*ประเด็นข่าวที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันกลับมามองตลาดหุ้นไทยอย่างจริงจังอีกครั้งคงเป็นข่าวเม้าท์ “เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์” ซึ่งเป็นแขนขาด้านการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ กำลังเตรียมปรับยุทธศาสตร์ด้านการลงทุนครั้งใหญ่เมื่อวานนี้ และสิ่งที่หลุดรอดออกมาจากปากของคนที่กุมบังเหียนเต็มๆ คือ มีแผนชะลอการลงทุนในเอเชีย และเตรียมเดินหน้าเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในโลกตะวันตกแทน หลังเศรษฐกิจจีนและบรรดาชาติเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่ในเอเชียเริ่มส่งสัญญาณ “เชิงลบ” ให้เห็นนะจะบอกให้

*แถมเรื่องดังกล่าวยังมีการอ้างอิงการปรับยุทธศาสตร์ด้านการลงทุนครั้งนี้ เป็นผลพวงมาจากแนวคิดของ “มาดามโฮ” ซีอีโอของเทมาเส็ก และเป็นภรรยานายกรัฐมนตรี “ลี เซียน ลุง” แห่งสิงคโปร์ พร้อมกับมีการคาดเดาว่า บอร์ดบริหารของเทมาเส็กฯ จะให้ความเห็นชอบอย่างแน่นอน ขณะที่เดือนก.พ.ที่ผ่านมา ก็มีข่าวไปทั่วโลกว่า เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ ประกาศขายหุ้นมูลค่า 3,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 98,710 ล้านบาท) ที่ถือครองไว้ในกลุ่มบริษัท “ชินคอร์ป” ของไทยมาแล้วนะจ๊ะ

*งานนี้เกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไรไม่มีใครทราบ แต่ที่รู้แน่ๆ ตอนนี้หุ้น ADVANC หมดสภาพความยิ่งใหญ่แต่ครั้งโบราณ แถมรอบที่แล้วออกมาเชียร์ คสช. แบบสุดติ่งว่า การเลื่อนประมูล 4G เป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย แต่ทำไมกองทุนทั้งในทั้งนอกถึงกระหน่ำสาดไม่เลิก จนราคาหุ้นร่วงลงมากองอยู่ที่ 206 บาท ลบไปอีก 8 บาท ร่อแร่จะหลุดแนวรับ 200 บาทแบบนี้...รอให้ทุกอย่างชัดเจนขึ้นมาหน่อย แล้วค่อยซื้อดีกว่าเจ้าค่ะ

*อีกทั้งวานนี้มีการเลื่อนประชุมโครงการ 3 ล้านล้านบาท ชาวหุ้นเลยผิดหวังไปตามกัน และพากันเทขายหุ้นออกมาตลอดเวลา แต่ในขณะเดียวกันก็มีแรงซื้อเข้ามารับของเป็นระยะ ดัชนีเลยประคองตัวปิดที่ระดับ 1,520.81 จุด ลบไป 17.74 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.85 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของ money game มากกว่าประเด็นอื่น และตรงนี้เป็นโอกาสทองของนักเล่นรอบพะยะค่ะ

*เนื่องจากมองในมุมของการเล่นเที่ยวนี้ต้องบอกตามตรงว่า ขึ้นอยู่กับข่าวสารเป็นหลัก และเหมือนจะมีนกรู้คอยปล่อยข่าวออกมาเป็นระลอก หุ้นเลยสวิงสวายอย่างรุนแรง “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักลงทุนเข้าเล่นในจังหวะที่คนอื่นกลัว และพยายามปล่อยของ เมื่อข่าวจริงใกล้ปรากฏ เพราะอาการที่เห็นในคราวนี้เขาเรียกว่า กระต่ายตื่นตูม ซึ่งเป็นอาการที่เห็นได้เป็นประจำในยามที่ตลาดรอลุ้นข่าวดีนะจ๊ะ

*นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเงินบาทแข็งค่าที่ต้องติดตามดูอย่างใกล้ชิด หลังทีมงาน “ข่าวหุ้นออนไลน์” อ้างอิงถึงเรื่องค่าเงินบาทของไทยแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน และอธิบายเพิ่มเติมว่า นักลงทุนต่างชาติต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงสกุลเงินบาทมากขึ้น หลังมีความเชื่อมั่นว่า การใช้จ่ายภาครัฐจะช่วยทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัว วานนี้ถึงเห็นยอดซื้อของฝรั่งปาเข้าไป 1.70 พันล้านบาท ซึ่งเป็นที่มาของการนำเสนอข่าว “เปิดโผ 13 หุ้นไทยได้-เสีย บาทแข็ง” งานนี้ติดตามอ่านรายละเอียด www.kaohoon.com นะจะบอกให้

*ท่ามกลางความยุ่งเหยิงของตลาดหุ้นไทย วานนี้กลับปรากฏเป็นข่าวฮือฮาวงการตลาดหุ้นไทย เมื่อหุ้นอสังหาฯ จอมโปรเจ็กต์ N-PARK ประกาศเพิ่มทุนอีก 3.60 แสนล้านหุ้น ซึ่งเป็นสถิติจำนวนหุ้นสูงสุดของตลาดหุ้นไทย อีกทั้งตั้งแต่เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ เพิ่งจะพบกับดีลประหลาดๆ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับระวังตัวให้ดีๆ เพราะหุ้นมีโอกาสรูดมหาราชค่อนข้างสูง...จำสมัยที่ขายหุ้น PP ได้ไหม? ตอนนั้นหุ้นพุ่งกระฉูด แต่พอถึงตอนปิดดีลปุ๊บ หุ้นรูดลงมากองกับพื้นทันที ขณะที่ราคาล่าสุดวานนี้อยู่ที่ 0.10 บาท บวกไป 0.01 บาท หรือขึ้นไป 11%...มันช่างคล้ายคลึงกับคำโบราณที่ว่า “เสร็จนาฆ่าโคทึก” จริงๆ...ใครอยากเป็นโคให้เชือด เร่เข้ามาได้เลยค่ะ

*อีกดีลที่ออกในลักษณะเตี้ยอุ้มค่อมคงหนีไม่พ้น GRAMMY ส่งบริษัทลูกแลกหุ้นกับ CTH พร้อมกับระบุเหตุผลที่ ลงโลง...อุ๊ย...จับมือ ด้วยกันนั้นเป็นผลมาจากธุรกิจโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกมีการแข่งขันสูง และใช้เงินลงทุนสูง ขณะที่ธุรกิจของทั้ง 2 แห่ง เกื้อหนุนซึ่งกันและกันได้ แต่ถ้าย้อนกลับไปดูเรื่องราวในอดีตของทั้งสองหน่อจะเห็นว่า “ท่าดีทีเหลวทั้งคู่” เจ้าหนึ่งขายกล่องเสร็จ...หลังจากนั้นเจ๊งทันที อีกเจ้าหนึ่งประมูลลิขสิทธิ์ได้ปุ๊บ...หลังจากนั้นเงียบเป็นเป่าสาก...มีใครจำได้บ้างไหมเอ่ย?