*ทันทีที่หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กทะยานขึ้นมายึดหัวหาดบนกระดาน most active กันหน้าสลอน “โมนิก้า” รู้ได้ทันทีว่า บรรยากาศมาคุต้องอยู่กับตลาดหุ้นไทยไปอีกนาน และถ้ามองถึงปัจจัยเร้าที่จะทำให้นักลงทุนกลุ่มต่างๆ หวนกลับเข้ามาลงทุนหุ้นอย่างจริงจัง ก็ยังมองไม่เห็นปัจจัยที่จะทำให้กลุ่มคนเหล่านั้นแปลงร่างเป็นนักลงทุนระยะยาวเลยพับผ่าซิ!

*แรงกดดันดังกล่าวทำให้นักลงทุนกระโจนเข้ามาเล่นเป็นช่วงๆ ดัชนีเลยแกว่งไปมาทั้งในแดนบวกและแดนลบ ซึ่งวานนี้เป็นอีกครั้งที่ดัชนีทำ ท่าจะยืนปิดในแดนบวกได้ แต่สุดท้ายอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1,542.36 จุด ลบไป 4.26 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4 หมื่นล้านบาท มันเป็นทั้ง “โอกาส” และ “อุปสรรค” สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่และหน้าเก่า...หากเข้าถูกจังหวะ เหมือนโดนหวย 3 ตัวตรงๆ แต่ถ้าเข้าผิดจังหวะ ก็แค่ถลอกปอกเปิกนิดหน่อยเจ้าค่ะ

*เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ JAS ถ้ามองในมุมของนักโหนกระแส อาจเป็นจังหวะของการเล่นแบบตีหัวเข้าบ้าน และถ้ามองในมุมของพวกจิตหงุมหงิม อาจเป็นการสร้างปัญหาให้กับการดำเนินชีวิตประจำวัน เพราะอยากรู้ความชัดเจนของการฟ้องร้องไปถึงไหน หากยังคาราคาซังต่อไปเรื่อยๆ ก็คงเป็นเหมือนกับวานนี้ที่อ่อนตัวลงมาปิดที่ 6.40 บาท ลบไป 0.15 บาท เพราะไม่มีใครอยากเอาตัวเข้าเสี่ยงนะซี

*ประเด็นนี้เทียบได้กับการทะยานขึ้นของหุ้นเดินเรือ RCL พุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างเร่าร้อน หลังค่าระวางเรือขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,000 จุด ผนวกกับตัวเลขกำไรเริ่มปรากฏให้เห็นอย่างต่อเนื่อง เลยเชื่อกันว่า นี่เป็นจังหวะของการไหลตามน้ำ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 11.90 บาท บวกไป 1.30 บาท หรือขึ้นไป 12% วอลุ่มซัพพอร์ตเต็มที่ วันนี้ได้เฮอีกวันชัวร์ มุขหุ้นต่ำบุ๊คยังแรง...อิอิอิ

*พูดถึงความแรง ความไร้เหตุผล ความไม่อยู่กับร่องกับรอย “โมนิก้า” มองว่า ไม่มีตัวไหนแสบทรวงเท่า SUPER ชนวนเหตุที่ทำให้หุ้นพุ่งขึ้นมาปิด ที่ 9.05 บาท บวกไป 1.05 บาท หรือ 13% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.27 พันล้านบาท แถมเป็นการรีบาวด์ติดต่อ 2 วัน หลังจากดิ่งพสุธาลงมาจาก 13.30 บาท มันเป็นรายละเอียดที่ไว้ใช้ในการวัดใจผู้กล้า...ใครรู้ตัวว่า บ้าระห่ำ เชิญทางนี้เจ้าค่ะ

*โครงสร้างการขยับตัวดังกล่าวคล้ายกับ EPCO หุ้นโรงพิมพ์ที่หันไปเอาดีทางด้านพลังงานทางเลือก และตั้งแต่ที่มีการจัดโครงสร้างธุรกิจรอบใหม่...อะไรต่อมิอะไรก็ดีขึ้นเรื่อยๆ แถมมีความเชื่อเรื่องกำไรจะเติบโตก้าวกระโดดจากธุรกิจใหม่เข้ามาผสม ผสาน “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่หุ้นมีอาการ all time new high พร้อมกับกระชากขึ้นมาปิดที่ 7.60 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 13% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 638 ล้านบาท...บอกได้คำเดียวว่า ไม่เชื่ออย่าหลู่ เพราะของเขาแรงจริงๆ นะจ๊ะ

*พูดถึงเรื่องแรงๆ “โมนิก้า” นึกถึงหุ้นความสวยความงาม APCO ขึ้นมาเป็นลำดับแรก...ล่าสุดงัดแคมเปญใบเสร็จแลกซื้อหุ้นเพิ่มทุน 28 ล้านหุ้น ว่ากันว่า โปรโมชั่นพิเศษจัดขึ้นเพื่อเอาใจคอหุ้นโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดราคา ไม่ต้องกังวลเรื่องไดลูท เพราะหุ้นที่นำออกมาขายครั้งนี้คิดเป็นแค่ 10% แต่เดี๊ยนก็ยังสงสัยอยู่ว่า จริงเหรอ! ในเมื่อตัวหารเพิ่มขึ้น กำไรต่อหุ้นย่อมลดลง ปันผลก็ต้องลดลงตาม และค่า P/E ก็ต้องสูงขึ้น (ทุกวันนี้ก็เทรดกันที่ระดับ 73 เท่าแล้วนะ) วานนี้หุ้นเลยได้แต่นิ่งๆ อยู่ที่ 31 บาท บวกไป 0.25 บาท...ใครอยากได้รายละเอียดเพิ่มเติม กริ๊งกร๊างถาม “เจ๊ดวงมน” ณ ก.ล.ต. กันเอง เพราะชีคอนเฟิร์มว่า เป็นความคิดสร้างสรรค์อย่างหนึ่ง!

*ไหนๆ พูดถึงเรื่องดีๆ ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอเม้าท์ถึงหุ้นพระเอกตัวจริง AJD ภายใต้การกุมบังเหียนของ “อมร มีมะโน” สักหน่อย หลังพรายกระซิบ “นั่งยัน นอนยัน” ปีนี้ผลงานดีระเบิดระเบ้อแน่ๆ หลังไตรมาส 2 เบิกร่องกำไร 11.50 ล้านบาท เทียบกับไตรมาสก่อนขาดทุน 15.47 ล้านบาท นักสืบพันทิปถึงยกเคสแบบนี้ว่า มีนัยสำคัญ! พร้อมกับสำทับเพิ่มเติมว่า ผู้ถือหุ้นรายย่อยสบายใจหายห่วงได้เลย เพราะไตรมาส 3 ส่งซิกมาตั้งแต่หัววันว่า ตัวเลขน่าจะสวยงามต่อเนื่อง รับอานิสงส์คูปอง SET TOP BOX แบบเต็มๆ นะจะบอกให้

*ตบท้ายกันที่หุ้นกระเบื้องเฟื่องฟูลอย UMI มองในมุมพื้นฐาน ก็ไม่มีอะไรโดดเด่น หรือถ้ามองในมุมเทคนิค ก็เป็นการลากไปออกของเหมือนเช่น 3 รอบที่แล้ว “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเป็นกังวลใจที่เห็นหุ้นวิ่ง ขึ้นมาปิดที่ 8 บาท บวกไป 0.85 บาท หรือขึ้นไป 12% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 180 บาท เพราะดีสุดรอบนี้น่าจะทำได้แค่ 9 บาท แถมจุดสูงสุดต่ำลงเรื่อยๆ จากระดับ 10.50 บาท ลงมาอยู่ที่ 10 บาท และถอยลงมายัง 9.50 บาท...มันไม่สามารถตีความเป็นอย่างอื่นได้เลยนะตัวเอง!