"ทรู คอร์ปอเรชั่น" มั่นใจกองทุนทั่วโลกเล็งกลับเข้าลงทุนในหุ้นของบริษัท เหตุหนี้สิน-ดอกเบี้ยจ่ายลดลงมาก หลังได้เงินเพิ่มทุนไปชำระหนี้ กดอัตราหนี้สินต่อทุนลดฮวบจาก 5 เท่า เหลือ 1.5 เท่า ทำให้อันดับเรทติ้ง TRUE กลับสู่ระดับอินเวสเมนท์เกรด ไม่ขัดนโยบายลงทุนของกองทุนฝรั่ง ลั่น Q4/57 เริ่มพลิกมีกำไร พร้อมโชว์กลยุทธ์ทำธุรกิจร่วมกับ"ไชน่า โมบาย" 6 ด้าน ยกองค์กรสู่ระดับโลก ด้านบล."บัวหลวง แนะถือ ให้ราคาเป้าหมายใหม่ 8.50 บาท

*TRUE มั่นใจกองทุนทั่วโลกกลับเข้ามาลงทุนในบริษัท
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE เปิดเผยว่า ภายหลังจากการเพิ่มทุนเสร็จสิ้น อัตราส่วนหนี้สินต่อ EBITDA ของบริษัทจะลดลงจาก 5 เท่า เหลือ 1.5 เท่า ทำให้ทรูลดดอกเบี้ยจ่ายปีละมากกว่า 4 พันล้านบาท และได้รับการปรับฐานอันดับความน่าเชื่อถือ(เรทติ้ง)ในการลงทุนเป็นอินเวสเมนท์เกรด ทำให้กองทุนทั่วโลกลงทุนหุ้น TRUE ได้ จากที่ผ่านมาติดนโยบายลงทุนในบริษัทที่หนี้สินมากไม่ได้

* เริ่มมีกำไร Q4/57 หลังลดภาระดอกเบี้ยจ่ายกว่า 4 พันลบ.ต่อปี
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE เปิดเผยว่า ภายหลังจากการเพิ่มทุนเสร็จสิ้น เงินส่วนหนึ่ง 55,000 ล้านบาท จะนำไปชำระหนี้ธนาคาร ซึ่งจะทำให้ภาระดอกเบี้ยจ่ายลดลงกว่า 4,000 ล้านบาทต่อปี ทำให้จากนี้ทรูจะเติบโตและเริ่มมีกำไรในไตรมาส 4/57 ซึ่งนอกจากดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงแล้ว ไตรมาส 4/57 ทรูจะไม่มีภาระหักขาดทุน 2G ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ทรูเริ่มมีกำไร และจากนี้ก็จะมีกำไรต่อเนื่อง และให้ผลตอบแทนผู้ถือหุ้นต่อไป

*TRUE จับมือ "ไชน่า โมบาย" ร่วมมือทางธุรกิจ 6 ด้าน
นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ และประธานกรรมการ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า กลุ่มทรูขอขอบคุณไชน่าโมบายล์ที่ให้ความมั่นใจร่วมลงทุนในกลุ่มทรู และรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสต้อนรับไชน่าโมบายล์เข้าร่วมเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ และได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในแผนการเพิ่มทุนครั้งสำคัญของกลุ่มทรู ซึ่งจะแสดงให้เห็นได้ชัดเจนถึงศักยภาพการเติบโตของกลุ่มทรูในธุรกิจโทรคมนาคม ตลอดจนความมั่นคงด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยในระยะยาวอีกด้วย
ด้านนายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการและประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE เปิดเผยว่า กลุ่มทรู และไชน่า โมบาย ได้ลงนามร่วมมือพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์อย่างเป็นทางการในวันนี้ และพร้อมที่จะร่วมกันพิจารณาความร่วมมือทางธุรกิจใน 6 ด้านได้แก่ 1. ผลิตภัณฑ์ /บริการเสริม/คอนเท้นท์ 2. ธุรกิจระหว่างประเทศ 3.โครงข่าย 4. การจัดซื้อดีไวซ์ 5. การจัดซื้อทั่วไป และ6. ทรัพยากรบุคคล โดยจะมีคณะกรรมการและคณะทำงานเป็นตัวแทนจากสององค์กรมาทำงานร่วมกัน และกำหนดกลยุทธ์ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง
การลงนามสัญญาในครั้งนี้จะนำไปสู่ความร่วมมือที่จะเอื้อประโยชน์ร่วมกันสองฝ่าย โดยกลุ่มทรูจะมีฐานการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น จากการเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์รายใหม่ของไชน่า โมบาย ขณะที่ไชน่าโมบาย ขยายกิจการของบริษัทไปยังระดับภูมิภาคและระดับโลก
"การร่วมมือเป็นพันธมิตรในครั้งนี้จะช่วยลดระดับหนี้โดยรวมของกลุ่มทรู และเสริมสถานะการเงินของบริษัทฯ ซึ่งจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่จะพลิกโฉมเป็นองค์กรที่สร้างกำไรและรากฐานที่แข็งแกร่ง" นายศุภชัย กล่าว

*ประกาศเดินหน้า 3 ยุทธศาสตร์ คอนเวอร์เจนท์-สร้างโครงข่าย-บริหารค่าใช้จ่าย
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE เปิดเผยว่า ภายหลังจากการปรับโครงสร้างทางการเงินแล้วเสร็จ TRUE จะเดินหน้ายุทธศาสตร์ด้านคอนเวอเจนท์ ยุทธศาสตร์ด้านสร้างโครงข่าย และยุทธศาสตร์บริหารค่าใช้จ่าย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของบริษัทให้มากขึ้น และสร้างมูลค่าสูงสุด
"การจับมือไชน่าโมบาย ทรูยิ่งมั่นใจ และจะสร้างประโยชน์ให้ชาวไทยได้มากขึ้น และวางโครงสร้างพื้นฐานด้านธุรกิจสื่อสารให้ประเทศไทยดียิ่งขึ้น และสร้างประโยชน์ให้กับเศรษฐกิจไทยโดยรวม และสร้างประโยชน์ต่อไปในระดับภูมิภาค"นายศุภชัย กล่าว

*บิ๊ก "ไชน่า โมบาย" มั่นใจศก.ไทย เดินหน้าจับมือ TRUE รุกธุรกิจสื่อสาร
มร.หลี่ เยว่ กรรมการบริหาร และหัวหน้าคณะผู้บริหาร บริษัท ไชน่า โมบาย จำกัด เปิดเผยว่า มั่นใจมากในการจับมือกับ TRUE รุกธุรกิจสื่อสาร เพราะ TRUE มีฐานลูกค้ามาก และเป็นบริษัทที่โดดเด่นในไทยด้านธุรกิจสื่อสาร และบรอดแบนด์ นอกจากนี้ กลุ่มไชน่า โมบาย ยังมั่นใจในเศรษฐกิจไทย และสังคมไทย เชื่อมั่นในมิตรภาพไทย-จีน จากนี้ไปจะร่วมกันบุกเบิกให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นในบริการ TRUE ต่อไป
ทั้งนี้ ในฐานะที่กลุ่มทรูเป็นผู้นำด้านบรอดแบนด์ เคเบิ้ลทีวี และยังเป็นผู้นำธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งในระบบ 3G และ 4G ในประเทศไทย ทรูจึงเป็นพันธมิตรในอุดมคติของไชน่าโมบายล์และในฐานะที่ไชน่าโมบายล์ และทรู เป็นผู้นำตลาดของประเทศ จึงมีความเพียบพร้อมทั้งในเรื่องฐานลูกค้า ช่องทางการจัดจำหน่าย และความโดดเด่นด้านแบรนดิ้ง ที่จะเอื้อประโยชน์กันได้เป็นอย่างดี ซึ่งการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ครั้งนี้ นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อการทำตลาดในประเทศให้ดีขึ้นแล้ว ยังเป็นการวางรากฐานที่ดีต่อการมองหาธุรกิจใหม่ๆ และการขยายตลาดซึ่งกันและกัน ซึ่งถือเป็นก้าวที่สำคัญและยิ่งใหญ่ของทั้ง 2 ฝ่าย ในการพัฒนาและได้รับผลประโยชน์ร่วมกันในอนาคต
เมื่อเร็วๆนี้กลุ่มทรูได้มีแผนการปรับฐานการเงินครั้งสำคัญ(Recapitalization) โดยมีมูลค่ารวมกว่า 65,000 ล้านบาทผ่านการจัดสรรหุ้นแบบเฉพาะเจาะจง (Private Placement) แก่ไชน่าโมบายล์ มูลค่าประมาณ 28,600 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 18% ของหุ้นทั้งหมด และการเสนอขายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) อีก 36,400 ล้านบาท
การลงนามสัญญาร่วมเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์กับไชน่าโมบายล์อย่างเป็นทางการในวันนี้ จะนำไปสู่ความร่วมมือที่จะเอื้อประโยชน์ร่วมกันแก่ทั้ง 2 ฝ่าย โดยกลุ่มทรูจะมีฐานการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นจากการเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์รายใหม่ของไชน่าโมบายล์ ในขณะที่ไชน่าโมบายล์ได้ขยายกิจการของบริษัทไปยังระดับภูมิภาคและระดับโลก
การร่วมเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ในครั้งนี้จะช่วยลดระดับหนี้โดยรวมของกลุ่มทรู และเสริมความแข็งแกร่งให้สถานะทางการเงินของบริษัท อันจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่จะพลิกโฉมเป็นองค์กรที่สร้างกำไร และมีรากฐานที่แข็งแกร่ง ยิ่งไปกว่านั้น ความเป็นพันธมิตรกับไชน่าโมบายล์ ไม่เพียงช่วยขยายการลงทุนสู่ระดับภูมิภาค แต่ยังสะท้อนความเชื่อมั่นของกลุ่มธุรกิจนานาชาติในเศรษฐกิจระยะยาวของประเทศไทยอีกด้วย
อนึ่ง หลังเพิ่มทุนเสร็จ นายหลี่ เจิงเม่า เป็นรองประธานกรรมการ ,นายเกา เนี่ยนชู เป็นกรรมการ และนายฉวี่ เกิงโหล่ว เป็นกรรมการ ในเรื่องนี้ นายศุภชัย กล่าวว่า นอกเหนือจากไชน่า โมบายล์ จะส่งคนเข้าร่วมเป็นกรรมการแล้ว ยังสามารถส่งคนมาร่วมในกรรมการระดับฝ่ายบริหารได้ด้วยซึ่งทรูก็ยินดีเพราะต้องการบุคคลากรชั้นนำระดับโลกมา ร่วมทีมบริหาร อย่างไรก็ตาม ทางไชน่าโมบายล์ ระบุว่าไม่มีแนวคิดที่จะส่งบุคลากรมา ร่วมในทีมบริหารแต่หากในอนาคตมี ความร่วมมือด้านอื่นๆเกิดขึ้นก็คงต้อง มาพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่ง
โดยจากนี้ไปการร่วมมือทั้ง 6 ด้าน ไชน่าโมบายล์มองว่าอยากเน้นด้านธุรกิจระหว่างประเทศ และการพัฒนา 4G เพราะต่อไปจะมีการแลกเปลี่ยนกันมากขึ้นการสื่อสารด้วยความรวดเร็วจึงเป็นสิ่ง สำคัญ

* เคเคเทรด แนะขาย ไม่ให้น้ำหนัก China Mobile ถือหุ้นเพิ่มเป็น 25%
บทวิเคราะห์ บล.เคเคเทรด ระบุว่า TRUE รายงานผลการขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 10,077 ล้านหุ้น คิดเป็น 100% ของหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งหมด แบ่งเป็นหุ้นที่ขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนจำนวน 5,648 ล้านหุ้น และหุ้นที่ขายให้แก่ China Mobile International Holdings จำนวน 4,429 ล้านหุ้น โดยบริษัทได้รับเงินจากการเพิ่มทุนครั้งนี้ราว 65,000 ล้านบาท สำหรับสัดส่วนการถือหุ้นหลังเพิ่มทุน มีกลุ่มบริษัท CP และ China Mobile ถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 51.3% และ 18.0% ตามลำดับ
? ไม่ให้น้ำหนัก China Mobile ถือหุ้นเพิ่มเป็น 25% บริษัทแจ้งกำหนดการหุ้นเพิ่มทุนจำนวนดังกล่าวจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันแรกในวันที่ 10 ก.ย.นี้ เรามองเป็น Negative Sentiment ต่อหุ้น TRUE ส่วนหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงในส่วน China Mobile ไม่มีข้อห้ามขายหุ้น (Silent Period) นอกจากนี้เราไม่ให้น้ำหนักว่า China Mobile จะถือหุ้น TRUE เพิ่มจาก 18% เป็นมากกว่า 25% ซึ่งเข้าเงื่อนไขต้องทำ Tender Offer หุ้น TRUE คาด 4Q57 ดอกเบี้ยจ่ายลดลง ตามประมาณการของเราคาดว่า TRUE จะนำเงิน 52,000 ล้านบาทไปชำระคืนหนี้ ทำให้ดอกเบี้ยจ่ายจะลดลงเหลือปีละ 3,000 - 4,000 ล้านบาท โดยปีนี้คาดว่า TRUE จะมีผลขาดทุนจากธุรกิจปกติราว 3,280 ล้านบาท และเริ่มเห็นผลบวกค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลงใน 4Q57
คงคำแนะนำ “ขาย” เราคงมุมมองต่อปัจจัยพื้นฐาน TRUE หลังเพิ่มทุนครั้งนี้ จะทำให้บริษัทมีโครงสร้างเงินทุนดีขึ้นชัดเจน ตามประมาณการของเราคาดว่า TRUE จะมีอัตราหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อ EBITDA ลดลงเหลือ 2.4 เท่าในปีนี้ และ 2.0 เท่าในปี 2558 และมีผลการดำเนินงานพลิกเป็นกำไรราว 1,623 ล้านบาท ในปี 2558 เราปรับไปใช้มูลค่าเหมาะสมปี 2558 ของ TRUE ที่ 9.40 บาท ทั้งนี้ราคาหุ้น TRUE ปัจจุบันมี Downside 15% จากมูลค่าเหมาะสม และซื้อขาย EV/EBITDA สูงถึง 13 เท่า เรามองว่าตอบรับปัจจัยบวกดังกล่าวแล้ว และแพงกว่า ADVANC และ DTAC ที่ซื้อขาย EV/EBITDA ราว 8-9 เท่า

* บัวหลวง แนะถือ ให้ราคาเป้าหมายใหม่ 8.50 บาท
บทวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ระบุว่า ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อปัจจัยพื้นฐานของ TRUE หลังแผนการเพิ่มทุนรวมถึงแผนการปรับลดค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานลงอย่างมาก เราคาดว่าแผนการลดค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานจะยังคงมีต่อไปในช่วงครึ่งปีหลังถึงแม้ว่าอาจจะมีต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่วงครึ่งปีหลังก็ตาม เราประเมินว่าราคาหุ้น ณ ปัจจุบันได้สะท้อนแนวโน้มผลการดำเนินงานหลักที่จะปรับตัวดีขึ้นในช่วงปี 2557-2558 ไปแล้ว เรายังคงคำแนะนำ ถือ และปรับไปใช้ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2558 แทน (จากเดิมเป็นราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2557) ราคาเป้าหมายใหม่อยู่ที่ 8.50 บาท
บริษัทจะยังคงทำการควบคุมค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานต่อเนื่อง รวมถึงการใช้สินทรัพย์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง แต่เราประเมินว่าการลดลงของต้นทุนอาจจะไม่มากเท่ากับในช่วงครึ่งแรกของปีที่ผ่านมา ส่วนการอุดหนุนเครื่องโทรศัพท์มือถือ (handset subsidy) จะมากหรือน้อยในช่วงครึ่งปีหลังคงต้องขึ้นอยู่กับภาวะตลาดและการแข่งขันด้วย แต่การแข่งขันสำหรับการอุดหนุนเครื่องโทรศัพท์จะเริ่มมีเหตุมีผลมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทวางแผนงบลงทุนสำหรับปี 2557 และปี 2558 ไว้ที่ 26.5 พันล้านบาทต่อปี และคาดว่ามีแนวโน้มลดต่ำลงเหลือ 1 หมื่นล้านบาทในปี 2559 นอกจากนี้ตั้งแต่ไตรมาส 4/57 เป็นต้นไป ทรูมูฟจะไม่ต้องทำการตัดจำหน่ายสินทรัพย์ 2 จีอีกต่อไป ซึ่งไตรมาส 3/57 จะเป็นไตรมาสสุดท้ายที่จะตัดจำหน่ายสินทรัพย์ 2 จีที่เหลืออยู่อีก 1.5 พันล้านบาท ในส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายสำหรับการเข้าใช้คลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิร์ซเป็นการชั่วคราวระยะเวลา 1 ปี บริษัทยังคงไม่มีรายละเอียดและข้อมูลว่ากสทช.จะคิดค่าคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิร์ซอย่างไรและเป็นจำนวนเท่าไหร่
?สัมปทานแพลตฟอร์มดาวเทียมของทรูวิชั่นส์จะสิ้นสุดลงในเดือนก.ย. 2557 บริษัทได้ทำการย้ายลูกค้าประมาณ 95% ของจำนวนลูกค้าทั้งหมดภายใต้แพล็ตฟอร์มดาวเทียมไปอยู่ภายใต้บริษัทใหม่ที่ทำการขอใบอนุญาตเพย์ทีวีจากกสทช.แล้ว ดังนั้นบริษัทอาจจะต้องลงทุนในส่วนของสินทรัพย์ใหม่ภายใต้บริษัทใหม่ที่ได้รับใบอนุญาตเพย์ทีวี หรืออาจจะต้องทำการเช่าสินทรัพย์สัมปทานบีทีโอที่ทรูวิชั่นส์ได้โอนไปให้กับ MCOT แล้วกลับมาหลังจากสิ้นสุดอายุสัญญาสัมปทานของเพย์ทีวีระบบดาวเทียม และเนื่องจากรายได้ของทรูวิชั่นส์สำหรับช่วงครึ่งปีแรกหดตัวลง 11% YoY บริษัทจะพิจารณาทำการปรับลดเป้ารายได้ของทรูวิชั่นส์สำหรับทั้งปี 2557 ลงจากเดิม และอาจพิจารณาปรับเป้างบลงทุนของทรูวิชั่นส์ใหม่ยังคงเป้ารายได้นอนว้อยซ์ทรูโมบายซึ่งยังคงเติบโตแข็งแกร่ง??ถึงแม้ว่ารายได้นอนว้อยซ์ของทรูโมบายจะเติบโต YoY ต่ำกว่าคู่แข่งสำหรับในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 แต่บริษัทยังคงเป้าอัตราการเติบโตของรายได้นอนว้อยซ์เป็นตัวเลขสองหลักสำหรับทั้งปี 2557 ซึ่งจะมีปัจจัยหนุนจากรายได้นอนว้อยซ์ของระบบโพสต์เพดที่ยังคงเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่องและการทำการตลาดเพิ่มมากขึ้นเพื่อกระตุ้นรายได้นอนว้อยซ์ระบบพรีเพดสำหรับในช่วงครึ่งปีหลัง