บางจากปิโตรเลียม เผยมติที่ประชุมไฟเขียวออกวอร์แรนท์ แก่ผู้ถือหุ้นเดิม 10 หุ้นเดิมต่อ 1

วอร์แรนท์ในราคาไม่เกิน 2.50 บาท พร้อมรับสิทธิซื้อหุ้นสามัญบริษัทได้ในราคา 18 บาท

นายปฏิภาณ สุคนธมาน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (

มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยว่า บริษัทได้มีมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นวิสามัญ1/48 เมื่อวันที่ 11

ต.ค.ที่ผ่านมา โดยมีการอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ(

วอร์แรนท์)ของบริษัทในจำนวนไม่เกิน 58,500,000 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทในอัตรา

10 หุ้นเดิมต่อ1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ ในราคาเสนอขายไม่เกิน 2.50 บาทต่อหน่วย โดย

สามารถใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัทได้ในราคา 18 บาทต่อหุ้น

สำหรับราคาเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่แน่ชัด จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะทำการ

ออกในครั้งนี้ และวันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิในการรับใบสำคัญแสดงสิทธิ คณะ

กรรมการบริษัทจะดำเนินการพิจารณากำหนดอีกครั้งหนึ่ง

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะพิจารณาดำเนินการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวภายหลัง

จากที่บริษัทฯ ได้รับอนุญาตให้ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิจากสำนักงาน

คณกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์( ก.ล.ต.) และทางบริษัทได้รับ ทราบ

มูลค่าโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันที่แน่ชัดในช่วงเดือนพฤศจิกายน- ธันวาคม 2548 นี้

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่ง กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวยังไม่สามารถระบุได้ว่าเหมาะ

สำหรับการเข้าไปลงทุนในหุ้น BCP เพื่อรับวอร์แรนท์หรือไม่ เนื่องจากต้องดูความชัดเจน

เกี่ยวกับจำนวนหุ้นที่ BCP จะเพิ่มทุนและแจกวอร์แรนท์ก่อนว่ามีจำนวนเท่าใด ในการที่ BCP

จะเพิ่มทุนเพื่อนำเงินไปพัฒนาโรงกลั่นก็ถือได้ว่าเป็นข่าวดีต่อบริษัท แต่หุ้นจะต้องเกิดไดลูท

แน่ๆ ตามที่ได้เห็นข้อมูลบางส่วนก็เห็นว่าจะเพิ่มทุนเป็นเท่าตัวคงไดลูท 100 กว่าเปอร์เซ็นต์

ซึ่งตรงนี้ก็ต้องมีการพิจารณาปรับข้อมูลประมาณการของบางจากใหม่

สำหรับสัญญาณทางเทคนิคมองว่า BCP มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 15 บาท

ได้ เนื่องจากมีข่าวบวกเข้ามาสนับสนุนตลอดเวลา อาทิ การปรับปรุงโรงกลั่นใหม่ นอกจาก

นี้ยังมีอัตราการเติบโตที่ต่อเนื่องอีกด้วย ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 14.50 บาท และให้แนวต้านไว้ที่

15 บาท ให้แนวต้านถัดไปไว้ที่ 16 บาท โดยประมาณการในปี 2548 คาดว่า BCP จะมี

กำไรสุทธิทั้งสิ้น 2,272 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 2,618 ล้านบาท กำไร

ต่อหุ้น 3.44 บาท แนะนำซื้อให้ราคาเหมาะสม 26 บาท

ที่มา:
กระแสหุ้น