ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.22 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.25/29 บาทต่อเหรียญ ด้านตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบด้วยมูลค่าซื้อ-ขายเบาบางต่อเนื่อง เพื่อรอความชัดเจนจากปัจจัยภายนอก แนะนำติดตามการประชุม ครม. นัดที่ 2 วันนี้ อาจเห็นการพิจารณาแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ และแผนการลงทุนขนาดใหญ่ เน้นลงทุนหุ้นปันผล และผลประกอบการครึ่งหลังปี 57 ดี หุ้นเด่นเลือก MC-WHA-QTC-SST-KTB-KBANK-BBL-KTB-CK-STEC-SAMART-SIM-FVC-PCA และ SAPPE







บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (16 ก.ย.) ทิศทางการลงทุนในวันนี้ MBKET ยังคงประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX ไว้เท่าเดิม 1,570-1,590 จุด พร้อมกับมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามการประชุม ครม. นัดที่ 2 ในวันนี้ อาจเห็นการพิจารณาแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งแผนการลงทุนขนาดใหญ่ที่เริ่มทำ Workshop กับผู้รับเหมาก่อสร้างสัปดาห์นี้ รวมถึงภาคการท่องเที่ยวอาจพิจารณาถึงมาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และความเหมาะสมของการใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่ท่องเที่ยว

MBKET เชื่อว่าประเด็นเหล่านี้จะสร้างโอกาสของการเก็งกำไร ขณะที่นโยบายปฎิรูปพลังงานที่กำหนดปรับราคาพลังงานให้สะท้อนถึงต้นทุนและราคาตลาดที่แท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาก๊าซ NGV คาดว่าจะเป็นเป้าหมายแรกของการปรับโครงสร้างราคาก๊าซในรอบนี้ เป็นบวกต่อ PTT ทำให้ราคาหุ้น PTT จะยังคงแข็งแกร่ง รวมถึงการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มธนาคารที่ปรับฐานตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ Downside risk ของ SET INDEX เป็นไปอย่างจำกัด

ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ นักลงทุนต่างเฝ้ารอการประชุมเฟดที่เริ่มวันนี้ และสิ้นสุดในวันพรุ่งนี้ ต่อมุมมองอัตราดอกเบี้ย Fed Fund Rate จะมีโอกาสขยับขึ้นในปีหน้าเมื่อใด

ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุน MBKET แนะนำให้นักลงทุน ทยอยสะสมหุ้นหลักกลุ่มธนาคาร และกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่จะได้ประโยชน์จากแผนการลงทุนขนาดใหญ่ที่ รมว.คมนาคมอยู่ระหว่างการพิจารณา รวมถึงเก็งกำไรต่อแผนกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวในช่วงที่เหลือของปีนี้

กลยุทธ์การลงทุนช่วงสั้น MBKET แนะนำ “ทยอยสะสม” SIM / KTB



บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (16 ก.ย.) สำหรับแนวโน้ม SET วันนี้ คาดว่าจะเคลื่อนไหว Sideways กรอบ 1,565-1,585 จุด รอผลการประชุม FOMC วันที่ 17 ก.ย.นี้ ขณะที่ระยะสัปดาห์คงมองบวกเป้าหมาย 1,600-1,615 จุด ตามแนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัว

ขณะที่มีปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตามดังนี้ 1) การประชุมงบประมาณรายจ่ายปี 2015 ของ สนช.วาระ 2 วันที่ 16-17 ก.ย.นี้ 2) การประชุม กนง.วันที่ 17 ก.ย.คาดคงดอกเบี้ยที่ 2% และ ธปท.จะทบทวนตัวเลขเศรษฐกิจปลายเดือน ก.ย. 3) การยื่นซองรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายปลายเดือน ก.ย. และ 4) การแจกคูปอง Digital TV Set top box ในเดือน ต.ค.นี้

พอร์ตหลักเน้น “ซื้อ” กลุ่มธนาคาร รับเหมาฯ อย่าง KBANK BBL KTB CK STEC ต่อเนื่อง ขณะที่ระยะสั้นแนะนำ “เก็งกำไร” กลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากการแจกคูปองซื้อ Digital TV Set top box ในเดือน ต.ค.นี้ อย่าง SAMART (แนวต้าน 30.75/33), SIM (แนวต้าน 4-4.04) และ PCA (แนวต้าน 5.75)



บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (16 ก.ย.) ว่าทิศทางตลาดหุ้นวันนี้แกว่งตัวต่อ รอความชัดเจนจากปัจจัยภายนอก

KGI มอง SET วันอังคารลดลงกรอบแคบ ประเด็นการลงทุนเหมือนวานนี้ กล่าวคือตลาดรอผลประชุมธ.กลางสหรัฐฯ ในคืนวันพุธ การซื้อขายวันนี้และพรุ่งนี้จึงยังไร้ทิศทาง ด้านปัญหาในยูเครนรุนแรงขึ้น บลูมเบิร์กรายงานการสู้รบที่รุนแรงที่สุดนับจากมีการตกลงหยุดยิงเมื่อ 11 วันที่ผ่านมา กดดันจิตวิทยาหุ้นเอเชียเล็กน้อยเช้านี้

ดังนั้นเราคงมุมมองทั้ง Flows ต่างชาติและกองทุนจะชะลอในช่วงสั้น คาดหุ้นขนาดกลางที่ได้ประโยชน์จากนโยบายรัฐบาลฯ ที่เริ่มทำงานเป็นทางการแล้ว จะยังโดดเด่นต่อไป ด้านการปรับฐานของ SET รอบนี้ หากวิเคราะห์จาก PE Band คาดกรณีปกติไม่ต่ำกว่า 1,555 (กรณีแย่สุด 1,510 จุด)

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน รับความเสี่ยงได้ สะสมหุ้นบลูชิพ แบงก์ & บ้าน / เก็งกำไรสั้น QTC, SST



บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (16 ก.ย.) ว่า เตรียมเงินสดเผื่อไว้ ...โอกาสมา ก็ลงมือด้วยกลยุทธ์ “Dollar Cost Average”

ถ้าตลาดไม่เป็นลบ ...ก็มีเงินซื้อหุ้นขาขึ้นได้อีก!!! ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา SET Index เคลื่อนไหวแบบแกว่งตัวสร้างฐานระยะสั้น เพื่อที่จะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญ (ทางด้านจิตใจ แต่ไม่ใช่สิ่งที่ยากเกินไป เพราะเคยผ่านไปแล้วก่อนเกิดความวุ่นวายทางการเมืองไทยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 57) บริเวณ 1,600 จุด ในลำดับต่อไป ทำให้ราคาหุ้นในตลาดจำเป็นต้องสะสมพลังอย่างต่อเนื่อง (โดยสลัดนักเก็งกำไรจัดๆ ออกไปจากตลาดเป็นระยะๆ เพื่อให้ตลาดหุ้นไทยมีความพร้อมในการปรับขึ้นจริงๆ)

ส่วนประเด็นต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศอยู่ในช่วงรอความชัดเจนที่จะออกมาสู่สาธารณะในอนาคตอันใกล้ แม้ว่าตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสแกว่งตัวช่วงสั้น แต่เรามองเป็นโอกาสการทยอยซื้อหุ้นที่ดีต่อไป เราคาดว่า SET วันนี้มีโอกาสโน้มตัวขึ้น แต่ไม่มากนัก โดยให้กรอบการเคลื่อนไหวในช่วง 1,575-1,585 จุด (ไม่เกิน 1,590 จุดในระยะสั้น)

หุ้นเด่นวันนี้: แนะนำเก็งกำไร MC และ WHA



บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (16 ก.ย.) คาด SET ยังปรับฐานต่อ นอกจากผลกระทบจากการปรับโครงสร้างภาษีแล้ว การขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐน่าชัดเจนขึ้น กลยุทธ์ยังให้ปรับพอร์ตถือ 30% และเลือกซื้อรายหุ้น โดยเฉพาะหุ้นปันผล/กำไรฟื้นตัวในครึ่งปีหลังของปี 57 เลือก SAMART (FV@B32) เป็น Top pick ยังมีข่าวดีระยะสั้นหนุน



บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (16 ก.ย.) คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค SET ลดลงเล็กน้อยขณะที่ทรงตัวอยู่บนเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน แต่แนวรับที่1,570 จุด ยังสนับสนุนตลาดเมื่อวานนี้ได้อย่างแข็งแกร่ง ทิศทางขาขึ้นยังคงอยู่เหมือนเดิม ขณะที่มูลค่าการซื้อขายลดลงไปมากเมื่อวานนี้ยังแสดงให้เห็นว่าสัญญาณขายไม่ได้เกิดขึ้นแต่อย่างใด

แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบแนวรับ 1,575-1,585 จุด

หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไรที่ FVC และ SAPPE