April 24, 2024   7:28:49 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > สะสม 12 หุ้นเด่นเน้นกลุ่มแบงก์-รับเหมาฯ
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 18/09/2014 @ 08:23:08
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.25 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.19/32.26 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ หลังมีรายงานว่าธนาคารกลางจีนจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากเศรษฐกิจภายในประเทศชะลอตัวลงอย่างมาก นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้คาดว่าจะเคลื่อนไหว Sideways กรอบ 1,575 +/- จุด เท่านั้น สำหรับหุ้นที่ได้รับผลประโยชน์จากเศรษฐกิจฟื้น ได้แก่ GUNKUL, ILINK, SAMART, KBANK, SAPPE, PCA, ERW, MINT, CK, STEC, ITD และ CENTEL

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ก.ย.) ว่า สำหรับแนวโน้ม SET วันนี้ คาด Rebound ตามตลาดหุ้น Dow Jones ที่ปรับสูงขึ้น 0.59% เมื่อคืนนี้หลังธนาคารกลางจีนเริ่มอัดฉีดสภาพคล่องในระบบธนาคารพาณิชย์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามประเมิน Upside จำกัดที่ 1,575 +/- จุด เท่านั้น เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่รอความชัดเจนจากการประชุม FOMC คืนนี้เกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่การประชุม กนง.วันนี้ คาดคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.0%

พอร์ตหลักแนะนำ “ซื้อ” กลุ่มธนาคาร รับเหมาฯ ต่อเนื่อง ขณะที่แนะนำ “ซื้อ” SAPPE ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 42 บาท โดย SAPPE เป็นผู้ผลิต Functional Drink ที่กำไรเติบโตสูง CAGR 40% ในปี 2014-16 จากการขยายไปยังตลาดต่างประเทศ เพิ่มกำลังการผลิต และเพิ่ม Margin ขณะที่ Valuation PEG ที่ 0.63x ต่ำกว่า ICHI และ OISHI ที่ PEG 1.62x และ 2.17x ตามลำดับ



บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ก.ย.) ว่า สำหรับทิศทางตลาดหุ้นไทยวานนี้ ปรับฐานลงแรงกว่าที่ MBKET ประเมิน แนวรับ 1,570 จุดหลุดในช่วงชั่วโมงสุดท้ายของการซื้อขาย โดยเป็นการปรับพอร์ตของพอร์ตโบรกเกอร์ (Prop Trade) เป็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดสภาพคล่องเข้าไปยังธนาคารขนาดใหญ่ 5 แห่ง ด้วยวงเงิน 5.0 แสนล้านหยวน ส่งสัญญาณทางการจีนพร้อมเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าไปในระบบเศรษฐกิจ กลายเป็นจุดที่ทำให้ตลาดหุ้นในเอเชียเช้าวันนี้ฟื้นตัวเด่น น่าจะรวมถึงตลาดหุ้นไทยให้ฟื้นตัวกลับมาแกว่งเหนือ 1,570 จุด เพื่อรอดูผลการประชุมเฟดในคืนนี้ ต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ย Fed Fund Rate จะปรับเปลี่ยนเร็วกว่าที่ตลาดกังวลไว้ที่กลางปี 2558 หรือไม่

ขณะที่การประชุม กนง. วันนี้ MBKET และตลาดต่างคาดว่า กนง.จะพิจารณาคงอัตราดอกเบี้ย RP1 วันไว้ที่ 2.0% เช่นเดิม และจะคงอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้

กลยุทธ์การลงทุน MBKET ยังคงแนะนำให้นักลงทุน ทยอยสะสมหุ้นหลักในกลุ่มธนาคาร และกลุ่มที่อยู่อาศัย เพื่อได้ประเด็นบวกจากการฟื้นตัวเศรษฐกิจภายในประเทศ ขณะที่เก็งกำไรกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ต่อแผนการลงทุนขนาดใหญ่ ทั้งด้านคมนาคม และแผนบริหารจัดการน้ำที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของ รัฐมนตรีว่าการ

กลยุทธ์การลงทุนช่วงสั้น MBKET แนะนำ “เก็งกำไร” PCA/ ERW



บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ก.ย.) ว่า เชื่อว่าความกังวลต่อการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐยังมีน้ำหนัก กลยุทธ์ระยะสั้นให้ถือหุ้น 30% โดยเลือกเฉพาะหุ้นปันผล/กำไรฟื้นตัวในงวด 2H57 เลือก SAMART(FV@B32) เป็น Top pick คาดว่ายังมีข่าวดีระยะสั้น



บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ก.ย.) ว่า ฟื้นตัวแต่จะยังผันผวน

KGI มอง SET วันพุธรีบาวด์ปานกลาง ยังผันผวน (เชิงเทคนิค ต้านแรก 1,571) สะท้อนหุ้นโลกที่ฟื้นตัวหลัง Wall Street Journal รายงานนักข่าวที่ใกล้ชิดกับเฟดชี้ว่าเฟดจะมีนโยบายผ่อนคลายต่อไปก่อน และทางการจีนออกมาตรการอัดฉีดเงิน 5 แสนล้านหยวนให้ 5 ธนาคารใหญ่ของประเทศ แต่ความมั่นใจของการเด้งวันนี้จะไม่มาก เพราะนักลงทุนที่ระมัดระวังยังรอผลประชุมเฟดคืนนี้ ส่วนปัจจัยภายในสนช. ผ่านงบฯ ปี 2558 ทั้ง 3 วาระ และวันนี้ กนง.ประชุม นักเศรษฐศาสตร์เราคาดตรึงดอกเบี้ยที่ 2%ทั้งนี้เราแนะเก็งกำไรหุ้นช่วง SET ผันผวน เพราะมองผลประชุมเฟดคืนนี้จะไม่ส่งสัญญาณปรับดอกเบี้ย

เก็งกำไร GUNKUL*, ILINK / รับความเสี่ยงได้ แนะสะสมแนวรับ หุ้นบลูชิพแบงก์ & บ้าน



บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ก.ย.) ว่า ทิศทางตลาด : Sideway? คาดมีโอกาสปรับขึ้น หลังคาดการณ์ว่าเฟดอาจยังไม่ส่งสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้ ขณะที่แนะติดตามประเด็นในประเทศจีนที่คาดเป็นปัจ จัยบวก เช่น (1) ธนาคารกลางของจีน อัดฉีดเงิน 81.4 พันล้านUSD เพื่อเพิ่มสภาพคล่องแก่ธนาคารรายใหญ่สุดของประเทศ 5 แห่ง และ (2) ความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางจีน จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย หรือปรับลดสัดส่วนการสารองสภาพคล่อง (RRR) ใน 4Q/57 หลังเศรษฐกิจภายในประเทศชะลอตัวลงอย่างมาก

ทางด้านประเด็นในประเทศ คาดยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ แต่คาดยังได้รับปัจจัยบวกจาก Fund Flow หลังต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่อง เกือบ 900 ล้านบาท และในวันนี้แนะติดตามการประชุม กนง. โดยเฉพาะมุมมองต่อทิศทางเศรษฐกิจของไทยหลังจากนี้ไป ขณะที่คาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.0% อย่างไรก็ตามคาดตลาดยังได้รับปัจจัยกดดันอยู่จากประเด็นการพิจารณาอาจจะยกเลิกสิทธิภาษี LTF (หมดสิทธิประโยชน์ในปี’59) แต่ยังคงการลงทุน RMF ให้มีต่อไป

ขณะที่ยังแนะติดตามความคืบหน้าโครงการลงทุนต่างๆ ของภาครัฐฯ ที่ชะลอไปก่อนหน้านี้ ซึ่งคาดยังเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมตลาดฯ หลังจากนี้ไป โดยยังแนะนาให้ติดตามงานประมูลโครงการที่มีความพร้อม เช่น รถไฟฟ้าสายสีเขียว เส้นทางหมอชิต – คูคต ที่กำหนดยื่นซองประมูลในวันที่ 30/9/57 (เลื่อนจากวันที่ 19/9/57) ที่คาดยังเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง

และการยกเลิกกฎอัยการศึก โดยคาดอาจมีการพิจารณายกเลิกในบางพื้นที่ คาดส่งผลดีต่อ (1) Fund Flow ที่คาดมีโอกาสไหลเข้าต่อเนื่อง (2) กลุ่มท่องเที่ยว ที่คาดได้ประโยชน์จากประเด็นดังกล่าว รวมถึงภาวะการท่องเที่ยวที่จะเข้าสู่ช่วง High Season ใน 4Q/57 (ส่งผลดีต่อ MINT, CENTEL และ ERW)

หุ้นแนะนำ : KBANK

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com