March 29, 2024   5:00:17 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > คัด 20 หุ้นเด่นกลุ่มก่อสร้าง-อสังหาฯมาแรง!
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 26/08/2014 @ 08:23:20
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.26 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 31.99/32.03 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงในการประชุมที่แจ็คสัน โฮล ขณะที่สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซียได้กลับมาปะทุขึ้นอีกครั้ง นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ลุ้นทดสอบ 1,550 จุดอีกครั้ง สำหรับหุ้นเด่นวันนี้เน้นหุ้นกลุ่มธนาคาร กลุ่มก่อสร้าง และกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์จากเศรษฐกิจฟื้น ได้แก่ KTB, STPI, HANA,SRICHA, GFPT, INTUCH, BLAND, CK, STEC, KBANK, SPALI, LPN, QH, LH, AOT, SAMART, STPI, XO, AAV และ ERW

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (25 ส.ค.) ว่า สำหรับแนวโน้ม SET ระยะสัปดาห์ยังมองเป็น “บวก” ต่อเนื่อง ด้วยเป้าหมาย 1,580-1,600 จุด (เลื่อนกรอบล่างจาก 1,570 จุด) ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) การโปรดเกล้าฯ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ เตรียมตั้งรัฐบาล ทำให้การเมืองมีเสถียรภาพต่อเนื่อง หนุนเศรษฐกิจระยะ 12-15 เดือนข้างหน้า 2) คาดยกเลิกกฎอัยการศึกหลังมีรัฐบาล เป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจท่องเที่ยว และกระแสเงินทุนไหลเข้า 3) นักวิเคราะห์มีแนวโน้มปรับประมาณการกำไร และเป้าหมายพื้นฐานขึ้น หลังเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัว และ 4) แม้รายงานการประชุม Fed บ่งชี้ถึงโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด แต่ประธาน Fed ยังมองการจ้างงานฟื้นตัวไม่เต็มที่ ที่ Jackson Hole

พอร์ตหลักยังเน้น Domestic Play ต่อเนื่อง โดยแนะนำ “ซื้อ” CK STEC KBANK KTB SPALI LPN QH และ LH ขณะที่แนะนำ “ซื้อ” AOT ต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ก่อน เป้าหมาย 260 บาท



บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์ (25 ส.ค.) ว่า ทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันนี้ MBKET คงกรอบแกว่ง SET INDEX ระหว่าง 1,550 – 1,560 จุด เพราะขาดปัจจัยบวกใหม่เข้าหนุนการลงทุน โดยปัจจัยสำคัญต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยกลับกระจุกตัวในช่วงกลางถึงปลายสัปดาห์นี้ ซึ่งจะทำให้ SET INDEX มีโอกาสทะลุแนว 1,560 จุด สู่ 1,580 จุดในปลายสัปดาห์ ได้แก่ งาน Thailand Focus วันที่ 27-29 ส.ค. / ตัวเลขเศรษฐกิจไทย เดือนก.ค. วันที่ 29 ส.ค. / การเสร็จสิ้นชำระเงินเพิ่มทุนของ TRUE ในส่วนของ RO วันที่ 28 ส.ค. และ China Mobile วันที่ 30 ส.ค.

ปัจจัยสำคัญวันนี้ การโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งพล.เอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ในช่วงเช้าวันนี้

ขณะที่ธนาคารกลางที่สำคัญของโลก อย่าง ECB ส่งสัญญาณพร้อมผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม หากมีความจำเป็น ด้าน BoJ พยายามหาทางแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจ / แรงงาน เพิ่มเติมเช่นกัน ส่งสัญญาณสภาพคล่องทางการเงินส่วนเกินมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แม้ว่า QE จะสิ้นสุดลงในเดือนต.ค.นี้ก็ตาม

กลยุทธ์การลงทุน MBKET แนะนำ “อาจพิจารณาขายทำกำไรบางส่วนบริเวณ 1,560 จุด +/-“ และพร้อมสะสมเพิ่ม หากราคาหุ้นเป้าหมายเกิดการย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย

กลยุทธ์การลงทุนช่วงสั้น MBKET แนะนำ “ทยอยสะสม” SAMART/ “เก็งกำไร” STPI




บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (25 ส.ค.) ว่าแนะนําให้ปรับลดพอร์ตหุ้นเป็นรายตัวและถือหุ้นไม่เกิน 40% โดยยังแนะนำถือหุ้นที่มีกำไรดีในงวด 2H57(HANA (FV@B44),SRICHA (FV@B43.4) และ GFPT(FV@B18) และวันนี้เลือก INTUCH(FV@B100) มีกําไรเด่นในงวด 2H57และเงินปันผลสูงสุดในกลุ่ม ICT



บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (25 ส.ค.) ว่า ปรับขึ้นต่อแต่ไม่แรง

KGI คาด SET วันจันทร์บวกแคบๆ น่าจะยังเด่นกว่าหุ้นต่างประเทศด้วยประเด็นการตั้ง ครม.ใหม่เร็วๆนี้ (คาดภายในต้น ก.ย.) ส่วนปัจจัยภายนอกเป็นกลาง/ลบเล็กน้อย ประธานเฟดแถลงเมื่อคืนวันศุกร์ ไม่ต่างจากในรายงานประชุมเฟดเมื่อ สัปดาห์ก่อนคือเศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวแต่ยังไม่กำหนดเวลาขึ้นดอกเบี้ย ส่วนประธาน ธ.กลางยุโรปเปิดช่องออกมาตรการเพิ่มเติมได้แต่ไม่มีสัญญาณว่าจะเป็นนโยบาย QE แต่อย่างใด และมีข่าวลบเล็กน้อยหลังเยอรมันแถลงการเจรจา 4 ฝ่ายไม่น่าหาข้อยุติปัญหาในยูเครนได้ (คาดกระทบตลาดจำกัด) ภาพรวม SET อยู่ทางขึ้นแต่ปัจจัยบวกภายในเป็นเรื่องเดิมๆ ผนวกต่างประเทศเริ่มพัก จึงมองทางขึ้นจำกัดในวันนี้ แนะถือหุ้น/สะสมต่อ คงเป้าไตรมาส 3 ที่ 1,600 จุด

หุ้นเด่นวันนี้ ซื้อเก็งกำไร KTB, STPI



บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (25 ส.ค.) SET หลังจากแกว่งสร้างฐาน...ต่อไปก็เริ่มแกว่งไต่ระดับขึ้น ดังนั้นยังเน้นถือ!!

แนวโน้ม : ปลายสัปดาห์ที่แล้ว SET ยังแกว่งบวกกลับขึ้นมาได้ดี ถึงแม้ว่าจะยังมีจังหวะแกว่งตัวผันผวนให้เห็น แต่ดัชนีก็สามารถขยับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องได้อีกครั้ง ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐมีการปรับพักตัวลงลบบ้างในช่วงค่ำวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากถ้อยแถลงของประธานเฟดในที่ประชุมใหญ่ประจำปีของเฟดไม่ได้มีประเด็นใหม่ๆ ที่จะมาสร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุน แต่ความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซียกลับเป็นประเด็นกดดันตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปอีกครั้ง เนื่องจากรัสเซียส่งขบวนรถบรรเทาทุกข์ข้ามพรมแดน ทำให้ยูเครนไม่พอใจเพราะถือว่าเข้าข่ายบุกรุก อย่างไรก็ตามคาดว่านักลงทุนคงยังลุ้นการนัดเจรจาหารือระหว่าง ปธน.รัสเซียและยูเครนในวันพรุ่งนี้(26 ส.ค.) อยู่ รวมทั้งตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ก็ไม่ได้เปิดตัวเลวร้ายนัก ทำให้ FSS คาดว่าแม้ SET ยังมีโอกาสที่จะแกว่งตัวผันผวนอยู่ แต่ก็มีแนวโน้มที่จะเป็นการผันผวนในทางบวกต่อเนื่องได้เช่นเดิม

แนวรับ 1555-1552 , 1549-1546 จุด แนวต้าน 1562-1564 , 1570-1573 จุด

กลยุทธ์ : หลังจาก SET แกว่งตัวผันผวนเพื่อสร้างฐานมาพักใหญ่ คาดว่าช่วงถัดจากนี้ดัชนีกำลังจะเริ่มแกว่งตัวเพื่อค่อยๆ ขยับไต่ระดับขึ้นต่อเนื่องรอบใหม่แล้ว โดยคาดว่ายังมีเป้าหมายที่จะทำจุดสูงสุดใหม่แถว 1600 จุด(+/-) ได้ ดังนั้นช่วงนี้จึงยังแนะนำให้เลือกหุ้นเข้าซื้อในช่วงตลาดลบ แล้วเน้นถือต่อเนื่องไว้จนกว่าดัชนีจะขยับเข้าใกล้ 1600 จุดหรือสูงกว่าขึ้นไป จึงจะพิจารณาหาจังหวะขายทำกำไรอีกครั้ง

หุ้นเด่นมีประเด็น XO ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 3.70 บาท

AAV ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 5.40 บาท

ERW ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 5.90 บาท



บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (25 ส.ค.) แกว่งตัว? คาดมีโอกาสปรับขึ้น ภายใต้ปัจจัยต่างประเทศหลังถ้อยแถลงของประธานเฟดล่าสุดยังไม่มีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับช่วงเวลาที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก ขณะที่ประเด็นในประเทศคาดอยู่ระหว่างรอโฉมหน้า ครม. คาดประมาณ 1 – 2 สัปดาห์หลังโปรดเกล้านายกฯ ในวันนี้ ซึ่งคาดเป็นปัจจัยบวกหลังจากนี้ โดยเฉพาะการดำเนินนโยบายต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุน

ทางด้าน Fund Flow ต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่อง แต่มูลค่ายังไม่มากนัก อย่างไรก็ตามคาดภาพรวมยังมีความผันผวน โดยแนะติดตามค่าเงินบาทประกอบ คาดเป็นหนึ่งสัญญาณที่แสดง Flow เข้า (บาทแข็ง) หรือ Flow ออก (บาทอ่อน)

และมีประเด็นที่แนะให้ติดตาม (1) ความคืบหน้าในโครงการที่พร้อมเปิดประมูล หลังมีความชัดเจนแหล่งเงินทุนที่จะนำมาใช้ โดยเฉพาะโครงการรถไฟทางคู่ 6 เส้นทางที่ผ่าน EIA ไปแล้วเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา รวมถึงโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่คาดเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (2) ภาครัฐเตรียมผลักดันเขตเศรษฐกิจพิเศษ 6 แห่ง โดยกระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอโครงการพัฒนาเส้นทางคมนาคมเชื่อมด่านการค้าชายแดน 6 แห่ง นอกจากนี้ยังมีประเด็นการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน ที่อาจจะส่งผลกระทบหุ้นในกลุ่มโรงกลั่น และปิโตรเคมี

หุ้นแนะนำ : BLAND

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com