March 28, 2024   4:38:25 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > SAMARTผงาด-ได้บริษัทลูกหนุน
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 08/08/2014 @ 09:00:16
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

กลุ่มสามารถฯโดดเด่น โบรกฯคาดกำไร Q2/57 โต 13% แตะ 403 ล้านบาท แนะซื้อ ชี้แนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลังสุดแจ่ม SIM มีแผนออกสินค้าใหม่ ธุรกิจ MVNO สดใส แถมมีรายได้จากการจำหน่าย Set top box ส่วน SAMTEL งานประมูลทะลัก คาดเซ็นสัญญางานใหม่อีกกว่า 7-8 พันล้านบาท ด้าน OTO งบการเงินแกร่ง ยอด Backlog ปี 58 มูลค่าสูง

* โบรกฯคาดกำไร Q2/57 โต 13% แตะ 403 ลบ.
บทวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ระบุว่า มั่นใจต่อการฟื้นตัวของกำไรหลักของ SAMART ในช่วงครึ่งหลังของปี 2557 (ถึงแม้ว่าเราจะคาดการณ์กำไรหลักที่ลดลงในช่วงไตรมาส 2/57 ก็ตาม) ซึ่งจะมีปัจจัยหนุนมาจากยอดขายสมาร์ทโฟนของ SIM ที่ยังคงเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง การเปิดประมูลงานโครงการภาครัฐที่เพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3/57 (ซึ่งจะไปหนุนกำไรสุทธิไตรมาส 4/57 ของ SAMTEL) กำไรของ OTO ที่จะเพิ่มขึ้นจากงานขายและติดตั้งระบบศูนย์บริการข้อมูลแบบเบ็ดเสร็จ (turnkey sales) รวมถึงการเริ่มรับรู้รายได้ที่จะเพิ่มขึ้นของการขายกล่องและเสาดิจิตัลทีวีตั้งแต่เดือนก.ย.2557 เป็นต้นไป SAMART ยังคงเป็นหุ้นที่เราชอบมากที่สุดสำหรับหุ้นในกลุ่ม SAMART เนื่องจากกำไรหลักช่วงครึ่งปีหลังที่จะเติบโตก้าวกระโดดและอัพไซด์จากงานโครงการใหม่ของ SAMTEL เทด้า สามารถยูทรานส์ OTO และวิชั่นและเซ็คเคียวริตี้ในช่วงครึ่งปีหลัง คาดกำไรหลักไตรมาส 2/57 ลดลง ซึ่งถูกฉุดโดย SAMTEL
เราคาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/57 ของ SAMART ที่ 403 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% YoY และทรงตัว QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษในไตรมาส 2/57 ได้แก่ รายได้จากเงินประกันไฟไหม้จำนวน 40 ล้านบาทและกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 6 ล้านบาท กำไรหลักอยู่ที่ 367 ล้านบาท ลดลง 12% YoY และ 6% QoQ กำไรหลักที่ลดลงมาจากกำไรหลักของ SAMTEL ที่ลดลง (ในขณะที่กำไรหลักของ SIM ทรงตัวและกำไรของกลุ่มบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนฯ ปรับตัวดีขึ้น)
SIM: กำไรหลัก 285 ล้านบาท—ทรงตัว YoY และเพิ่มขึ้น 46% QoQ—เนื่องจากผลกระทบของภาษีจ่ายและดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้น ซึ่งกลบผลกระทบของกำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น (ดูรายระเอียดในรายงาน SIM เมื่อวันที่ 29 ก.ค.)
SAMTEL: กำไรหลัก 118 ล้านบาท—ลดลง 42% YoY และ 41% QoQ—เนื่องจากงานประมูลงานโครงการภาครัฐที่ล่าช้าออกไปจากเดิม SAMTEL ลงนามเซ็นสัญญาโครงการใหม่เพียงแค่ 413 ล้านบาทในช่วงระหว่างไตรมาส
OTO: กำไรสุทธิ 23 ล้านบาท—เพิ่มขึ้น 15% YoY แต่ลดลง 10% QoQ—โดยมีปัจจัยหนุนจากรายได้งานขายและติดตั้งระบบศูนย์บริการข้อมูลแบบเบ็ดเสร็จ (turnkey) ที่เพิ่มขึ้น (27 ล้านบาท) อัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะอยู่ที่ 22% ลดลงจาก 25% ในไตรมาส 1/56 และ 4/56 เนื่องจากสัดส่วนรายได้งานขายที่ให้มาร์จิ้นต่ำเพิ่มขึ้น OTO เซ็นสัญญางานโครงการใหม่มูลค่า 613 ล้านบาทในระหว่างไตรมาส บริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ
ผลการดำเนินงานของบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทุกบริษัทยกเว้นสามารถ เอ็นจินเนียริ่ง (SE) เติบโต YoY เราคาดว่ากำไรรวมของบริษัทย่อยที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 176% YoY หนุนโดยโรงไฟฟ้ากัมปอต (กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 33% YoY) วิทยุการบินที่เขมร (กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 3% YoY) และการพลิกฟื้นเป็นกำไรของวิชั่นและเซ็คเคียวริตี้และเทด้า แต่เราคาดว่า SE จะรายงานผลขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้น 51% YoYคาดมีการเซ็นสัญญาใหม่เพิ่มเติมในช่วงครึ่งหลังของปี 2557
เราคาดว่า SAMTEL จะทำการเซ็นสัญญาใหม่ประมาณ 7-8 พันล้านบาท (ซึ่งไม่รวมโครงการติดตั้งระบบคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า) ในช่วงครึ่งหลังของปี 2557 ซึ่งประกอบด้วยโครงการใหญ่ได้แก่ โครงการห้องเรียนอัจฉริยะของกระทรวงศึกษาธิการ (2.9 พันล้านบาท) และโครงการส่วนต่อขยายคิวท์ของบริษัทการท่าอากาศยานไทย (2.5 พันล้านบาท) บริษัทสามารถยูทรานส์คาดว่าจะเซ็นสัญญาโครงการงานขายมูลค่า 470 ล้านบาทในไตรมาส 3/57 นอกจากนี้ เรายังคาดว่าเทด้าจะทำการเซ็นสัญญาในโครงการสถานีพลังงานย่อยซึ่งมีมูลค่าอย่างต่ำ 1 พันล้านบาทในช่วงครึ่งหลังของปี 2557 ส่วนบริษัทวิชั่นและเซ็คเคียวริตี้คาดจะเข้าประมูลโครงการกล้องวงจรปิดมูลค่า 500 ล้านบาทในไตรมาส 3/57 และ OTO คาดว่าจะเซ็นสัญญาใหม่เพิ่มเติมอีกมูลค่า 340 ล้านบาทในช่วงครึ่งหลังของปี 2557 ซึ่ง 77% ของมูลค่างานใหม่ที่ OTO เซ็นเพิ่มจะเป็นงานขายและติดตั้งระบบ (turnkey)

*SIM โชว์งบ Q2/57 กำไรเพิ่มแตะ 290 ลบ.
บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) หรือ SIM แจ้งผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/57 มีกำไรสุทธิ 290.09 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.066 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 256.27 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.059 บาท ส่วนงวด 6 เดือน มีกำไรสุทธิ 486.80 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.111 บาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 433.47 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.10 บาท พร้อมกันนี้ คณะกรรมการอนุมตัการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล หุ้นละ 0.06 บาท วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) 18 ส.ค. 2557 วันที่จ่ายปันผล 3 ก.ย. 2557

*โบรกฯแนะซื้อ SIM ครึ่งปีหลังมีแผนออกสินค้าใหม่-ธุรกิจ MVNO สดใส
บทวิเคราะห์ บล.ทิสโก้ ระบุว่า ช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้จะดีกว่าช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทมีแผนที่จะออกสินค้าใหม่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดดิจิตอลทีวี นอกเหนือจากธุรกิจจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่มีแนวโน้มที่ดีแล้ว ธุรกิจให้บริการโทรคมนาคม (MVNO) ยังมีทิศทางที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ตามการขยายฐานลูกค้าทั้งการ Bundle Sim กับโทรศัพท์ของ Imobile เอง , พันธมิตรที่จำหน่ายเครื่องของบริษัท และการขยายทีมการตลาด ซึ่งส่งผลให้การขาดทุนจากธุรกิจนี้ลดลงต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทยังมี upside จากการจำหน่าย set top box ซึ่งคาดว่าจะเห็นการทำตลาดมากยิ่งขึ้นในช่วงเดือนกันยายน หลังเริ่มแจกคูปอง โดยจะจำหน่ายผ่านทางช่องทางทั้ง Shop I-mobile และ Modern trade อย่างไรก็ตาม เรายังไม่รวมประมาณการการขาย Set top box ไว้ในประมาณการของเรา ดังนั้น เรามองว่าในปีนี้ก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งปีที่ SIM ยังคงมีการเติบโตที่ดียังคงแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าที่เหมาะสม 4.88 บาท
ด้วย SIM ยังมีการเติบโตที่ดี เรามองว่า SIM ยังน่าลงทุน โดยปัจจุบันซื้อขายด้วย PER 14.23 เท่า และ PEG เพียง0.5 เท่า ดังนั้น เรายังคงแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าที่เหมาะสม 4.88 บาท อิงจากการประเมินมูลค่าด้วยวิธี PER 20 เท่าปี 2557F ปัจจัยเสี่ยงได้แก่ ยอดขายโทรศัพท์เคลื่อนที่และราคาขายเฉลี่ยที่ต่ากว่าคาด การแข่งขันที่รุนแรงโทรศัพท์เคลื่อนที่และความล่าช้าในลงนามสัญญา MVNO

* SAMTEL งานประมูลทะลัก
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุว่า แม้ผลประกอบการ 1H57 ถูกกระทบจากปัจจัยทางการเมือง แต่คาดว่าจะเห็นภาพที่ดีขึ้นใน 2H57 อย่างไรก็ตามที่ประมาณการรายได้ของเราที่ต่ำกว่าเป้าหมายบริษัท 14% และประมาณการกำไรของเราต่ำกว่า Consensus 6% น่าจะสะท้อนปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองมากพอสมควรแล้ว ซึ่งที่ประมาณการของเรายังคงมี Upside gain 26% จากราคาเป้าหมายที่ 20.20 บาท เราจึงเริ่มต้นคำแนะนำ ซื้อ SAMTEL ราคาปัจจุบัน PER อยู่ที่ 11 เท่า
แม้บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้ที่ 11,000 ล้านบาท แต่เพื่อใส่ปัจจัยเสี่ยงความล่าช้าของงานโครงการหน่วยงานรัฐฯ เราจึงคาดการณ์รายได้ต่ำกว่าเป้าหมายบริษัทอยู่ 14% อยู่ที่ 9,487 ล้านบาท ทรงตัวจากปี 2556 และคาดกำไรสุทธิที่ 893 ล้านบาท (ต่ำกว่า Consensus 6%) เติบโต 4% YoY แม้การเติบโตไม่สูง แต่ยังคงเติบโตได้แม้ในสถานการณ์ไม่ปกติ เนื่องจากบริษัทมุ่งเน้นเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำต่อเนื่องจากอดีตที่ราว 20% ของรายได้ ปัจจุบันอยู่ที่ราว 30-40% ของรายได้ สัดส่วน Backlog และรายได้ประจำคิดเป็น 94% ของประมาณการรายได้ช่วงที่เหลือของปีของเรา ที่ราคาปัจจุบันยังคงมีระดับ PER ต่ำอยู่ที่ 11 เท่า ขณะที่ผลตอบแทนจากเงินปันผลคาดที่ 4.7% (ปันผลต่อหุ้นคาดที่ 0.75 บาท จ่ายทุกครึ่งปี) เริ่มต้นคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 20.20 บาท (เทียบเท่า PER 14x)
ครึ่งปีแรกเงียบเหงา แต่กำลังเข้าสู่ช่วงที่ดีใน 2H57: จากผลกระทบทางการเมืองในช่วงครึ่งปีแรกทำให้งานประมูลใหม่ๆ ของหน่วยงานภาครัฐฯ ซบเซา รัฐบาลรักษาการไม่สามารถเดินหน้าโครงการขนาดใหญ่ได้ ทำให้หลายโครงการของ TOT ล่าช้าออกไป ขณะที่งานโครงการ 3จี เฟส 1 รับรู้รายได้ไปหมดแล้วใน 1Q57 ทำให้ 2Q57 แนวโน้มรายได้ลดลง 9-10% QoQ เป็นราว 180-190 ล้านบาท ส่วนงานรอประกาศและรอประมูลมูลค่าราว 10,000 ล้านบาท คาดว่าจะมีความชัดเจนช่วง 2H57 ซึ่งภายหลังมีงบประมาณปี 2558 ชัดเจน เราคาดว่างานประมูลจะกลับมาคึกคัก แต่ในด้านรายได้เราคาดว่า 4Q57 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี และปี 2558 ผลประกอบการจะกลับมาเติบโตโดดเด่น หากสถานการณ์ในประเทศกลับมาเป็นปกติ ?
ปีหน้ากำไรจะกลับสู่ระดับที่ควรจะเป็น: หากสถานการณ์ในประเทศเข้าสู่ภาวะปกติ และคณะทำงานสามารถอนุมัติงบประมาณปี 2558 ได้ แผนการลงทุนของ TOT เป็นรูปธรรมได้ และโครงการพัฒนาระบบโครงสร้างฟื้นฐานด้าน ICT ของประเทศจะถูกนำมาพิจารณาอีกครั้งเพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนการลงทุนด้านนี้จึงมีความจำเป็น ด้วยเงินลงทุนจำนวนหลายหมื่นล้านบาททำให้เราคาดว่าปีหน้าผลประกอบการจะอย่างน้อยควรกลับเข้าสู่ระดับปกติเราคาดที่ 1,004 ล้านบาท เติบโต 13% YoY แต่หากการลงทุนต่างๆเกิดขึ้นได้จริงมีโอกาสที่กำไรจะสูงกว่าที่เราคาดไว้ได้เช่นกัน ที่ราคาปัจจุบันมี PER 2558 ที่เพียง 11 เท่า จึงเป็นโอกาสสะสม

* OTO งบการเงินแกร่ง ยอด Backlog ปี 58 มูลค่าสูง แนะทยอยซื้อ
บล.ฟิลลิป ระบุว่า 2Q57 ทางฝ่ายประเมินรายได้ที่ 185 ล้านบาท กำไรสุทธิ 24 ล้านบาท และอัตรากำไรสุทธิ 13% ทางฝ่ายประเมินว่าสัดส่วนรายได้การขายและการให้บริการอยู่ที่ 25% และ 75% ตามลำดับ และอัตรากำไรคงเดิมดังเช่น 1Q57
ทางฝ่ายปรับประมาณการรายได้ปี 57 เป็น 768 ล้านบาท เติบโต 11% y-y จากเดิม 897 ล้านบาท และปรับกำไรสุทธิปี 57 เป็น 99 ล้านบาท จากเดิม 123 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการให้บริการศูนย์บริการข้อมูล (Outsourced Contact Center) ลดลงไม่เป็นไปตามคาด อย่างไรก็ตามทางฝ่ายยังคงประมาณการปี 58 เนื่องจากบริษัทมีมูลค่า Backlog สำหรับปี 58 ที่สูง
ถึงแม้ทางฝ่ายจะปรับประมาณการปี 57 ลง แต่ทางฝ่ายยังคงมีมุมมองบวกสำหรับปี 58 เนื่องจากยอด Backlog สำหรับปี 58 มีมูลค่าที่สูง บริษัทยังมีงบการเงินที่แข็งแกร่งเนื่องบริษัทไม่มีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย และมีความพร้อมสำหรับโอกาสการขายกิจการ และการเติบโตในอนาคตคำแนะนำการลงทุน??ทางฝ่ายประเมินราคาพื้นฐานปี 58 ที่ 6.75 บาท/หุ้น อิง DCF ซึ่งสะท้อนมุมมองบวกของทางฝ่ายสำหรับปี 58 แนะนำ “ทยอยซื้อ”

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com