March 28, 2024   6:08:37 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ทยอยเก็บ 11 หุ้นเด็ด ลุ้นงบฯ Q2 เด่น-ปันผลดี
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 25/07/2014 @ 08:25:38
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.33 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.80/84 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี หลังจากที่ดัชนี S&P 500 ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสปรับขึ้นต่อ ไต่ระดับ 1550-1570 จุด จากปัจจัยการเมืองที่มีแนวโน้มชัดเจนมากขึ้น สำหรับหุ้นเด่นวันนี้ได้แก่ FPI, BANPU, LANNA, SINGER, SPCG, SIM, STEC, BIGC, SAMART, HMPRO และ CK


บล. ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ก.ค.) ว่า การ Rebound ของ SET วานนี้แข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ และมีโอกาสปรับสูงขึ้นต่อในรูปแบบ Extended Rebound เป้าหมาย 1,570 จุด จากปัจจัยการเมืองที่มีความชัดเจนมากขึ้น ขณะที่ปัจจัยที่ต้องติดตามวันนี้ได้แก่ 1) การประชุม กสทช สรุปราคาคูปองกล่อง Digital TV และ 2) ตัวเลข PMI จีนเช้านี้

Let Profit Run หุ้นส่วนที่เหลือ...”ซื้อ” Domestic Play และ BIGC: กลยุทธ์ระยะสั้นแนะนำให้ Let the Profit Run หุ้นส่วนที่เหลือ หลังแนะนำ “ลดพอร์ต” แนวต้าน 1,530 +/- จุดไปแล้ว 20-30% ของพอร์ตวานนี้ โดยกลุ่มหุ้นเด่นได้แก่ SAMART (สรุปคูปอง Digital TV), BIGC (ผลการดำเนินงาน 2Q14 ดีกว่าคาด แนวต้าน 230 บาท), HMPRO (กำไรซื้อฟื้นตัว), และ CK (ราคาหุ้น Laggard บริษัทลูก ได้ผลดีลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน)



บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ก.ค.) ว่า สำหรับภาวะการลงทุนในวันนี้ MBKET ประเมิน SET INDEX มีโอกาสไต่ระดับขึ้นทดสอบด่านสำคัญ 1,550 จุด ระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย พร้อมกับเผชิญกับแรงขายทำกำไรมากขึ้น ทั้งนี้ SET INDEX จะปิดยืนเหนือ 1,550 จุดได้หรือไม่ในวันนี้ ขึ้นอยู่กับกระแสเงินทุนต่างชาติ ซึ่งนักลงทุนสามารถติดตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ หากทรงตัวถึงแข็งค่า อาจเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย ซึ่งหุ้นหลักในกลุ่มธนาคาร / PTT Group / น่าจะเป็นเป้าหมายในวันนี้ ขณะเดียวกัน MBKET เชื่อว่านักลงทุนต่างชาติจะยังไม่พลิกกลับมาเป็นการขาย/ลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทยเช่นกัน

ปัจจัยต่างประเทศ ยังคงทรงตัวในทุกๆ ภูมิภาค เช้านี้ติดตามตัวเลข HSBC PMI ภาคการผลิตของ จีน หากยืนเหนือ 50 จุดได้ต่อเนื่อง ย่อมเป็นสัญญาณบวกต่อเศรษฐกิจจีน และภาวะการลงทุนในเอเชียเช้าวันนี้เช่นกัน

กลยุทธ์การลงทุน MBKET แนะนำให้นักลงทุน “ถือพอร์ตที่สะสมมาตลอด 2 วันทำการก่อนหน้า พร้อมทยอยสะสมหุ้นเพิ่ม หากราคาหุ้นเป้าหมายย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย” เพราะเชื่อว่า SET INDEX รอบนี้จะทะลุ 1,550 จุด ขึ้นสู่กรอบ 1,580-1,600 จุด

กลยุทธ์การลงทุนช่วงสั้น MBKET แนะนำ “ทยอยสะสม” SPCG/ SIM พร้อม “ขายทำกำไร” AAV




บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (24 มิ.ย.) ว่า ณ ดัชนีตลาด ที่ Current P/E 16 เท่า มีความเสี่ยงต่อการปรับฐานได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะหลังรายงานงบภาคการผลิต และเงินบาทที่แข็งค่ากดดันหุ้นส่งออก (KCE, DELTA, HANA) แนะให้switch มาหุ้น Growth stock P/E ต่ำ + เงินปันผลสูง ราคาหุ้นมี upside สูงคือ SINGER(FV@B25)



บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ก.ค.) ว่า ขึ้นต่อ ข่าวเรื่องมุมมอง IMF ต่อดอกเบี้ยสหรัฐฯ ดันเงินทุนเข้าเอเชีย

KGI มอง SET วันพฤหัสฯ บวกต่อ (แต่ช่วงเปิดอาจทรงๆ หลังวานนี้ปิดกระโดด) เพราะการเมืองไทยชัดเจนขึ้นอีกหลังมีธรรมนูญชั่วคราวฯ + IMF ชี้ดอกเบี้ยสหรัฐฯ ควรต่ำใกล้ 0% ถึงครึ่งหลังของปี 2558หนุนเงินต่างชาติเข้าเอเชียต่อทั้งพันธบัตรและหุ้น ทั้งนี้ IMF ได้ลดเป้า GDP สหรัฐฯ ปี 2557 จาก 2.0%เหลือ 1.7% แต่ปี 2558 มองโต 3.0% ด้านประเด็นการลงทุน เย็นนี้ PTTEP* จะแจ้งงบไตรมาสสอง และจากนี้จะเข้าสู่ฤดูรายงานกำไรของ บจ. ที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน คาดส่วนใหญ่ออกมาทรงๆ แต่นักลงทุนมองข้ามไปครึ่งปีหลัง/ปีหน้าแล้ว แนะนำถือหุ้น / เก็งกำไรต่อ เชื่อว่า SET จะมีช่วงขึ้นเกินเป้าหมาย(Overshooting) สำหรับไตรมาส 3 ที่มองไว้ที่ 1,550 จุดได้

หุ้นเด่นวันนี้ เก็งกำไร FPI, ถ่านหิน (BANPU* + LANNA) / สะสมรับเหมาฯ + วัสดุ(ต่อเนื่อง)



บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(24 ก.ค.) Sideway? มีโอกาสเคลื่อนไหวทั้ง + / - ภายใต้ปัจจัยที่คาดถูกกดดันบ้างจาก Fund Flow หลังวานนี้ขายสุทธิ 763 ล้านบาท (สวนทางกับภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เป็นยอดซื้อสุทธิ) ขณะที่ล่าสุดค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อย อยู่ที่ 31.81 – 31.85 บาท จากปิด 31.74 บาท (วานนี้)

อย่างไรก็ตามคาดได้รับปัจจัยหนุนเพิ่มจากที่ประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เห็นชอบ 6 โครงการ ของกระทรวงคมนาคม วงเงินรวมกว่า 72,000 ล้านบาท ผ่าน EIA ในจานวนนี้เป็นโครงการรถไฟทางคู่ 2 เส้นทาง (ชุมทางถนนจิระ – ขอนแก่น 29,341 ล้านบาท และลพบุรี – ปากน้าโพ 16,291 ล้านบาท) รวมถึงงานก่อสร้างถนนของกรมทางหลวง (เช่น มอเตอร์เวย์ ชลบุรี – พัทยา – มาบตาพุด 22,850 ล้านบาท เป็นต้น) โดยคาดเริ่มเปิดประมูลราคาช่วงต้นปี’58 ที่คาดอาจมีแรงเก็งกำไรเข้ามาในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง

นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากการเก็งกำไรผลประกอบการ – 2Q/57 และเงินปันผล - กลาง สค. รวมถึงทิศทางโรดแมพของ คสช. ที่ชัดเจนหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว ซึ่งยังแนะติดตามประเด็นหลังจากนี้ไป (1) ตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ - สค. (2) แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี - กย. (3) ตั้งสภาปฏิรูป - ตค. และ (4) จัดการเลือกตั้ง -ประมาณตค. ’58 รวมถึงความคืบหน้างบประมาณปี’58 วงเงิน 2.575 ล้านล้านบาท ที่เตรียมเสนอเข้าสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในวันที่ 6/8/57 โดยในจำนวนนี้ ประมาณ 450,000 ล้านบาท เป็นเงินลงทุนที่ส่วนใหญ่เน้นการจัดการระบบน้ำและงานถนน และยังมีประเด็นการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน ที่อาจจะส่งผลกระทบหุ้นในกลุ่มโรงกลั่น และปิโตรเคมี

หุ้นแนะนำ : STEC

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com