April 19, 2024   12:24:01 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > KBANK,TMB,UCOM,TT&T,ITD,RCL,PTT และ TOP
 

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
วันที่: 17/10/2005 @ 20:35:37
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

5 นักวิเคราะห์ชั้นนำของเมืองไทย ประเมินเศรษฐกิจปีหน้ายังขาดดุลต่อเนื่องเป็นผลพวงจากราคาน้ำมันที่ทรงตัวในระดับสูง แต่สำหรับตลาดหุ้นมองยังน่าลงทุน โดดเด่นในไตรมาสนี้เพราะได้ กฟผ. เป็นกองหนุนแต่ภาพโดยรวมกลุ่มแบงก์-พลังงาน-สื่อสารยังน่าสนใจ ฟันธง 8 ตัวเด็ดคือ KBANK,TMB,UCOM , TT&T,ITD,RCL ,PTT และ TOP[/color:621be0d1ae">

นายสมบัติ นราวุฒิชัย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บล.สินเอเชีย ให้ความเห็นว่าแนวโน้มภาวะดุลบัญชีการค้าในประเทศไทยยังมีทิศทางไม่ดีเท่าที่ควรแม้ว่าตัวเลขดุลบัญชีดังกล่าวจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นจากช่วงที่ผ่านมาแต่จากการลงทุนที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นในปีหน้าโดยเฉพาะโครงการเมกะโปรเจ็ก รวมถึงราคาต้นทุนด้านพลังงานที่ทรงตัวในระดับสูงจึงประเมินว่าตัวเลขดุลบัญชีการค้ายังอยู่ในภาวะขาดดุลต่อเนื่อง
นอกจากนี้ มองว่าตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจ(GDP)ที่ขยายตัวในอัตราที่ลดลง โดยในปีนี้ขยายตัวเพียงไม่ถึง 4%ขณะที่ในปี 2549 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ประมาณ 4% ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตัวเลขดุลบัญชีการค้าไม่ดีนัก เนื่องจากประเมินว่าหากปีใด GDP ขยายตัวต่ำกว่า 4% จะสะท้อนให้ผลประกอบการรวมของบริษัทจดทะเบียนลดต่ำลงเช่นกัน
?ในช่วงนี้ค่าเงินบาทเริ่มถอยลงมาอยู่ที่ 40 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่การส่งออกก็เริ่มฟื้นตัวโดยโตถึง 25%แต่สาเหตุที่ตัวเลขดุลบัญชีการค้ายังไม่เกินดุล เพราะราคาน้ำมันยังค้ำคออยู่โดยปีหน้าที่มีการลงทุนภาครัฐชัดเจนหลายด้านโดยเฉพาะโครงการเมกะโปรเจ็กในระบบขนส่งจราจร และระบบรถไฟฟ้าก็อาจกลายเป็นอีกเหตุผลหนึ่งทำให้ดุลบัญชีการค้าขาดดุลอยู่?
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำนักลงทุนเลือกลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน ธนาคาร รับเหมาก่อสร้าง และสื่อสาร เนื่องจากแนวโน้มธุรกิจดีและมีกระแสข่าวดีสนับสนับสนุน โดยสาเหตุที่แนะนำให้เลือกลงทุนกลุ่มพลังงาน
เนื่องจากประเมินว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้นจากช่วงฤดูหนาวที่มีความต้องการใช้มากและหุ้นกลุ่มดังกล่าวจะกลับมานำดัชนีฯอีกครั้ง โดยหุ้นโดดเด่น
ได้แก่ TOP ราคาเหมาะสม 80 บาท แนะรอซื้อเมื่อราคาลดลงกว่าราคาเหมาะสม 10% หรือบริเวณ 72 บาท นอกจากนี้ยังแนะนำหุ้น PTTEP ราคาเหมาะสม 480 บาท แนะรอซื้อเมื่อราคาอยู่ที่ 466 บาท เช่นเดียวกับ PTT ที่แนะนำให้ถือได้จากการถือหุ้นในหลายธุรกิจที่มีทิศทางที่ดี
ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคาร แนะนำซื้อลงทุน KBANK และ BBL ราคาเหมาะสม 65 บาท และ 109 บาท ตามลำดับ ขณะที่หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งได้ประโยชน์จากโครงการเมกะโปรเจ็กแนะลงทุนหุ้นขนาดใหญ่และพื้นฐานดี
และหุ้นกลุ่มสื่อสารแนะนำซื้อลงทุน UCOM เนื่องจากแนวโน้มขยายตัวชัดเจน
นายสาธิต วรรณศิลปิน ผู้บังคับบัญชา สายงานวิจัยหลักทรัพย์ บล.พัฒนสิน กล่าวว่า แนวโน้มตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงปลายปี คงจะกลับมาสมดุลอีกครั้ง จากการที่เชื่อว่าราคาน้ำมันคงจะปรับลดลงมา ประกอบกับผู้ประกอบการผลิตเหล็กพยายามใช้สินค้าคงคลังให้หมดซึ่งทำให้การนำเข้าอีก 3-6 เดือนข้างหน้าจะชะลอตัวลง อีกทั้งสินค้าคงคลังของประเทศจีนและสหรัฐฯ ซึ่งทำให้ต้องมีการนำเข้าสินค้ามากขึ้น
หากนำราคาสินค้าส่งออก นำสินค้านำเข้ามาเทียบกัน และทั่วโลกยังคงติดลบอยู่ เพราะฉะนั้นหากไทยส่งสินค้าไปขาย ราคาก็จะต่ำกว่าการนำเข้าสินค้า ซึ่งเชื่อว่าจะไปกดดันกำไร บจ.ในปีหน้าให้ลดลง แม้ว่าจะขายของได้มากขึ้น เพราะต้นทุนนำเข้ายังสูงอยู่
ในขณะเดียวกันมองว่าความเป็นไปได้ที่สถาบันจัดอันดับทั้งฟิตช์ เรตติ้งและเอสแอนด์พี จะมีการปรับเกรดเศรษฐกิจของไทยให้อยู่ในระดับที่ดีขึ้น เพราะความเสี่ยงของเศรษฐกิจได้ผ่านช่วงต่ำสุดไปแล้ว ซึ่งเศรษฐกิจไทยยังมีศักยภาพในการเติบโตไปได้อีกรวมทั้งภาครัฐยังสามารถจัดการกับภาระหนี้ต่างประเทศให้มีความสมดุลมากขึ้น
นางสาวสิริณัฎฐา เตชะศิริวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไซรัส กล่าวว่า ตัวเลขดุลการค้าในช่วงปลายปีนี้ (พ.ย.-ธ.ค. ) คาดว่าจะออกมาไม่น่ากลัวเหมือนกับในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาในช่วงต้นปีเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นและเกิดสึนามิ ซึ่งทำให้มีการกักตุนสินค้าคงคลัง และยังมีบางบริษัทปิดซ่อมบำรุงเครื่องจักร แต่ทั้งนี้เชื่อว่าในปีหน้าตัวเลขดุลการค้าจะปรับลดลงมาก เนื่องจากมีโครงการเมกะโปรเจ็กของภาครัฐที่จำเป็นต้องมีการนำเข้าสินค้าที่ไทยไม่สามารถผลิตได้อีกทั้งยังมีการลงทุนในภาคเอกชนถึง 70% แต่คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย เพราะการลงทุนก่อสร้างโครงการเมกะโปรเจ็ก จะส่งผลต่อจีดีพีไม่มากนัก เนื่องจากรัฐบาลมีงบประมาณเพื่อใช้ในการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานอยู่แล้ว ซึ่งการลงทุนดังกล่าวถือว่าเป็นการลงทุนเพื่อรองรับการพัฒนาในอนาคต
ในเดือนพ.ย.มองว่า ดัชนีจะเป็นบวก เนื่องจากมีปัจจัยหนุนคือ กฟผ.จะเข้าตลาด อีกทั้งมองว่าตัวเลขดุลการค้า ดุลบัญชีเดินสะพัดจะไม่น่ากลัวเหมือนที่ผ่านมา ทั้งนี้หากตัวเลขในปลายเดือน ต.ค.ไม่เลวร้ายก็เชื่อว่าจะกระตุ้นตลาดได้
หุ้นกลุ่มที่น่าสนใจจะเป็นหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เช่น ITD แม้ว่าโครงการเมกะโปรเจ็กจะไม่คืบหน้ามากนัก แต่ก็ได้มีการเริ่มให้มีการยื่นซองประมูล ซึ่งก็น่าจะช่วยกระตุ้นหุ้นในกลุ่มนี้ได้ พร้อมกันนี้ยังแนะนำหุ้นกลุ่มสื่อสาร เช่น UCOM และ TT&T เป็นต้น เพราะมีปัจจัยสนับสนุนในเรื่องค่าเชื่อมโยงเครือข่าย และใบอนุญาตใหม่ ซึ่งน่าจะมีความคืบหน้าและจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบธุรกิจสื่อสารรวมถึงกลุ่มพลังงาน เพราะอุปทานในตลาดยังคงมีน้อย แต่ความต้องการยังมีอยู่มาก จึงมองว่าราคาน้ำมันคงไม่ปรับลดลงมามาก ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานให้ปรับขึ้นได้ ซึ่งหุ้นที่น่าสนใจจะมี TOP และ PTT เป็นต้น
ในขณะเดียวกันยังมีหุ้นในกลุ่มธนาคารที่ถือว่าน่าสนใจ เพราะราคาหุ้นได้ปรับลดลงมาต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน อีกทั้งยังเป็นหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ ซึ่งการที่มองว่าตลาดหุ้นจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงปลายปี หุ้นกลุ่มธนาคารก็คาดว่าจะปรับขึ้นด้วย โดยแนะนำหุ้น KBANK เพราะแม้ว่าจะมีการตั้งสำรองมาก แต่จะไม่ส่งผลกระทบเนื่องจากธนาคารได้มีการตั้งสำรองให้เหมาะสมกับลูกค้าในแต่ละรายซึ่งประเมินราคาเหมาะสมอยู่ที่ 76 บาท
นายพงศ์พันธุ์ อภิญญากุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงการเลือกหุ้นในช่วงนี้ว่า ให้นักลงทุน เลือกลงทุนในหุ้นที่มีค่า P/E อยู่ในระดับประมาณหรือต่ำกว่า 5 เท่า เพราะเชื่อว่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนได้
พร้อมกันนี้ยังแนะนำห้นเด่น RCL ซึ่งจะเป็นผู้ประกอบธุรกิจที่ผู้ประกอบการรายอื่นยังจำเป็นต้องใช้บริการอยู่ ประกอบกับราคาหุ้นยังอยู่ในระดับต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานซึ่งประเมินราคาเหมาะสมอยู่ที่ประมาณ 50-60 บาท
ในขณะเดียวกัน หุ้นกลุ่มธนาคารที่น่าสนใจจะเป็นหุ้น TMB และ BBL โดยมองว่า TMB ยังมีอัตราการเติบโตได้ดีกว่าธนาคารอื่นๆ ประเมินราคาเหมาะสมอยู่ที่ 5 บาท ส่วน BBL ถือว่าเป็นหุ้นที่มีจำนวนไม่มาก หากเทียบกับหุ้นของธนาคารอื่นๆ อีกทั้งยังสามารถทำกำไรได้ดี
ด้านนายอนุพนธ์ ศรีอาจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บีฟิท กล่าวว่า ตัวเลขดุลการค้าของไทยยังมีแนวโน้มขาดดุลการค้าต่อเนื่องถึง 3- 4 ปีข้างหน้า หากภาครัฐยังไม่มีมาตรการรองรับภาวะดังกล่าวที่ดีและราคาน้ำมันในตลาดโลกทรงตัวระดับสูงต่อเนื่อง
แต่ในเบื้องต้น ประเมินว่าช่วงไตรมาส 4/2548 ตัวเลขดุลบัญชีการค้าจะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นจากช่วงที่ผ่านมาของปีนี้หลังจากภาครัฐมีนโยบายลดการนำเข้าและลอยตัวราคาน้ำมันดีเซลในประเทศซึ่งถือเป็นการชดเชยตัวเลขดุลการค้าช่วงก่อนหน้านี้ที่ลดลงมาก
?จาก Q4 ไปคิดว่าดุลบัญชีดารค้าน่าจะดีขึ้นซึ่งแม้ตัวเลขไม่ได้กลับมาดีโดดเด่นแต่ก็ขยายตัวดีกว่าช่วง 8 ? 9เดือนแรกของปีนี้?
เขากล่าวต่อว่า แนะนำนักลงทุนเข้าลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะ TOP เนื่องจากผลประกอบการมีแนวโน้มทำกำไรดีจากธุรกิจโรงกลั่น แต่จากราคาบนกระดานที่สูงจึงแนะรอซื้อเมื่อราคาลดลงต่ำกว่า 70 บาท ขณะที่ PTTEPผลประกอบการมีทิศทางเติบโตจากธุรกิจที่อิงกับราคาน้ำมันในตลาดโลกซึ่งราคาน้ำมันที่สูงขึ้นหนุนให้รายได้ และกำไรขยายตัว
นอกจากนี้ยังแนะนำ PTT เนื่องจากได้ประโยชน์จากธุรกิจที่ขยายตัวและผลดีจากการถือหุ้นในบริษัทลูกที่มีแนวโน้มทำกำไร ประเมินแนวรับระยะสั้นไว้ที่ 230 ? 226 บาท ส่วน BANPUก็แนะนำซื้อเช่นกันจากแนวโน้มกำไรปีนี้ที่ประเมินว่าจะสูงโดดเด่น

 กลับขึ้นบน
yochkungz
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 5
#1 วันที่: 17/10/2005 @ 23:33:51 : re: KBANK,TMB,UCOM,TT&T,ITD,RCL,PTT และ TOP
ผมมอง Tmb นะ วันนี้มีแต่ไม้ใหญ่ ๆเก็บหมดเลย
 กลับขึ้นบน
wasabi
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1
#2 วันที่: 18/10/2005 @ 13:38:56 : re: KBANK,TMB,UCOM,TT&T,ITD,RCL,PTT และ TOP
ส่ง UV เข้าประกวด...ประเภทกราฟสวยงามครับ
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com