?????????
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 103 |  วันที่: 14/10/2005 @ 15:28:03 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต มาเงียบๆ สำหรับหุ้นบริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิล เอนจิเนียริง (IEC) ที่กำลังจะกลายมาเป็น หุ้นร้อน ตัวใหม่ที่ขณะนี้ รายใหญ่ เร่งปลุกปั้นให้มาแทนที่ PICNI, EWC, BNT, NWR และ APURE ภายหลัง 5 หุ้นร้อนเริ่มหมดข่าวเล่น และถูกทางการ เฝ้าระวัง แบบกัดไม่ปล่อย
หุ้น IEC กำลังถูก สร้างสตอรี่ใหม่ ภายหลังบริษัทประสบความสำเร็จในการขายหุ้นเพิ่มทุน 350 ล้านหุ้น มูลค่า 386.30 ล้านบาท ในราคาหุ้นละ 1.10-1.11 บาท ให้กับพันธมิตรกลุ่มใหม่ พร้อมๆกับการปรับเปลี่ยนโครงสร้างผู้บริหาร และเร่งขยายการลงทุนไปพร้อมกัน
ราคาหุ้น IEC ตอบสนองทันทีที่บริษัทประกาศรายชื่อพันธมิตรรายใหม่ช่วงปลายเดือนกันยายน ราคาหุ้นทะยานขึ้นจาก 1 บาทวิ่งไปที่ 1.40 บาทในเวลาอันรวดเร็ว จนมี รายย่อย ตามแห่เข้าไปจำนวนมาก
การพลิกเกมของ IEC ครั้งนี้เริ่มมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเพื่อใช้เป็น วัตถุดิบ มาหนุนราคาหุ้นของบริษัท...ซึ่งวิธีการเช่นนี้คล้ายคลึงกับ 5 หุ้นร้อน เคยนำมาใช้ไม่มีผิด
แต่ประเด็นน่าสนใจที่ ตรวจพบ ก็คือ พันธมิตรกลุ่มใหม่ ที่เข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ IEC หลายคนมีสายสัมพันธ์เชื่อมโยง (ทางอ้อม) ไปยังกลุ่มผู้ถือหุ้นในเครือข่ายเดียวกันกับ PICNI-BNT และ เครือญาติ นักการเมือง ในพรรครัฐบาลบางคน
จากการสืบค้นข้อมูลผู้ถือหุ้น รายใหญ่..รายใหม่ ที่เข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ IEC เช่น น.ส.ลักษณา จริยวัฒน์สกุล เป็นผู้บริหารระดับสูง และเป็นหุ้นส่วนของโรงแรม เรจินาคลับ ดำเนินธุรกิจ โรงแรม และ กาสิโน ในเมือง ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า และเธอยังเป็นคนสนิท นายเกียรติชัย ชัยเชาวรัตน์ อดีตรัฐมนตรี และอดีต ส.ส.หลายสมัยของจังหวัดอุดรธานี
ปัจจุบัน น.ส.ลักษณา เป็นกรรมการในบริษัท เรจินา อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (ธุรกิจนำเที่ยว), ห้างหุ้นส่วนจำกัด เกียรติกมลลักษณ์บริการ (ปั๊มน้ำมันใน จ.อุดรธานี) บริษัท เดอะ ยอร์ซ ซิตี้ จำกัด (รับเหมาก่อสร้าง) ซึ่งในบริษัทนี้เองเธอเป็นกรรมการร่วมกับ นางปรีชาวรรณ หาญดำรงสุข ผู้ซึ่งเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุน IEC อีกรายหนึ่งด้วย
ถ้าเชื่อมโยงความสัมพันธ์จาก บริษัท เดอะ ยอร์ซ ซิตี้ จำกัด ซึ่งมีกรรมการ 3 คน ได้แก่ น.ส.ลักษณา จริยวัฒน์สกุล, นางปรีชาวรรณ หาญดำรงสุข และ น.ส.พรทิพย์ ดาวมณี จะเห็นความสัมพันธ์เชื่อมไปยัง บริษัท ฟรีดอมสแควร์ จำกัด ซึ่งก็มีกรรมการ 3 คน คือ น.ส.พรทิพย์ ดาวมณี, นายอนกูล ตั้งเรืองเกียรติ และนายไพบูลย์ ชอไชยทิศ
จะพบเลยว่ากรรมการ 2 ใน 3 คนของบริษัท ฟรีดอมสแควร์ จำกัดนั้น นายอนกูล ตั้งเรืองเกียรติ เป็น 1 ใน 10 บุคคลที่ถูกก.ล.ต.กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2548 ว่ามีส่วนให้ความช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกแก่ นายธีรัชชานนท์ ลาภวิสุทธิสิน และ น.ส.สุภาพร ลาภวิสุทธิสิน กรณีทำสัญญารับรู้รายได้จากการให้เช่าถังแก๊ส ทำให้รายได้ และกำไรของ ปิคนิค (PICNI) สูงกว่าความเป็นจริง
ส่วน นายไพบูลย์ ชอไชยทิศ ปัจจุบันยังนั่งเป็นกรรมการใน บริษัท เพาเวอร์-พี (PP) และยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน PONG, EWC, และยังเคยเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของ PICNI มาก่อน
กลุ่มพันธมิตรรายใหม่ที่เข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุน IEC ยังรวมไปถึงเครือญาติ นักการเมือง ในซีกรัฐบาลบางคน คือ กลุ่มของ นายเฉลิมพันธ์ ศรีวิกรม์ และ นายวิกร ศรีวิกรม์ (บุตรชาย) ซึ่งทราบกันดีว่านายเฉลิมพันธ์ เป็นบิดาของ นายพิมล ศรีวิกรม์ ส.ส.พรรคไทยรักไทย และยังเป็นบิดาของ นางทยา ทีปสุวรรณ (น้องสาวนายพิมล) ซึ่งนางทยาก็เป็นหนึ่งในกลุ่มเครือญาตินักการเมืองที่เข้าไปลงทุนในหุ้น PP
ร่วมกับ บุตรสาว นายสมศักดิ์ เทพสุทิน, ภรรยา นายพินิจ จารุสมบัติ และ บิดา น.ต.ศิธา ทิวารี
ขณะที่ น.ส.บุศรา อุไรกุล เป็นญาติกับผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งใน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่วน น.ส.วิภาภัค วิริยะโรจน์ เป็นกรรมการในบริษัท วิริยะโรจน์ จำกัด, บริษัท ซี พี เอส สตาร์ช จำกัด และ บริษัท อาร์เต้ จำกัด ซึ่งตระกูล วิริยะโรจน์ เป็นผู้ส่งออกข้าว และ ส่งออกแป้งมันสำปะหลัง รายใหญ่ รวมทั้งยังมีโรงสีข้าวขนาดใหญ่ในจังหวัดศรีสะเกษ คือ โรงสีไฟชัยประสิทธิ์
กลุ่มใหม่ที่เข้ามาใน IEC ยังรวมถึง นายบี เตชะอุบล ทายาทนักธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มคันทรี (ประเทศไทย) ปัจจุบันเป็นประธานกรรมการบริหาร บริษัท โกลบอล เอสเตท จำกัด โดยนายบีเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนจำนวนมากที่สุดถึง 80 ล้านหุ้น มูลค่า 88 ล้านบาท
ยังมีชื่อ น.พ.พิทยา แก้วธรรมานุกูล และ นางผุสดี นาคอินทร์ ญาติ น.ส.ปรียา นาคอินทร์ ผู้บริหารระดับสูงในบริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง (PLE) ก็มีชื่อรวมอยู่ด้วย
แต่หากย้อนดูรายชื่อผู้ถือหุ้น IEC ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2548 ก่อนที่บริษัทจะประกาศเพิ่มทุนให้พันธมิตรรายใหม่ ปรากฏว่ามี รายใหญ่..กลุ่มเดิม เข้ามาเก็บหุ้นดักรออยู่ก่อนหน้าแล้วเป็นจำนวนมาก
เช่น นายโอภาส รางชัยกุล, นางสุรภี และ นายมานัส กำเหนิดงาม บุคคลกลุ่มนี้มีความใกล้ชิดกับ นายวิชัย รักศรีอักษร เจ้าของคิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี โดยกลุ่มนี้ยังมีรายชื่อเข้าไปถือหุ้นใหญ่ใน PICNI และ BNT ด้วย
ส่วน นายชยุตม์ ลี้อิสสระนุกูล เข้ามาตั้งแต่ปี 2544 ปัจจุบันเป็นทั้งผู้ถือหุ้นใหญ่ และเป็นกรรมการผู้มีอำนาจใน IEC และยังถือหุ้นใหญ่ใน BNT อีกบริษัทหนึ่ง
ความสัมพันธ์ที่เห็นได้ชัดที่เชื่อมโยงจาก IEC ไปสู่ BNT ก็คือ นายจเรรัฐ ปิงคลาศัย เคยเป็นอดีตผู้บริหารระดับสูงของ IEC ได้ย้ายไปเป็น เจ้าหน้าที่บริหาร ของ BNT ที่เพิ่งจะประกาศลาออกมาหมาดๆ
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มของ นายเสวก ศรีสุชาต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง (PLE) และ นายเมธัส ศรีสุชาต (บุตรชาย) ก็ปรากฏชื่อเข้ามาลงทุนอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งคนใกล้ชิด นายเสวก ศรีสุชาต กล่าว ว่านายเสวกเข้ามาซื้อหุ้น IEC นานแล้ว โดยมีต้นทุนเฉลี่ยอยู่ที่หุ้นละ 3.40 บาท (พาร์ 10 บาท) ที่เข้ามาเพราะเห็นโอกาสที่บริษัทจะได้รับงานภาครัฐมากขึ้น
ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ยังพบด้วยว่า ดร.ขจรวุฒิ นำศิริกุล ซึ่งเป็นกรรมการอิสระของบริษัท ก็เพิ่งเข้ามาเก็บหุ้น IEC จำนวนกว่า 12 ล้านหุ้นที่ต้นทุนประมาณ 1.35 บาท
แหล่งข่าวจากกลุ่มผู้ถือหุ้น IEC รายหนึ่งเปิดเผยว่า สาเหตุที่เข้าไปเก็บหุ้นตัวนี้เป็นเพราะมีข่าวว่าบริษัทจะได้รับงานภาครัฐเพิ่มขึ้นในอนาคต ภายหลัง IEC เข้าไปซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ บริษัท โลคัส เทเลคอมมูนิเคชั่นส์ อิงค์ จำนวน 140,000 หุ้น เป็นเงิน 147 ล้านบาท หรือ 25.33% ของทุนจดทะเบียน 553 ล้านบาท
ปัจจุบันบริษัท โลคัส ดำเนินธุรกิจเป็นผู้จัดหาระบบ (โซลูชั่น โพรไวร์เดอร์) เช่น Call Center และ Customer Relationship Management (CRM) ที่ผ่านมามีลูกค้าสำคัญ เช่น บริษัทซัมซุง อิเลคโทรนิคส์, บริษัทไทยประกันชีวิต, ธนาคารกรุงไทย, บมจ.ทศท และ Government Contact Center
รายงานข่าวจากบริษัทระบุว่า ในอนาคตบริษัท โลคัส มีแนวโน้มที่จะได้งานโครงการภาครัฐ และเอกชนเพิ่มเติมอีกหลายโครงการ นอกเหนือจากโครงการขนาดใหญ่ที่ดำเนินการอยู่ คือ โครงการระบบ Call Center ของบมจ.ทศท ประกอบด้วยระบบ CSS (Customer Service System) มูลค่า 884.8 ล้านบาท และระบบ GCC (Government Contact Center) มูลค่า 159.5 ล้านบาท
ขณะที่ธุรกิจปัจจุบันด้านโทรศัพท์เคลื่อนที่ และวิศวกรรม ตลาดมีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างชัดเจน
นอกจากนี้บริษัทยังเข้าไปลงทุนเช่าพื้นที่ใน อาคารรามสแควร์ (ชื่อใหม่ IEC Complex) ซึ่งตั้งอยู่บนถนนรามคำแหง ระยะเวลาเช่า 17 ปี โดยจะต้องจ่าย ค่าโอนสิทธิการเช่า ให้แก่ บริษัท อาเขต แมเนจเม้นท์ แอนด์ เซอร์วิสเซส ซึ่งเป็นผู้เช่าเดิมจำนวน 195 ล้านบาท โดยคาดหวังว่าจะสร้างรายได้ขั้นต่ำกลับคืนบริษัทปีละ 50 ล้านบาท
จากข้อมูลที่ IEC แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ บริษัท อาเขต แมเนจเม้นท์ มีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ นายสุพจน์ ทรงสวัสดิชัย จากการตรวจสอบประวัตินายสุพจน์ เขายังเป็น กรรมการ อยู่ในบริษัท ซี.พี.ซี. มีเดีย จำกัด, บริษัท เอสบีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, และบริษัท อินเตอร์เนต เวนเจอร์ จำกัด
ซึ่งทั้ง 3 บริษัทนี้มีความเกี่ยวพันกับ กรรมการ และ ผู้บริหารระดับสูง ของ IEC อย่างน้อย 2 คน คือ นางสัณห์จุฑา วิชชาวุธ และ นายศรายุทธ กอุพาณิชานนท์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IEC ส่วน บริษัท อินเตอร์เนต เวนเจอร์ ปัจจุบันเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ลำดับที่ 21 ของ IEC
ซึ่งขัดแย้งกับข้อมูลที่ IEC แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ว่า บริษัท อาเขต แมเนจเม้นท์ แอนด์ เซอร์วิสเซส กับ IEC ไม่มีความสัมพันธ์กันแต่ประการใด
จากการประมวลการเชื่อมโยงของเครือข่าย ทุนใหม่ กับ ทุนเก่า ที่ดาหน้าเข้ามาสะสมหุ้น IEC ไว้ก่อนแล้ว แสดงว่า IEC กำลังเตรียมที่จะ ประกาศ..ข่าวดี ออกมาในอีกไม่ช้านี้ และถ้าเดาหมากเกมนี้ไม่ผิด รายย่อย จะเป็น จิ๊กซอว์ ตัวสุดท้ายที่จะมาเติมเต็มความสมบูรณ์ของแผนการทั้งหมด [/color:6fd1d7af6b">
|
