March 29, 2024   5:52:45 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > FSMART วิ่งทะลุเป้า4.30บ.
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 14/10/2014 @ 08:23:08
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

FSMART เจ้าของ "ตู้บุญเติม" พร้อมลงสนาม mai เป็นลำดับที่ 13 ของปีนี้ วงการฟันธงยืนเหนือ 4 บาท จากราคา IPO 2.50 บาท ประเมินกำไรสุทธิปีหน้ากระฉูด 230 ล้านบาท จากปี 56 มีกำไรแค่ 87 ล้านบาท หลังระดมทุนขยายตู้เติมเงินแตะ 55,000 ตู้ในปี 58 ดันกำไรสุทธิโตเฉลี่ยถึง 35-45% ในช่วง 3 ปี ด้าน ผู้บริหารมั่นใจหุ้นยืนเหนือจอง สร้างผลตอบแทนแก่นักลงทุน ชูราคา IPO มีส่วนลดกว่า 50% แถมพื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่ง เป็นทางเลือกการลงทุนในช่วงตลาดปรับฐาน จับตาสตอรี่ต่อไปดันเข้า SET ในอีก 3 ปี

** FSMART บจ.น้องใหม่ลำดับที่ 13
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บมจ. ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส (FSMART) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในกลุ่มบริการ ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2557 เป็ยบจ.ลำดับที่ 13 ของปีนี้ โดย FSMART เป็นหนึ่งในบริษัทย่อยของ บมจ. ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น (FORTH) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนใน SET ที่เล็งเห็นความสำคัญในการต่อยอดธุรกิจให้เติบโต โดยใช้ตลาดทุนเป็นแหล่งเงินทุนในการสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน จึงนำ FSMART เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ในรูปแบบ Spin 0ff
FSMART เป็นผู้นำการให้บริการเติมเงินโทรศัพท์มือถือประเภทเติมเงินล่วงหน้า (Pre-paid) และบริการชำระเงินออนไลน์ อาทิ เติมเงินเกมส์ออนไลน์ ซื้อบัตรโทรศัพท์ต่างประเทศ ซื้อรหัสอินเทอร์เน็ตแบบไร้สาย ซื้อชั่วโมงอินเทอร์เน็ต โดยให้บริการผ่านเครื่องชำระเงินอัตโนมัติ ภายใต้เครื่องหมายการค้า “บุญเติม” ซึ่งบริษัทบริหารผ่านผู้แทนบริการตามระบบแฟรนซายส์ และดำเนินการร่วมกับผู้แทนบริการที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจ อาทิ เซเว่น อีเลฟเว่น แฟมิลี่มาร์ท ลอว์สัน เทสโก้ โลตัส รถไฟฟ้าบีทีเอส ณ 30 มิถุนายน 2557 บริษัทมีตู้ “บุญเติม” รวม 37,311 ตู้   
FSMART มีทุนชำระแล้ว 400 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 600 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 200 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อผู้ถือหุ้นของ FORTH จำนวน 96 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 1-3 ตุลาคม 2557 และเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) 104 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 6-8 ตุลาคม 2557 ในราคาหุ้นละ 2.50 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 500 ล้านบาท โดยมีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

** ผู้บริหารมั่นใจเหนือจอง ชูส่วนลดกว่า 50%
นายสมชัย สูงสว่าง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) หรือ FSMART เปิดเผยว่า มั่นใจราคาหุ้นจะยืนเหนือจองที่ 2.50 บาท ได้ ในการเข้าซื้อขายวันพรุ่งนี้ แม้ภาวะตลาดหุ้นไทยในขณะนี้จะอยู่ในช่วงของการปรับฐาน แต่ FSMART มีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง อีกทั้งในช่วงเปิดจองซื้อหุ้นที่ผ่านมานักลงทุนก็ได้ให้ความสนใจ โดยพบว่ามีความต้องการมากกว่าจำนวนหุ้นที่เสนอขาย นอกจากนี้ ราคาไอพีโอยังมีส่วนลดให้กับนักลงทุนกว่า 50% คิดจาก P/E ของบริษัทที่ 16.67 เท่า เทียบกับตลาด mai ย้อนหลัง 4 ไตรมาส (ไตรมาส 3/56-ไตรมาส 2/57) ที่อยู่ระดับ 33 เท่า
โดยหลังจากได้เงินจากการระดมทุน บริษัทฯจะนำไปขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเงินที่ได้จำนวน 485 ล้านบาท จะใช้ในการขยายตู้เติมเงินบุญเติม ภายในปี 2557-2558 จำนวน 385 ล้านบาท ที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทฯมีตู้เติมเงินทั่วประเทศกว่า 40,000 ตู้ ซึ่งถือว่าเกินเป้าหมายในปีนี้ อย่างไรก็ตามยังเป้าหมายยอดใช้บริการที่ 10,400 ล้านบาท โดยรายได้ของบริษัทฯ จะอยู่ที่ระดับ 10-12% ของยอดการใช้บริการทั้งหมด
นอกจากนี้ยังมีแผนขยายบริการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยมีคอนเซ็ปต์ เป็นผู้ให้บริการด้านดิจิทัล รีเทล เซอร์วิส ซึ่งล่าสุดได้มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งสามารถเติมเงินมือถือและชำระบิลเหมือนกับเคาน์เตอร์ เซอร์วิสได้ ซึ่งได้มีการเปิดตัวเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา 200 เครื่องและมีเป้าหมายจะขยายให้ครอบคลุมทั่วประเทศเดือนละ 500 เครื่อง
ส่วนในปีหน้าจะเริ่มมีการให้บริการพื้นที่โฆษณาที่ตู้เติมเงิน ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเพิ่มรายได้และบริการของกลุ่มบริษัทฯ
นายสมชัย กล่าวด้วยว่า ในปีหน้าบริษัทฯตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนตู้บุญเติมแตะ 55,000 ตู้ ซึ่งเป็นไปตามแผน ที่จะขยายตู้ปีละ 15,000 ตู้ พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายว่ายอดใช้บริการผ่านตู้จะเติบโตปีละ 30% ซึ่งตลาดให้บริการผ่านตู้เติมเงินยังมีศักยภาพในการเติบโตค่อนข้างมาก โดยเป็นธุรกิจที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ทุกระดับ

** เปิดสตอรี่ย้ายเทรด SET ใน 3 ปี
นายสมชัย กล่าวด้วยว่า บริษัทฯ อาจมีการศึกษาเพื่อย้ายเข้าไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งต้องรอดูความเหมาะสมในหลายๆ ด้าน ทั้งผลประกอบการ การเติบโตของธุรกิจ รวมไปถึงความต้องการในการหาเงินทุนเพิ่มในอนาคต ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการตัดสินใจ
พร้อมกันนี้ บริษัทฯตั้งเป้าหมายจะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของตลาดเติมเงินมือถือ ที่มีมูลค่ารวมกว่า 1.2 แสนล้านบาท เป็น 30% ใน 3 ปี จากปัจจุบันที่อยู่ระดับ 10% ซึ่งจะมาจากการเพิ่มบริการและช่องทางใหม่ๆ ให้ครอบคลุมทั่วประเทศเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าในทุกพื้นที่
"ที่เราเข้าซื้อขายในตลาด mai ทั้งๆ ที่มีทุนจดทะเบียนถึง 400 ล้านบาท เพราะในช่วงที่เรายื่นไฟลิ่งเมื่อปลายปี 2556 เราเพิ่งมีกำไรเป็นปีแรกซึ่งตามเกณฑ์บริษัทที่จะเข้า SET ต้องมีกำไรต่อเนื่อง 3 ปี ขณะที่เมื่อพิจารณาแล้วพบว่าไม่มีความแตกต่างกันมากนัก ไม่ว่าจะอยู่ใน SET หรือ mai เพราะมีมาตรฐานหลักสำคัญๆเหมือนกัน ส่วนเรื่องการย้ายเข้า SET ในอนาคตอีก 3 ปีค่อยมาว่ากัน ซึ่ง ณ เวลานั้นหากเราต้องมีการระดมทุนก้อนใหญ่เพื่อไปลงทุนใดๆก็ตาม อาจจะเป็นสาเหตุสำคัญในการย้าย" นายสมชัย กล่าว

** ลุ้นวิ่งเกิน 4 บาท
ขณะที่ผู้สื่อข่าวสำรวจบทวิเคราะห์หุ้น FSMART ของหลายโบรกเกอร์ ให้ราคาเหมาะสมปี 58 ของ FSMART อยู่ระหว่าง 4.00-4.32 บาท ดังนี้

โบรกเกอร์ ราคาเหมาะสมปี 58 (บ.)
ฟิลลิป 4.00
พัฒนสิน 4.00
เคที ซีมิโก้ 4.10
เอเซียพลัส 4.10
ฟินันเซีย ไซรัส 4.30
เคทีบี 4.32

** คาดกำไรโตเฉลี่ย 35-45% ใน 3 ปีข้างหน้า
บทวิเคราะห์ บล.พัฒนสิน คาดว่า FSMART จะมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นอีกกว่าเท่าตัว มาอยู่ที่ 13% ในปี 2016 จากประมาณ 6% ในปี 2013 จากการเพิ่มตู้เติมเงินเข้าไปยังหมู่บ้านในแต่ละภูมิภาคของประเทศ ที่ยังมีช่องว่างอีกมาก ประกอบกับมองว่าความต้องการใช้บริการตู้เติมเงิน ยังเติบโตได้อีกในอนาคต ตามการเติบโตของจำนวนซิมการใช้โทรศัพท์แบบเติมเงิน (pre-paid) และมูลค่าการใช้บริการโทรศัพท์มือถือ โดยรวมที่ยังเพิ่มขึ้นทั้งแบบ voice และ non - voice (non - voice มีแนวโน้มเติบโตสูงในอนาคต ในขณะที่บริการแบบ voice ยังคงเติบโตต่อเนื่อง) โดยคาดว่ากำไรสุทธิของ FSMART เติบโตสูงเฉลี่ย 45% ในช่วง FY14 – 16F หรือราว 155 ล้านบาท 213 ล้านบาท และ 264 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นอัตราเติบโตที่ 78%, 37% และ 24% ตามลำดับ
อย่างไรก็ตามมี ประเด็น downside risk ต่อประมาณการ FY14 - 16F ได้แก่ 1. ความเสี่ยงจากการแข่งขันในตลาดเติมเงิน 2. ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของค่าธรรมเนียม 3. ความเสี่ยงจากการไม่สามารถขยายตู้เติมเงินได้อย่างที่คาด 4. ความเสี่ยงจากการสูญหาย หรือเสียหายของตู้บุญเติม
ด้านบล.เอเซีย พลัส ระบุว่า การระดมทุนของ FSMART ครั้งนี้ เพื่อใช้ขยายกำลังการให้บริการจุดรับชำระเงินเพิ่มเติมปีละ 1.5 หมื่นจุดในปี 2558-59 เป็นแผนการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากที่ตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนจุดรับชำระเงินที่เพียง 1.2 หมื่นจุดในปี 2557 (เงินลงทุนของตนเอง) ซึ่งจะทำให้ FSMART มีกำลังการให้บริการมากขึ้นในช่วงปี 2557-59 เฉลี่ย 31% ต่อปี โดยคาด FSMART จะมีจุดรับชำระเงิน ณ สิ้นปี 2559 สูงถึงราว 7.4 หมื่นจุด (เพิ่มขึ้นราว 2 เท่าจากปัจจุบัน) ซึ่งภาพรวมคาดว่ากำลังการให้บริการที่มากขึ้นจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตกำไรต่อหุ้นในปี 2557-59 แม้จะมีผลกระทบ Dilution Effect จากการเพิ่มทุนครั้งนี้ราว 33% แต่คาดยังสามารถเห็นอัตราการเติบโตได้เฉลี่ยถึงปีละ 32.1%
กำหนดมูลค่าเหมาะสมด้วยวิธี PER ที่ระดับ 16.5 เท่า โดยอิงค่าเฉลี่ย PER หุ้นกลุ่มสื่อสารขนาดเล็ก – กลางซึ่งมี PER ได้มูลค่าเหมาะสมของ FSMART อยู่ที่ 4.1 บาท
ด้าน บล.เคที ซีมิโก้ ระบุว่า FSMART เป็นผู้นำในการให้บริการเติมเงินโทรศัพท์มือถือ และชำระค่าบริการผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งวงจรผลการดำเนินงานกำลังก้าวเข้าสู่ช่วงกำไรเติบโตก้าวกระโดด จากการเร่งขยายเครือข่ายตู้เติมเงิน และการเพิ่มบริการที่หลากหลาย ประเมินราคาเป้าหมายได้ 4.10 บาท (DCF, WACC 11%) เทียบเท่า PER ปี 58 ที่ 14.9 เท่า
ส่วน บล.เคทีบี ประเมินกำไรสุทธิ FSMART ในปี 58 ไว้ที่ 230 ลบ. เพิ่มขึ้นจากปี 56 ที่มีเพียง 87 ลบ. ทั้งนี้เป็นผลมาจากการคาดการณ์จำนวนตู้เติมเงินในปี 58 ที่ 57,000 ตู้ เพิ่มขึ้นจากปี 56 ที่มีเพียง 32,692 ตู้ ทำให้รายได้ของบริษัทเติบโตได้ราว 30% ต่อปี โดยอัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มสูงขึ้นจากการประหยัดต่อขนาด อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารมีแนวโน้มสูงขึ้นจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นเช่นกันแต่เป็นการเพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่น้อยกว่า ซึ่งจะส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้นจากปี 56 ที่ 10.87% เป็น 16.44% ในปี 58 โดยให้มูลค่าเหมาะสมของ FSMART ไว้ที่ 4.32 บาท โดยใช้ Prospective P/E Ratio ปี 58 ที่ 15 เท่า ซึ่งคิดเป็น PEG ที่ 0.5 เท่า และคาดการณ์เงินปันผลของผลการดำเนินงานปี 57 และ 58 ไว้ที่ 0.07 และ 0.10 บาท/หุ้น ตามลำดับ

**โชว์กำไร Q2/57 แตะ 33.91 ลบ.
FSMART แจ้งผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/57 มีกำไรสุทธิ 33.91 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.06 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 23.45 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.04 บาท   ส่วนงวด 6 เดือนมีกำไรสุทธิ 65.24 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.11 บาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 43.37 ล้านบาท กำไรสุทธิ 0.07 บาท
สาเหตุที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของตู้บุญเติม ขณะที่บริษัทฯสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นในระดับเดียวกับปีก่อนที่ 24.6% และ อัตรากำไรสุทธิที่ 12.9%

** เปิดโครงการอนาคต
บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า บริษัทได้ทำการวิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องชำระเงินประเภทใหม่ ๆ เพื่อสร้างบริการที่หลากหลาย และตอบโจทย์ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปัจจุบันบริษัทมี 5 ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในช่วงทดสอบตลาดได้แก่
1. เครื่องรับชำระแบบอัตโนมัติสำหรับร้านค้า (Bill Payment Machine) ในนาม “บุญเติมเคาท์เตอร์เซอร์วิส (Boonterm Counter Service)”
2. ตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือที่ให้บริการร่วมกับตู้น้ำดื่มยอดเหรียญ (Drinking Water Machine) (น้ำดื่มระบบ RO)
3. ตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือที่ให้บริการร่วมกับตู้จำหน่ายเครื่องดื่มกระป๋องอัตโนมัติ (Vending Machine)
4. ตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือที่ให้บริการร่วมกับตู้จำหน่ายสินค้าขนาดเล็ก (Small Vending Machine)
5. ตู้แลกเหรียญ
โดย บริษัทมีแผนที่จะทยอยขยายเครื่องชำระอัตโนมัติ “บุญเติมเคาท์เตอร์เซอร์วิส (Boonterm Counter Service)” อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มบริการที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ค่าบัตรเครดิต หรือการโอนเงิน โดยบริษัทจะเริ่มทยอยขยายผ่านระบบแฟรนไชส์ใน 3Q57 บริษัทคาดว่าจะทยอยขยายผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ตามความเหมาะสมเช่นกันแต่ยังไม่กำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน นอกจากนี้ในอนาคตบริษัทสามารถพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อเพิ่มบริการชำระรายการธุรกรรมอื่น ๆ เพื่อการเติบโตของรายได้

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com