หุ้นกลุ่มปิโตรเคมีพุ่งยกแผง เหตุราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับลดลง ทำให้ต้นทุนการผลิตขยับลงไปด้วย ส่งผลให้ตัวเลขไตรมาส 4/48 มีสิทธิสวยทั้งกลุ่ม บล.ซิมิโก้ แนะทยอยสะสมหุ้น ATC และ TOC พร้อมให้ราคาเป้าหมาย 45 บาทและ 75 บาทต่อหุ้น บล.ฟาร์อีสท์เชื่อ PTT อาจซื้อหุ้น TOC และ NPC เก็บไว้ หลังมีนโยบายถือหุ้นบริษัทใหม่กว่า 50%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุที่ราคาหุ้นกลุ่มปิโตรเคมีปรับวานนี้(5 ต.ค.)ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเล่นเก็งไรเพราะราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวลดลง ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตของหุ้นกลุ่มปิโตรเคมีลดลงตามไปด้วยประกอบกับช่วงไตรมาส4/48 ราคาขายผลิตภัณฑ์มีแนวโน้มสูงขึ้น เป็นผลมาจากความต้องการใช้ทำให้ช่วงไตรมาส4 ผลประกอบการของหุ้นกลุ่มดังกล่าวอาจปรับตัวเพิ่มขึ้น

โดยล่าสุดยังไม่สามารถสรุปได้ว่า หุ้นกลุ่มปิโตรเคมี จะอยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างชัดเจนเนื่องจากราคาน้ำมันดิบยังไม่ได้ผ่านจุดสูงสุด ดังนั้นจึงแนะนำนักลงทุนทยอยสะสมหุ้นบริษัทอะโรเมติกส์(ประเทศไทย)จำกัด (มหาชน) หรือ ATC และบริษัท ไทยโอเลฟินส์ จำกัด(มหาชน) หรือ TOC เพราะเป็นตัวที่โดดเด่นและมีปัจจัยพื้นฐานที่ดี

บล.ซีมิโก้ คาดว่าปี 48 ATC จะมีกำไรสุทธิประมาณ 5,600 ล้านบาท ลดลง 84%จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิจำนวน 10,314 ล้านบาท ส่งผลให้ราคาเหมาะสมอยู่ที่ 45 บาทส่วน TOC คาดว่าจะมีกำไรสุทธิประมาณ 7,600 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิจำนวน 6,500 ล้านบาท ส่งผลให้ราคาเหมาะสมอยู่ที่ 75 บาท ขณะที่สัญญาณทางเทคนิคของ ATC อาจมีแนวรับอยู่ที่ 38 บาทและแนวต้านอยู่ที่ 45 บาทส่วน TOC อาจมีแนวรับ 64 บาท และให้แนวต้าน 72 บาท

ช่วงไตรมาส 3/48 TOC อาจมีกำไรสุทธิประมาณ 1,820 ล้านบาท ลดลง 26 %จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากปริมาณขายโอเลฟินส์เพิ่มขึ้น 10.7% เป็น 2.47 แสนตัน จากไตรมาสก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้กำลังการผลิตเต็มที่และปริมาณผลิตโพรพิลีนเพิ่มขึ้นจากโครงการขยายคอขวดโรงโอเลฟินส์1 อีก 60,000 ตันต่อปี ส่วนไตรมาส 4/48 อาจมีกำไรอยู่ในระดับสูง เพราะราคาโอเลฟินส์โดยเฉพาะเอทิลีนอยู่ในระดับดี เพราะหลายโรงงานในภูมิภาคมีกำหนด หยุดซ่อมบำรุงนักวิเคราะห์กล่าว

ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือKIMENG ประเมินว่า หุ้นกลุ่มปิโตรเคมีปรับตัวเพิ่มขึ้น เพราะตลาดหมดความกังวลปัญหาภัยแล้งในนิคมอุตสาหกรรมหลังปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำมีมากขึ้น รวมถึงขณะนี้ราคาปิโตรเคมีปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้ว อาทิ ราคาเอทิลีนล่าสุดขยับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1,020 ดอลลาร์ต่อตันจากระดับต่ำที่ 650 ดอลลาร์ต่อตัน และราคาผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาเฮอริเคนในประเทศสหรัฐ

ด้านบริษัททรัพย์ ฟาร์อีสท์ จำกัด หรือ FES ประเมินว่า PTT อาจจะทยอยสะสมหุ้นNPC และ TOC ช่วงนี้ ก่อนที่ทั้ง 2 แห่งจะควบรวมกิจการกัน เพื่อเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในPTT PETROCHEMICAL ซึ่งเป็นบริษัทที่เกิดจากการควบรวมกิจการเพราะ PTT มีนโยบายที่จะถือหุ้นในบริษัทใหม่มากกว่า 50%รวมถึงจะได้ไม่ต้องทำเทนเดอร์ผู้ถือหุ้นส่วนที่เหลือของPTT PETROCHEMICAL ในภายหลัง

ที่มา: