์เรล แม้จะถือเป็นปัจจัยกดดันต่อความสามารถในการทำกำไรของผู้ผลิตและสำรวจปิโตรเลี่ยมฯ แต่ก็ยังมีหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากน้ำมันในช่วงขาลง
หุ้นที่ได้ประโยชน์จากน้ำมันขาลงมากสุดคือ TASCO, RCL ตรงกันข้ามหุ้นที่ได้ประโยชน์จากน้ำมันขาลงยังมีอยู่ในหลายกลุ่ม เริ่มจากกลุ่มขนส่ง ซึ่งใช้น้ำมันเป็นเชื่อเพลิงหลัก คือ ขนส่งทางอากาศ หรือ กลุ่มสายการบิน (AAV, THAI) คาดว่าจะได้ประโยชน์เพราะ มีต้นทุนน้ำมันเป็นสัดส่วนราว 30-40% ของต้นทุนรวม โดยสมมติฐานราคาน้ำมันเครื่องบินที่ใช้ในประมาณการปัจจุบัน คือ 125 เหรียญต่อบาร์เรล เทียบเท่าราคาน้ำมันดิบราว 100 เหรียญฯ ซึ่งสูงกว่าราคาตลาดราว 20% และเนื่องจากกำลังเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวอีกครั้ง คาดว่ากลุ่มขนส่งทางอากาศน่าจะมีผลประกอบการดีกว่าประมาณการฝ่ายวิจัย คือ THAI และ AAV

*** THAI กำไรเพิ่มราว 6 พันลบ.ต่อปี หากต้นทุนน้ำมันลดลง 15% จากสมมติฐาน
บล. เอเซียพลัส แนะนำถือ THAI มูลค่าพื้นฐาน 13.7 บาท คาดว่าต้นทุนน้ำมันทุกๆ 15% ที่ลดลงจากสมมติฐาน จะทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นราว 1.2 หมื่นล้านบาทต่อปี แต่เนื่องจากมีการทำ Hedging 50% (โดยยังคงสมมติฐานที่เดิมคือ Cabin Factor 70% ในปี 2557 และ 75% ในปี 2558 และ ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อผู้โดยสาร 1 ราย หรือ Passenger Yield 2.7 และ 2.8 บาท ต่อคน ต่อ กม. ตามลำดับ) กำไรที่เพิ่มขึ้น(จากราคาน้ำมันที่ลดลง) จะลดลงเหลือราว 6.0 พันล้านบาทต่อปี
ดังนั้น จึงน่าจะช่วยหนุนโอกาสการทำกำไรที่ดีขึ้นจากสมมติฐานเดิมที่ ASP ประเมินไว้ว่าจะขาดทุน 1.4 หมื่นล้านบาท ในปีนี้ และมีกำไรสุทธิ 1.2 พันล้านบาทในปี 2558 ประกอบกับสถานการณ์เข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวในช่วงปลายปีน่าจะมีส่วนสนับสนุนอีกทางหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม โดยธรรมชาติแล้ว THAI มักฟื้นตัวที่ล่าช้ากว่าสายการบินอื่นๆ เนื่องจากประสิทธิภาพการดำเนินงานที่น้อยกว่าคู่แข่งขัน

*** AAV กำไรเพิ่มราว 520 ลบ.ต่อปี หากต้นทุนน้ำมันลดลง 15% จากสมมติฐาน
AAV แนะนำถือ มูลค่าพื้นฐาน 4.8 บาท คาดว่าต้นทุนน้ำมันทุกๆ 15% ที่ลดลงจากสมมติฐาน จะทำให้กำไรสุทธิสายการบินไทยแอร์เอเซีย (TAA) เพิ่มขึ้นราว 1.7 พันล้านบาทต่อปี แต่เนื่องจากมีการทำ Hedging 40% และ AAV ถือหุ้นใน TAA 51% (ยังคงสมมติฐานที่เดิมคือ cabin factor 80% ในปี 2557 และ 85% ในปี 2558 และ passenger yield 1.7 บาท ต่อคน ต่อ กม. ในปีนี้และปีหน้าเท่ากัน) กำไร AAV ที่เพิ่มขึ้นจะลดลงเหลือ 520 ล้านบาทต่อปี ดังนั้น จึงน่าจะช่วยหนุนโอกาสการทำกำไรที่ดีขึ้นจากสมมติฐานเดิมที่ ASP ประเมินไว้ว่าจะกำไร 343 ล้านบาท ในปีนี้ และมีกำไรสุทธิ 1.1 พันล้านบาทในปี 2558 ในสถานการณ์ที่กำลังก้าวเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวนับจากปลายปี จนถึงต้นปีหน้า จะมีส่วนสนับสนุนผลประกอบการของ AAV อีกทางหนึ่ง ซึ่งจากการสอบถามผู้บริหารล่าสุด พบว่าหลายปัจจัยบ่งชี้ว่า AAV มีพัฒนาการที่ดีขึ้น
เชื่อว่าสถานการณ์ดังกล่าวน่าจะเอื้อต่อการเข้าเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มสายการบิน โดยมีตัวเลือกที่น่าสนใจ คือ AAV เพราะได้ประโยชน์มากกว่า THAI (สัดส่วนป้องกันความเสี่ยงน้ำมันน้อยกว่า) อีกทั้งมูลค่าพื้นฐานของฝ่ายวิจัยที่ยังไม่คำนึงถึง Upside จากโอกาสปรับเพิ่มประมาณการ

*** RCL กำไรเด่นในงวด Q4/57 และ Q1/58
หุ้นขนส่งทางเรือที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ลดลง คือ RCL แนะนำซื้อ มูลค่าเหมาะสม 12 บาท มองว่าน่าจะได้รับประโยชน์สูงสุด เนื่องจากต้นทุนน้ำมันมีสัดส่วนราว 20-25% ของต้นทุนรวม RCL ให้บริการเดินเรือประจำเส้นทางเป็นหลัก ต้องแบกภาระต้นทุนน้ำมันด้วยตนเองทั้ง 100% ขณะที่การเก็บค่าบริการที่เพิ่มขึ้นตามต้นทุนน้ำมัน หรือ ค่า Surcharge จะทำได้ยาก เนื่องจากการแข่งขันสูง ทั้งนี้ แม้ภาวะการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจโลกยังมีความเสี่ยง ทำให้ปริมาณการขนส่งอาจเพิ่มขึ้นไม่ต่อเนื่อง
ขณะที่ผลประกอบการผ่านพ้นช่วงสูงสุดของปีแล้วในงวด 2Q57 เนื่องจากงวด 3Q57 ปริมาณการขนส่งอาจจะลดน้อยกว่างวด 2Q57 เนื่องจากเข้าฤดูฝน ทำให้กำไรอ่อนตัวลงจากงวด 2Q57 ขณะที่งวด 4Q57 และ 1Q58 แม้เป็นช่วงนอกฤดูกาล แต่ผลบวกจากต้นทุนน้ำมันที่มีแนวโน้มลดลง คาดจะช่วยให้ยังเห็นกำไรของ RCL ต่อเนื่องในงวดดังกล่าวได้ ฝ่ายวิจัยกำหนดมูลค่าพื้นฐานปี 2557 แบบอนุรักษ์นิยมอิง PBV ที่ เพียง 1 เท่า ได้ Fair Value ที่ 12 บาท มี Upside จากราคาปัจจุบัน 10.1% จึงเป็นโอกาสให้เข้าซื้อเก็งกำไร

*** TASCO รับประโยชน์ เหตุต้นทุนการผลิตกว่า 90% มาจากน้ำมันดิบ
TASCO มูลค่าพื้นฐาน 70 บาท คาดว่าน่าจะได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ลดลง เนื่องจากต้นทุนการผลิตกว่า 90% มาจากน้ำมันดิบ ซึ่งบริษัทฯ ไม่มีนโยบายในการทำการป้องกันความเสี่ยงในสถานการณ์ปัจจุบัน ตรงกันข้ามกับราคายางมะตอย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทกลับ ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 จากความต้องการในหลายประเทศที่กลับมา ไม่ว่าจะเป็นจีน อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และเวียดนาม ซึ่งจะช่วยให้ TASCO มีผลประกอบการที่ฟื้นตัวโดดเด่นในช่วง 3Q57 และคาดว่าจะดีขึ้นต่อเนื่องในช่วง 4Q57 และ ปีหน้า เพราะ TASCO ยังจะได้ประโยชน์โดยตรงจากงบประมาณภาครัฐในปี 2558 ที่จะจัดสรรให้กับกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทเพิ่มขึ้นกว่า 12%YoY รวมไปถึงการสนับสนุนให้กับมีการใช้ยางพาราผสมกับยางมะตอย ซึ่ง TASCO เป็นผู้ผลิตที่มีส่วนแบ่งการตลาดสินค้าชนิดนี้เกือบทั้งหมด


*** โบรกฯ มองอุตฯยานยนต์-อิเล็กทรอนิกส์-อาหาร-รับอานิสงส์ด้วย
นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับลดลงค่อนข้างมาก น่าจะส่งผลบวกต่อทุกอุตสาหกรรมที่มีน้ำมันเป็นต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ อาหาร รวมไปถึงอุตสาหกรรมการขนส่งทางอากาศ กลุ่มสายการบิน โดยเฉพาะสายการบินต้นทุนต่ำ รวมไปถึงขนส่งทางเรือด้วย
" อย่างขนส่งทางอากาศที่น่าสนใจ คือ THAI ที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง แต่ทั้งนี้ คงต้องติดตามดูว่าราคาน้ำมันที่ปรับลดลงนั้น เป็นแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ หรือไม่ เพราะหากปรับลดลงแค่ไม่กี่วันอาจไม่ได้รับประโยชน์อะไร แต่หาก กินเวลานานจะส่งผลดีต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัทด้วย " นายปริญทร์ กล่าว



 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com