April 26, 2024   5:56:26 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > โบรกแนะเลือกซื้อ 10 บจ.ส่งสัญญาณรุ่ง
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 18/06/2013 @ 08:54:10
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.36 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 30.67 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียมีทั้งปรับตัวอยู่ในแดนบวกและลบ นักวิเคราะห์วันนีดัชนีหุ้นไทยกแกว่งตัวรอผลประชุมเฟด ราคาน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งหลังวิตกปัญหาซีเรียหนุนการฟื้นตัวหุ้นกลุ่มพลังงาน แนะเลือกซื้อ 10 หุ้นเด่น ได้แก่ TOP, SVI, INTUCH, TTA, BEC, KBANK, BBL, KTB, SIRI, QH เป็นต้น



ขณะที่บล.ไทยพาณิชย์แนะสะสมหุ้นช่วงดัชนีต่ำกว่า 1400 จุด ได้แก่ ADVANC INTUCH KTB SIRI QH CK BTS และ THAI ส่วนบล.กสิกรไทย แนะสะสมหุ้นที่ลงมากและอาจเป็นเป้าเก็งกำไร PS JAS CPN TCAP INTUCH ADVANC ROBINS MINT BGH



บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า วันนี้ SET ยังคงผันผวนตามตลาดหุ้นโลก ซึ่งรอผลการประชุม FOMC 18-19 มิ.ย. นี้ ที่จะมีผลต่อการสรุปการถอน QE ก่อนสิ้นปีนี้ กลยุทธ์สะสมหุ้น 40% เลือกหุ้น Global ผสม Domestic Playsและเลือก TOP (FV@B77.83) และ SVI (FV@B5.25) เนื่องจากมีค่า beta น้อยกว่า 1 เท่า น่าจะลดความผันผวนของตลาดได้ระดับหนึ่ง และมี Dividend yield ในระดับที่น่าพอใจ 4.2% และ 4.9% ตามลำดับ

บล.ไทยพาณิชย์ ระบุว่า SET วันนี้ จนถึงกลางสัปดาห์ ก่อนรู้ผลประชุมเฟด จะชะลอตัว หรือทรงตัว เพื่อรอความชัดเจน เช่นเดียวกับตลาดหลักทั่วโลก รวมถึงเหตุผลด้าน Technical ซึ่งในระยะสั้นเข้าสู่ Overbought area แนวรับมีที่ 1400 จุด ซึ่งเป็น Gap ที่เปิดไว้ รวมถึง 1375 จุด ณ ระดับ Forward PER ของ SET ที่ 12.50X กลยุทธ์ นักเก็งกำไร ขายทำกำไรไปก่อน และรอรับใหม่ ส่วนนักลงทุน สะสมหุ้น โดยเฉพาะต่ำกว่า 1400 จุด โดยหุ้นเด่นในกลุ่มหลักย่อมเป็นเป้าหมายการซื้อกลับ รวมถึงเราชอบในหุ้นดังต่อไปนี้ ADVANC INTUCH KTB SIRI QH CK BTS และ THAI

บล.ฟิลลิป ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ตลาดหุ้นวันนี้ : อิงทางบวก แต่ยังผันผวนสูง ตลาดหุ้นไทยเมื่อวันศุกร์ดีดตัวแรงกว่า 60 จุด หลังตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ออกมาดีเกินคาด รวมถึงมีแรงซื้อจากทริกเกอร์ฟันด์เข้ามาหนุน โดย SET ปิดตลาดมาที่ 1,465.27 จุด

ภาพรวมตลาดดูดีขึ้น หลังการดีดตัวแรง พร้อมการชะลอแรงขายของต่างชาติ ขณะที่ได้แรงหนุนจากการซื้อสุทธิของกลุ่มสถาบันฯ ส่วนหนึ่งจากการทยอยออกกองทุนของทริกเกอร์ฟันด์

คาด SET วันนี้ยังผันผวนอิงทางบวก แม้ดัชนีดาวโจนส์เมื่อวันศุกร์ปรับตัวลง แต่การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบสหรัฐท่ามกลางความวิตกเรื่องปัญหาในซีเรีย จะช่วยหนุนหุ้นการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มพลังงานได้ต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ความผันผวนระหว่างวันจะยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่ปัจจัยหลักที่ตลาดจับตาในสัปดาห์นี้ คงอยู่ที่การประชุมเฟดในวันที่ 18-19 มิ.ย. กรณียืน 1440 ได้ ระยะสั้นอาจเพิ่มพอร์ตเก็งกำไรกลับไปที่ 50% แนวต้าน: 1487-1520 แนวรับ: 1453-1440

พอร์ตระยะสั้น : หุ้น 50% เงินสด 50%

• หุ้นถือต่อในพอร์ต (ราคาเป้าหมายระยะสั้น) : QTC (5.90), ROBINS (73), QH (3.50)

• หุ้นแนะนำเพิ่ม (ราคาเป้าหมายระยะสั้น) : BEC (66.0) เข้าสู่ช่วง High season ในไตรมาส 2 คาดจะเห็นกำไรทำสถิติสูงสุดใหม่

• หุ้นที่ปรับออก: ---

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ ต่างชาติเริ่มมียอดซื้อบ้าง ทำให้คาดว่าโอกาสกลับไปแกว่งบวกเริ่มมีมากขึ้น

กลยุทธ์ : FSS คาดว่าโอกาสเริ่มน้อยลงที่ SET จะปรับตัวลงรุนแรงต่ออีก ขณะที่ระดับดัชนีปัจจุบันลงมาต่ำจนน่าสนใจ ดังนั้นเราจึงแนะนำให้กลับเข้าเลือกหุ้นทยอยซื้อสะสมได้อีกครั้ง โดยแนะนำกลุ่มแบงก์ (KBANK, BBL, KTB), กลุ่มบ้าน (SIRI, QH) เป็นต้น

หุ้นเด่นทางเทคนิค MONO, DEMCO, GLOW (SBL)

แนวโน้ม ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาอ่อนแอ ทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและข้อมูลด้านการผลิต ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลงเกือบ 1% อีกครั้ง แต่ก็ช่วยกระตุ้นให้นักลงทุนคาดหวังว่าเฟดอาจจะยังไม่ลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรลงในเร็วๆ นี้ เพื่อที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่อเนื่อง จึงทำให้ตลาดหุ้นยุโรปยังคงขยับบวกต่อได้ อย่างไรก็ตามคาดว่านักลงทุนจะยังรอดูผลการประชุมของเฟดในช่วง 18-19 มิ.ย.นี้อีกครั้ง ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ยังคงเปิดทำการด้วยการแกว่งตัวผันผวนมีทั้งบวกและลบให้เห็น ซึ่ง FSS คาดว่าตลาดหุ้นไทยก็มีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวผันผวนและย้อนลบลงด้วยเช่นกันหลังจากที่ช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว SET ดีดกลับขึ้นมาแรงพอควร อย่างไรก็ตามการปรับตัวลงแรงของ SET ในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมาและจากการประเมินแนวโน้ม SET เทียบกับอดีต ทำให้คาดว่า Downside ของการปรับลงน่าจะเริ่มเหลือน้อยแล้ว ขณะที่แรงขายของนักลงทุนต่างประเทศก็เริ่มบางตาลง และกลับมามียอดซื้อสุทธิสลับบ้างแม้ว่าจะยังน้อย แต่ก็ถือว่าทำให้บรรยากาศการลงทุนโดยรวมเริ่มดูดีขึ้น เราจึงคาดว่า SET จะเริ่มแกว่งบวกได้ดีขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา

แนวรับ 1460-1457, 1450-1440 จุด แนวต้าน 1470, 1480-1484 จุด

บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ควรเสี่ยงแบ่งขาย/ลด โดยเฉพาะหากแกว่งถึง 1480-1500 แนวโน้มตลาด: หุ้นยุโรปทรงตัว ในขณะที่สหรัฐฯ ปรับลดลงหลังตัวเลขเศรษฐกิจอาทิ อัตราการใช้ กำลังการผลิต (พ.ค.) และความเชื่อมั่นผู้บริโภค (มิ.ย.) ชะลอตัวลง และการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด 1Q56 เพิ่มขึ้น 3.7% จากไตรมาสก่อนหน้า ทั้งนี้ IMF ได้เตือนว่าการหยุดใช้ QE จะส่งปลกระทบต่อความผันผวนของโลกอย่างมาก โดยไอเอ็มเอฟเรียกร้องสหรัฐยกเลิกการปรับลดค่าใช้จ่าย โดยอาจทำให้ GDP สหรัฐฯ ลดลงจากคาดการณ์ 1.9% เหลือ 1.75% และปรับลดคาดการณ์ GDP 2557 เหลือ 2.7% จาก 3.0% สัปดาห์นี้ตลาดรอจับตาการประชุมเฟด 19 มิ.ย.56 แม้เราเชื่อว่าน่าจะเห็นการคง QE เพื่อสร้างความเชื่อมั่น แต่จากความผันผวนของดัชนีทางการเงินหลายๆตัว ไม่ว่าจะเป็นค่าเงินเยน ค่าเงินสหรัฐฯ อัตราผลตอบแทนพันธบัตร10 ปี ของสหรัฐฯ ประกอบกับการที่ SET Index ฟื้นขึ้นมาเกือบ 120 จุด ในเวลาเพียง 2 วัน ทำให้การฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขึ้นทดสอบใกล้ 1500 จุด จะเริ่มเสี่ยงต่อแรงขายทำกำไร ผู้ที่เสี่ยงซื้อไว้ควรแบ่งขาย ผู้ที่ติดหุ้นไว้มากและต้องการลด ควรใช้จังหวะปรับขึ้นต่อแบ่งลดเพื่อถือเงินสดเพิ่มบ้าง

ปัจจัยอื่น/ IMF– อาจปรับลด GDP ไทยลงเหลือต่ำ 5% และกังวล 3 เรื่องได้แก่ หนี้ครัวเรือนจำนำข้าว และการขยายบทบาทของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐฯ / ค่าเงินบาทที่อ่อนจาก 28.55 บาท/เหรียญสหรัฐฯ ส่งผลดีต่อกลุ่มอาหารเกษตร ได้แก่ CFRESH TUF MALEE GFPT CPF / ท่องเที่ยว – 2Q56 เป็น low season แต่เป็นโอกาสทยอยสะสมหุ้นท่องเที่ยว (โดยเฉพาะหุ้นการบินที่ถูกมากเทียบกับโรงแรม)

กลยุทธ์การลงทุน: ถ้าจะเสี่ยงควรเสี่ยงทางขาย SET Index ยังมีโมเมนตัมเชิงบวกในการฟื้นตัว การกลับขึ้นมาทดสอบ 1450-1470 ได้ในเวลาเพียง 2 วัน ถือว่าโชคดี เกินกว่านี้และโดยเฉพาะการปรับขึ้นใกล้ 1500+/- (หรือสูงกว่า) ควรใช้เป็นจังหวะแบ่งขายถือเงินสดรับมือความผันผวนของตลาดทุนโลกและโอกาสถูกขายทำกำไรหลังหุ้นขึ้นมาแรงในช่วงสั้น หุ้นแนะนำ INTUCH TTA

สำหรับนักลงทุนระยะกลาง: คงน้ำหนักการลงทุนที่ 60% หลังลดไป 20% ใน 2 ครั้ง (22 ก.พ. และ 20 มี.ค.) และเราอยู่ระหว่างพิจารณาเตรียมเพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้นเร็วๆนี้ โดยให้น้ำหนักกับการกลับมาอ่อนตัวอย่างจริงจังของเงินเยน

*หุ้นที่ลงมากและอาจเป็นเป้าเก็งกำไร - PS JAS CPN TCAP INTUCH ADVANC ROBINS MINT BGH หุ้นเหล่านี้ปรับตัวลดลงรอบนี้มากกว่า 18% (มากกว่า SET Index ที่ลง 14%) โดยเก็งก่อนประชุมเฟด และควรตั้ง stop loss สำหรับนักเก็งกำไร

*Turnaround: TTA THAI TRUE ROJNA และอาจเสี่ยงซื้อ TUF TPIPL PDI

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) มองดัชนีหุ้นไทยเปิดทรงหรืออ่อนบ้าง ก่อนขึ้นต่อด้วยแรงซื้อกองทุน โดยระบุว่า KGI ประเมิน SET วันจันทร์แกว่งขึ้น สถาบันซื้อหนุนต่อ โดยแม้ SET อาจเปิดอ่อนหลังพุ่งแรงเมื่อวันศุกร์ ผนวกกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าคาดเล็กน้อย แต่น่าจะฟื้นตัวในวันได้ค่าเงินบาททรงตัวทางแข็งเช้านี้และเงินเยนกลับมาอ่อนเล็กน้อย เป็นผลดีต่อกระแสทุนต่างชาติในเอเชีย (คาดต่างชาติจะขายน้อยลงมากหลังยอดสะสมจากปี 2555 เข้าใกล้ศูนย์) ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ขึ้นมาแล้ว 6% จากต้นเดือน มิ.ย. แม้หุ้นจะร่วงหนัก จะหนุนหุ้นพลังงานในระดับหนึ่ง ด้านเม็ดเงิน LTF ที่น่าจะเข้ามามากในปลายสัปดาห์ที่แล้ว ผนวกเงินกองทุน Trigger จะหนุนสถาบันซื้อต่อ ปัจจัยสำคัญสุดสัปดาห์นี้คือ US FOMC ประชุมคืนวันพุธ ติดตามแนวนโยบาย QE กลยุทธ์: ถือหุ้นต่อจากวันศุกร์ หรือซื้อเก็งกำไรเพิ่มสั้นๆ ได้


 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com