April 24, 2024   10:04:23 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > วัดใจขุนคลังยืดอายุ LTF
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 16/09/2014 @ 09:58:34
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

วัดใจขุนคลังยืดอายุ LTF

สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เตรียมเข้าพบ รมว.คลังคนใหม่ เสนอยืดอายุ LTF หรือ จัดตั้งกองทุนลดหย่อนภาษีประเภทใหม่ หวังเพิ่มสัดส่วนนักลงทุนสถาบัน สร้างเสถียรภาพให้ตลาดหุ้นไทย ด้านวงการหุ้นหนุนสุดตัว ยันไม่ใช่กองทุนอุ้มคนรวย ตลท.-สมาคมบล. ชี้ช่วยลดความผันผวนของตลาดหุ้น หนุนการออมระยะยาว ขณะที่บล.เอเซียพลัส หวั่นยกเลิกภาษี LTF กระทบตลาดฯอย่างมีนัยสำคัญ เหตุเป็นกองทุนพยุงหุ้นที่ได้ผลมากที่สุด ระบุล่าสุดมีเงินลงทุนกว่า 2.45 แสนลบ. ส่วน บล.ฟิลลิป - กสิกรไทย หวั่นเป็นการปิดกั้นนักลงทุนหน้าใหม่ ขณะที่ขุนคลังป้ายแดง "สมหมาย ภาษี" ยังแบ่งรับแบ่งสู้ ชี้อยู่ระหว่างพิจารณา คาดชัดเจนเร็วๆ นี้

** สภาตลาดทุน เดินหน้าหนุนลดหย่อนภาษี LTF
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร รักษาการประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยว่า สภาธุรกิจตลาดทุนไทยเตรียมที่จะเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ เพื่อแนะนำสภาธุรกิจตลาดทุนไทยและเสนอรูปแบบกองทุนประเภทใหม่หากรัฐบาลมีการยกเลิกสิทธิประโยชน์ทางภาษีของกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) ที่จะสิ้นสุดในปลายปี 2559 โดยลักษณะอาจจะเป็นกองทุนผสมที่มีสัดส่วนการลงทุนกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน พันธบัตรรัฐบาล และหุ้น เพื่อเพิ่มความหลากหลายในการลงทุนมากขึ้น จากเดิม LTF จะลงหุ้นเต็มจำนวน
ส่วนระยะเวลาการถือหน่วยลงทุนจะต้องมีการหารือกันอีกครั้ง ซึ่งระยะเวลาการถือครองอาจจะมากกว่า 5 ปีก็ได้ เช่น 6-8 ปี โดยส่วนตัวอยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญต่อตลาดหุ้นไทย โดยการสนับสนุนให้ประชาชนเข้ามาลงทุน
ทั้งนี้สภาธุรกิจตลาดทุนไทยสนับสนุนให้มีกองทุน LTF เนื่องจากเป็นกองทุนที่มีนโยบายที่ดีและช่วยทำให้ตลาดหุ้นไทยมีเสถียรภาพมากขึ้น จากสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุนสถาบัน โดยก่อนหน้าที่จะมีกองทุน LTF เมื่อ 8 ปีที่ผ่านมา สัดส่วนนักลงทุนสถาบันมีเพียง 5-6% ของมูลค่าการซื้อขายต่อวัน แต่ปัจจุบันสัดส่วนนักลงทุนสถาบันได้มีการปรับตัวมมากขึ้นมาอยู่ที่ 9-10% แต่ก็ถือว่ายังไม่มากนัก จึงต้องการให้รัฐบาลมีการสนับสนุนกองทุนนี้ต่อไป เพราะผู้ที่ได้รับประโชน์จากกองทุนนี้จริงๆแล้วไม่ใช่คนรวยแต่เป็นมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้ปานกลาง ที่ต้องการลงทุนเพื่อผลตอบแทนที่มากกว่าเงินฝาก
"หากรัฐบาลไม่ต่อกองทุน LTF รัฐบาลก็ควรมีนโยบายในการออกกองทุนลักษณะคล้ายกับ LTF ซึ่งอาจจะเพิ่มสัดส่วนกองทุนอินฟราฯ เข้ามา มีบอนด์รัฐบาล มีหุ้น จากเดิมที่มีหุ้นอย่างเดียวเพื่อเพิ่มความหลากหลายและเป็นการสนับสนุนให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในกองทุนอินฟราฯ มากขึ้น ส่วนระยะเวลาการถือครองน่าจะมากกว่า 5 ปี เช่นอาจจะเป็น 6-8 ปี โดยยืนยันว่า LTF ไม่ใช่มาตรการช่วยคนรวย แต่ผู้ที่ได้ประโยชน์คือมนุษย์เงินเดือนที่มีฐานเงินเดือนไม่สูง" นายไพบูลย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลไม่มีการต่ออายุกองทุน LTF เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อตลาดหุ้นไทยจากการที่นักลงทุนจะมีการเทขายหน่วยลงทุนออกมา หากนักลงทุนยังมองว่าตลาดหุ้นไทยยังอยู่ทิศทางขาขึ้นก็จะไม่มีการขายหน่วยลงทุนออกมา เพราะการลงทุนในหุ้นยังให้ผลตอบแทนที่สูง แต่หากทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มปรับลดลง อาจจะมีแรงเทขายออกมาบ้างแต่มองว่าไม่มากนัก

** ตลท.-สมาคมบล. ชี้ LTF ลดความผันผวนตลาดหุ้น หนุนการออมระยะยาว
ดร.ภากร ปีตธวัชชัย รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กรและการเงิน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า หากรัฐบาลไม่ต่ออายุ LTF นั้น จะส่งผลกระทบทำให้ตลาดทุนไทยมีความมั่นคงน้อยลง และตลาดหุ้นไทยจะมีการเติบโตแบบไม่ยั่งยืน จากที่สัดส่วนการลงทุนของสถาบันจะลดลง ซึ่งจากข้อมูลปัจจุบันกองทุนที่มีการลงทุนในหุ้นซึ่งมูลค่าการลงทุนสูงสุดนั้นจะเป็นกองทุน LTF ถึง 2.3 แสนล้านบาท กองทุน RMF 6 หมื่นล้านบาท และเป็นกองทุนหุ้น (อิวิตี้ฟันด์) 1.8 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ จากการศึกษาของตลาดหลักทรัพย์ฯ พบว่า การที่นักลงทุนหน้าใหม่ที่ไม่มีความรู้การลงทุนในหุ้น หากเข้ามาลงทุนในกองทุน LTF ก็จะมีการขยายการลงทุนในกองทุนหุ้นประเภทอื่นๆมากขึ้น จากเริ่มมีความรู้ในการลงทุน และหากไม่มีการต่ออายุประโยชน์ทางภาษี LTF เชื่อว่าเม็ดเงินดังกล่าวจะต้องมีการเคลื่อนย้าย ซึ่งตอบไม่ได้ว่าจะย้ายลงทุนในตราสารใด ซึ่งอาจมีการลงทุนในตราสารหนี้ ฝากธนาคาร แต่ยังเชื่อว่าจะจะมีบางส่วนลงทุนในกองหุ้นอยู่
"กองทุนLTF นั้นมีส่วนช่วยทำให้ตลาดหุ้นไทยมีเสถียรภาพซึ่งเห็นได้ชัดในช่วงต้นปีที่56 ที่ฝรั่งมีการขายหุ้นไทยออกไป 3 หมื่นล้านบาท แต่มีกองทุนเข้ามาซื้อถึง 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งหากกองทุน LTF หายไปจะทำให้ตลาดหุ้นไทยมีความมั่นคงน้อยลง จากที่มีนักลงทุนกลุ่มอื่นเข้ามาแม้จะทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ หรือร้อนแรง แต่ก็เป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นแบบไม่ยั่งยืน ซึ่งเราต้องมีการปลูกฝั่งให้มีการลงทุนระยะยาวมากขึ้น และ ลงทุนสม่ำเสมอแบบ LTF "ดร.ภากร กล่าว
สำหรับตลาดหลักทรัพย์ฯไม่เห็นด้วยกับเรื่องที่มีมองว่า LTF ช่วยคนรวย เพราะ ผู้ที่เข้ามาซื้อLTF นั้นส่วนใหญ่เป็นมนุษย์เงินเดือน ที่มีรายได้ปานกลาง และ เป็นนักลงทุนหน้าใหม่ ที่ยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับการลงทุน รวมถึงเป็นบุคคลที่มีอายุ 40 ปี หวังลงทุนเพื่อการออมเพื่อวัยเกษียณ
อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีการหารือกับ ทาง ผู้จัดการกองทุนต่างๆ บริษัทประกัน บริษัทจดทะเบียน และ มีการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้มีการลงทุนในหุ้นมากขึ้น เช่น นักลงทุนหน้าใหม่ ตลาดหลักทรัพย์ฯก็ร่วมกับ ทาง บลจ.มีการจัดกิจกรรมตลาดนัดกองทุนรวมอย่างต่อเนื่องทุกปี ส่วนของบจ.ก็หวังที่จะให้บจ.มีการเข้าร่วม โครงการสะสมหุ้นสำหรับพนักงาน (Employee Joint Investment Plan ) ให้มากขึ้น
ด้านนางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย กล่าวว่า LTF นั้นเป็นกองทุนที่ทำให้นักลงทุนมีการลงทุนในหุ้นในระยะยาวและมีการลงทุนสม่ำเสมอ ซึ่งหากรัฐบาลไม่ต่ออายุกองทุนดังกล่าวนั้น จะทำให้เสียโอกาสในการสนับสนุนให้ประชาชนเข้ามาลงทุนเพื่อการออมระยะยาว หรือ การออมเพื่อวัยเกษียณ มากกว่าที่จะมองว่าขาดเม็ดเงินเข้ามาลงทุนในหุ้นเพื่อที่จะให้ตลาดหุ้นขาดเสถียรภาพ เพราะประเทศไทยในระยะยาวนั้นจะมีผู้สูงอายุจำนวนมาก ซึ่งหากไม่มีกองทุนดังกล่าว จะทำให้ผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนในช่วงวัยเกษียณ เพราะการลงทุนในตลาดหุ้นนั้นจะให้ผลอตบแทนที่สูงกว่าการลงทุนในประเทศอื่น

** ASP ระบุ LTF เป็นกองทุนพยุงหุ้นที่ได้ผลมากที่สุด
บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ตามแผนการปรับโครงสร้างภาษีของรัฐ โดยเฉพาะแนวคิดในการยกเลิกสิทธิภาษีของผู้ซื้อกองทุนระยะยาว (LTF) แต่ยังคงสิทธิของผู้ซื้อกองทุนสำหรับผู้ที่จะเกษียณอายุ (RMF) ในเบื้องต้นคาดว่าจะกระทบต่อตลาดหุ้นอย่างมาก เพราะว่าการให้สิทธิลดหย่อนภาษีดังกล่าว มิใช่แต่ส่งเสริมให้มีการลงทุนระยะกลาง-ยาวเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือของรัฐ ในการช่วยพยุงตลาดหุ้นที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดมาตรการหนึ่งเท่าที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย ในภาวะที่เกิดปัญหากดดันอย่างหนัก ไม่ว่าจะปัจจัยการเมืองในประเทศ หรือจากภายนอก (เทียบกับในอดีต ที่ภาครัฐเคยพยายามเข้ามาช่วยเหลือ หรือพยุงหุ้นโดยการระดมเงินจากโบรกเกอร์หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้ามาสนับสนุน แต่ไม่เคยมีครั้งใดที่ประสบความสำเร็จเลย)
เชื่อว่าประเด็นนี้น่าจะกดดันตลาดหุ้นไทยนับจากนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ หากพิจารณามูลค่าสินทรัพย์สุทธิของ กองทุน LTF ณ สิ้นเดือน ส.ค.57 จำนวน 53 กอง มูลค่า 2.45 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 27.6% ของมูลค่าสุทธิของเงินกองทุนที่ลงทุนในหุ้นทั้งหมด หรือ Equity Fund หรือเป็นเงินรวม 8.88 แสนล้านบาท (ในจำนวนนี้เป็นได้รวม RMF 129 กอง มูลค่าราว 1.54 แสนล้านบาท และอีกราว 4.89 แสนล้านบาท เป็นกองทุนทั่วไป) ทั้งนี้ไม่รวมกองทุนตราสารหนี้ และตราสารการเงินระยะสั้น และ property fund อีกกว่า 2.86 ล้านล้านบาท)
ขณะที่ฐานะสุทธิของกองทุนหุ้น เท่าที่ได้ตรวจสอบล่าสุดพบว่ามีเงินสดอยู่ในมือเพียง 3.75% ของเงินลงทุนในกองทุนตราสารทุนทั้งหมด ถือว่าเป็นระดับที่ต่ำ เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 2-10% ถือว่ากองทุนหุ้นได้เข้าลงทุนเต็มที่แล้ว ทำให้เชื่อว่านับจากนี้น่าจะเป็นทยอยขายมากกว่าซื้อ ประกอบกับตลาดหุ้นไทยมีค่า Expected PER กว่า 16 เท่า ซึ่งอยู่ในกรอบที่ค่อนข้างสูง ซึ่งการที่จะทำให้ SET Index ปรับขึ้นไปจากนี้ได้อย่างมีนัยสำคัญ จำเป็นต้องได้รับแรงหนุนจากปัจจัยบวกใหม่ๆ พร้อมทั้งแรงซื้อจากกลุ่มนักลงทุนที่มีความต่อเนื่องในระดับสูง แต่จากการศึกษาข้อมูลสถานะการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ พบว่าโอกาสที่จะเห็นแรงซื้อเข้ามาหนาแน่นเหมือนช่วงในอดีต อาจจะยังไม่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ ซึ่งทำให้ SET Index มีโอกาสผันผวนในทิศทางขาลง

** ฟิลลิป - กสิกรไทย หวั่นปิดกั้น นลท.หน้าใหม่
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยกับ “สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย” ถึงแนวทางการต่ออายุกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) ว่า หากมีการยกเลิกกองทุนดังกล่าว เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยอาจซบเซาลงบ้าง เนื่องจากเม็ดเงินที่จะเข้ามาลงทุนในกองทุนดังกล่าวจะหายไป โดยเฉพาะนักลงทุนหน้าใหม่ที่ไม่ความความรู้ ความเข้าใจในการลงทุนตลาดหุ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะมาซื้อกองทุน LTF แทนนั้น เม็ดเงินส่วนนี้อาจหายไป เพราะหากจะเข้ามาลงทุนตลาดหุ้นเองโดยตรงจะยังไม่กล้า อย่างไรก็ตาม นักลงทุนที่เริ่มมีความคุ้นเคยกับตลาดหุ้น และมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนอยู่บ้าง อาจเพียงแต่หันไปลงทุนในกองทุนอื่นๆ แทนกองทุน LTF
“ตอนนี้ปัจจัยดังกล่าวคงไม่ได้มีผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาดมากนัก เพราะเชื่อว่าหากไม่มีการต่ออายุกองทุน นักลงทุนก็อาจไปลงทุนอย่างอื่นแทน หรือนักลงทุนบางส่วนอาจหายไป เพราะยังไม่เชื่อมั่นต่อตลาดทุน แต่หากมีการต่ออายุออกไปอีก ก็คงไม่ได้มีประเด็น เงินก็คงเข้าเช่นเดิมทุกๆ ปี” น.ส.ธีรดา กล่าว
นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ สายการจัดการเงินทุนบุคคล บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า หากมีการยกเลิกกองทุนดังกล่าว เชื่อว่ามี 2 ประเด็นที่น่าสนใจ คือ นักลงทุนสถาบันในประเทศอาจลดน้อยลงไป ส่วนอีกประเด็นหนึ่งคือ แรงจูงใจที่จะดึงดูดนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาในตลาดทุนคงน้อยลงไป เนื่องจากนักลงทุนในกลุ่มดังกล่าว ยังไม่มีความเชื่อมั่นในการลงทุน และความเสี่ยงที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดทุนค่อนข้างน้อย เพราะตามหลักแล้วการลงทุนในกองทุน LTF/RMF ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการเข้ามาในตลาดทุน ของนักลงทุนหน้าใหม่ๆ
ส่วนหากมีการต่ออายุกองทุนไปอีก เชื่อว่าทุกอย่างคงไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง กองทุน LTF จะเข้ามาซื้อตามปกติ โดยเฉพาะในช่วงของปลายปีในทุกๆ ปี จะเป็นช่วงเวลาที่มีนักลงทุนมาซื้อกองทุน LTF มากกว่าปกติ เพราะทำให้การถือครองหน่วยลงทุน 5 ปีปฏิทินจริงๆ แล้วแค่ 3 ปีเศษเท่านั้น

** รมว.คลัง ระบุ ต่อภาษี LTF อยู่ระหว่างการพิจารณา คาดเร็วๆ นี้ชัดเจน
นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาถึงข้อดี และข้อเสียในการต่ออายุภาษี LTF และ RMF ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ภาครัฐจะได้ประโยชน์หรือไม่ ซึ่งคาดว่าจะได้ความชัดเจนในส่วนของข้อสรุปเบื้องต้นเร็วๆ นี้
"ต้องยอมรับว่าตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจน ผมจึงไม่อยากพูด ต้องรอความชัดเจนก่อน ก็พยายามให้มีประโยชน์มากที่สุด โดยคำนึงถึงทุกฝ่าย ซึ่งเชื่อว่าในเร็วๆ นี้จะได้ความชัดเจนออกมาอย่างแน่นอน" นายสมหมาย กล่าว

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com