March 29, 2024   1:59:22 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > SET ระยะสั้นยังมีแรงขาย ลุ้นผ่านระดับปลอดภัย 1,530 จุด
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 08/08/2014 @ 08:53:10
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.38 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.20/23 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นตามทิศทางของตลาดหุ้นนิวยอร์ก เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานที่ระบุว่ายอดขาดดุลการค้าของสหรัฐเดือนมิ.ย.ปรับตัวลง นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบจำกัด ระยะสั้นยังมีแรงขายกดดัน พิจารณาขายทำกำไรบริเวณ 1,520-1,530 จุด นอกจากทะลุแนว 1,530 จุด แนะนำสะสมหุ้นปันผลดีช่วงดัชนีผันผวน หุ้นเด่นเลือก CPF-PTTEP-JAS-SPCG-SAMART-SIM-BTS-BMCL-AOT-CENTEL-TPIPL-CK-STEC-SPALI-QH-LPN-KBANK-INTUCH-RML-BJC และ GUNKUL



บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (7 ส.ค.) ว่า MBKET ประเมิน SET INDEX วันนี้แกว่งระหว่าง 1,518-1,530 จุดเช่นเดิม ทั้งนี้จับตาหุ้นหลักในกลุ่มธนาคารและค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อประเมินเม็ดเงินทุนต่างชาติต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ซึ่งมีแนวโน้มเป็นเชิงบวกต่อเนื่องจากวานนี้ ขณะที่หุ้นขนาดกลางที่มีประเด็นเชิงบวกเชื่อว่าจะขยับเด่นกว่าภาพรวมเช่นเดียวกับ 2-3 วันทำการก่อนหน้า

สำหรับปัจจัยในประเทศวันนี้ การขึ้นเครื่องหมาย XD ของ SCC วันนี้ 5.50 บาท/หุ้น จะมีผลกระทบต่อ SET INDEX ราว 0.73 จุดเท่านั้น รวมถึงหุ้น JAS ที่วานนี้ปิดลบ 9.66% และตลอด 3 วันทำการลดลง 12.67% เนื่องจากความไม่แน่นอนของการทำธุรกิจ TTBB ที่ TT&T ฟ้องร้อง Acument บริษัทย่อยของ JAS หากราคาหุ้น JAS วันนี้ฟื้นตัว เป็นโอกาสของการทยอยลดน้ำหนักการลงทุน เพื่อปิดความเสี่ยงของการลงทุน ทั้งนี้นักลงทุนอาจ “Switch จาก JAS ไปยัง TRUE” อาจเป็นทางออกที่น่าสนใจ และลดความเสียหายจากการลงทุนใน JAS

ด้านปัจจัยต่างประเทศ ติดตามการประชุม ECB / BoE ต่อการพิจารณานโยบายการเงิน ทั้งนี้ตลาดคาดธนาคารกลางทั้ง 2 จะยังไม่ปรับเปลี่ยนนโยบาย แต่ด้วยภาพเศรษฐกิจในอียูที่เริ่มชะลอตัวเด่นชัด อาจทำให้ ECB ส่งสัญญาณพร้อมอัดฉีดสภาพคล่องทางการเงินเพิ่มเติมได้

กลยุทธ์การลงทุน MBKET แนะนำ “Swing Trade คือ ขึ้นแรงขาย ลงแรงซื้อ” โดยเฉพาะบริเวณ 1,520-1,530 จุด ที่ควรพิจารณาขายทำกำไร เว้นเสียจาก SET INDEX ทะลุแนว 1,530 จุด

กลยุทธ์การลงทุนช่วงสั้น MBKET แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” SPCG



บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (7 ส.ค.) ว่าแนวโน้ม SET ระยะสั้น แม้มีแรงขายทำกำไรสลับเข้ามาบ้าง แต่ระยะสัปดาห์ยังมองเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 1,570-1,600 จุด เหมือนเดิม จาก 1) พัฒนาการเชิงบวกทางการเมือง รับรัฐบาลใหม่ภายใน ก.ย.นี้ พร้อมพิจารณายกเลิกกฎอัยการศึก หนุนกระแสเงินทุนไหลเข้า 2) เศรษฐกิจฟื้นตัวตั้งแต่ 3Q14 ขณะที่ ธปท.ยังดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลาย ล่าสุดคงดอกเบี้ย 2% 3) Trigger Fund หลายกองเปิดขาดคาดเม็ดเงินใหม่เข้าหนุน SET ตั้งแต่ 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า

พัฒนาการเชิงบวกทางการเมืองหนุนกระแสเงินทุนจากต่างประเทศ และ Trigger Fund จะเป็นปัจจัยหนุน SET ระยะถัดไป แนะนำ “ซื้อ” กลุ่มธนาคาร (KBANK) อสังหาฯ (SPALI QH LPN) รับเหมาฯ (CK STEC) วัสดุก่อสร้าง (TPIPL) ขนส่งและท่องเที่ยว (BTS BMCL AOT CENTEL) และกลุ่มสื่อสาร (SAMART)



บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (7 ส.ค.) ว่า กลยุทธ์การลงทุนในสถานการณ์ดัชนีผันผวน แนะหุ้นปันผลเด่น 1) INTUCH (FV@B109) ราคาหุ้นมี upside สูงกว่า 60% + มีเงินปันผล 6.5% และ 2) RML (FV@B2.38) คาดกำไรไตรมาส 2/57 เติบโต 80% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนโดยคาดว่าจะกลับมาจ่ายเงินปันผลปีนี้เป็นปีแรก เลือกเป็น Top picks



บล.เคเคเทรด ระบุในบทวิเคราะห์ (7 ส.ค.) คาด SET จะแกว่งตัวออกด้านข้างในกรอบ 1,520-1,535 จุด ด้วยปัจจัย 1) ความกังวลต่อการค้าโลกและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในยุโรป จากกรณีรัสเซียเตรียมออกมาตรการปกป้องเศรษฐกิจในประเทศเพื่อตอบโต้การถูกคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์จะได้รับ Sentiment เชิงลบ ส่วนกลุ่มอาหารยังมีผลกระทบจำกัดเนื่องจากเป็นสินค้าจำเป็น (CPF ได้ผลบวกเล็กน้อยเพราะมีธุรกิจในรัสเซีย)

2) กลุ่มพลังงานปิโตรเคมี (ยกเว้น PTTEP) จะถูกกดดันจากความคาดหวังเชิงลบต่อฤดูกาลต่ำไตรมาส 3/57 ขณะที่กลุ่มธนาคารจะถูกกดดันจากการแข่งขันแย่งเงินฝากและหนี้ภาคครัวเรือนระดับสูงอาจกดดันความสามารถทำกำไรครึ่งปีหลังของปี 57 3) นักลงทุนในประเทศอาจชะลอการลงทุนเมื่อข้าใกล้วันหยุดยาว 4 วันในสัปดาห์หน้า และ 4) ความคาดหวังทั้งบวกและลบต่อไตรมาส 2/57 ที่ทยอยประกาศออกมาจะสร้างความผันผวน

ภาพใหญ่ ระยะ 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า เราคาด SET จะยังคงผันผวนในกรอบ 1485 -1550 จุด ตามการคาดหวังเชิงบวกและลบต่อไตรมาส 2/57 และเม็ดเงินใหม่ที่จะเข้ามาในตลาดเพื่อคาดหวังผลประกอบการฟื้นตัวในปี 58 ของบริษัทจดทะเบียน เราเชื่อว่าหลังจากการประกาศไตรมาส 2/57 และปรับประมาณการเสร็จสิ้น SET จะเริ่มมีทิศทางที่ชัดเจน

กลยุทธ์การลงทุน ระยะสั้น SET ยืนเหนือ 1520 จุดได้ แนะนำขึ้นขายลงซื้อ CPF (ผลประกอบการครึ่งปีหลังของปี 57 จะฟืนตัวต่อเนื่อง ได้ประโยชน์จากธรกิจในรัสเซีย), PTTEP (โครงการซอติก้าเปิดดำเนินการได้ตามคาดจะผลักดันผลประกอบการครึ่งปีหลังของปี 57) และกลุ่มที่มี Upside จากมูลค่าเหมาะสมเกิน 15% และคาดว่างบไตรมาส 2/57 จะโตทั้งจากไตรมาส และไตรมาสเดียวกันในปีก่อนได้แก่ SAMART และ SIM

ทยอยสะสมหุ้น JAS กรณีพิพาทกับ TT&T จะกระทบ Sentiment เชิงลบกรณีศาลรับคำร้อง แต่ต้องใช้เวลา 10 ปีกว่าจะมีคำตัดสิน และไม่กระทบผลประกอบการ เราคงแนะนำทยอยสะสมด้วยมูลค่าพื้นฐานใหม่ที่ 7.25 บาท



บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ปรับขึ้นในกรอบที่จำกัด

KGI คาด SET วันพฤหัสฯ ฟื้นตัวแต่คงไม่มาก บวกแคบๆ หลังวานนี้ปรับลงท้ายตลาดตามหุ้นยุโรปที่เปิดมาร่วง จากความกังวลรัสเซียจะบุกยูเครน, ตัวเลขภาคโรงงานเยอรมันต่ำคาด และอิตาลีกลับสู่เศรษฐกิจถดถอย อย่างไรก็ตามหุ้นยุโรปปิดลบไม่มาก และหุ้นสหรัฐฯ ประคองตัวได้หลังตัวเลขขาดดุลการค้า มิ.ย. น้อยกว่าคาดมาก ทำให้ GDP ไตรมาส 2 น่าจะสูงกว่าตัวเลขเดิม 4% ขึ้นไปอีก

ด้านปัจจัยภายในยังเป็นบวกโดยมีเปิดประชุม สนช. วันนี้ คาดสัปดาห์หน้าตั้งสภาปฎิรูปฯ ถัดไปจัดตั้งรัฐบาลคงแนะนำอยู่ฝั่งซื้อหุ้น คงเป้า SET ระยะสั้นที่ 1,550 จุด และคืนนี้ให้ติดตามประชุม ธ.กลางยุโรป นักเศรษฐศาสตร์ KGI คาดคงดอกเบี้ยระยะสั้นที่ 0.15% และไม่มีมาตรการเพิ่มเติม (รอดูสถานการณ์ก่อน)

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน “เก็งกำไร” หุ้นงบไตรมาส 2 เด่น CPF, SAMART และ SIM



บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (7 ส.ค.) คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค SET วกกลับลงใต้เส้นค่าเฉลี่ย 10 วันและเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน ระดับดัชนีที่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยยังเป็นภาพแนวโน้มลง ขณะที่ MACD ยังต่ำกว่า signal line พบว่าดัชนีตลาดกำลังมีแนวโน้มลดลงไปสู่ระดับแนวรับ 1,505 ถึง 1,485 จุด ในวันข้างหน้านี้

แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบแนวรับ 1,515-1,525 จุด

หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไร หุ้นที่น่าสนใจ BJC และ GUNKUL

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com