P_aud สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 531 | วันที่: 04/10/2005 @ 12:27:05 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต KSL มั่นใจทั้งปีรายได้กว่า 5,000 ล้านบาท เชื่อโตตามเป้าหมาย ด้าน จำรูญ ระบุโรงงาน
ผลิตเอทานอลของบริษัทย่อยสร้างรายได้เพิ่ม 500 ล้านบาทต่อปี แต่ล่าสุดได้ขอขยายกำลัง
การผลิตเพิ่ม ซึ่งหากได้รับการอนุมัติจะเพิ่มรายได้ให้บริษัทถึง 6 ล้านบาทต่อวัน ขณะที่
โบรกเกอร์ฯ ให้ราคาเป้าหมาย 7.10 บาทต่อหุ้น แถมมีปันผลอีก 2.98%
นายจำรูญ ชินธรรมมิตร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท
น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) หรือ KSL เปิดเผยกับ ข่าวหุ้นธุรกิจ ว่า บริษัทยังคงคาด
ว่ารายได้ทั้งปี 2548 จะอยู่ที่ประมาณ 5,000 กว่าล้านบาท จากใช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา
บริษัทมีรายได้แล้วกว่า 4,000 ล้านบาทกำไรสุทธิ 477.18 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่ารายได้จะ
เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้เพราะในขณะนี้ได้จำหน่ายสินค้าไปหมดแล้วโดยเหลือเพียงแค่
การส่งสินค้าให้กับลูกค้าเท่านั้น
สำหรับโรงงานผลิตเอทานอลของบริษัท ขอนแก่นแอลกอฮอล์ จำกัดซึ่งเป็นบริษัทย่อยใน
เฟสแรกที่จังหวัดขอนแก่นนั้นมีกำลังการผลิต 150,000 ลิตรต่อวัน ซึ่งจะเริ่มดำเนินการ
ผลิตได้ในเดือนพฤษจิกายนนี้ โดยจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 1/2549 ทั้งนี้ โรงงานเฟส
1 ทำให้สร้างรายได้เพิ่มให้กับบริษัทปีละ 400-500 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน บริษัทได้ยื่นขอใบอนุญาตขยายกำลังการผลิตเอทานอล ที่มีความบริสุทธิ์ของ
แอลกอฮอล์ 99.5% ต่อคณะกรรมการเอทานอลแห่งชาติ เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงจาก 150,000
เป็น 400,000 ลิตรต่อวัน ซึ่งหากได้รับการอนุมัติและสามารถดำเนินการผลิตได้คาดว่าจะ
สร้างรายได้ให้กับบริษัทประมาณ 6 ล้านบาทต่อวัน
อย่างไรก็ดี การที่ภาครัฐมีการรณรงค์ให้หันมาใช้ก๊าสโซฮอล์กันมากขึ้นนั้น จะส่งผลดีต่อ
บริษัทให้ทางเลือกมากขึ้น ทั้งในการผลิตน้ำตาล หรือผลิตเอทานอล รวมทั้งยังส่งผลดีต่อ
ประเทศไทยให้มีการลดการนำเข้าเอทานอลได้ถึง 10%
นายจำรูญกล่าวว่า บริษัทยังคงไม่มีแผนที่จะขยายโรงงานเพิ่มเนื่องจากในขณะนี้บริษัทยังมี
กำลังการผลิตเหลือส่วนเกินอยู่ แต่ทั้งนี้ยังคงต้องเร่งให้มีการปลูกอ้อยให้มากขึ้นโดยจะมีการ
ชักชวนชาวไร่ให้หันมาปลูกอ้อยกันมากขึ้นซึ่งทางบริษัทก็ได้มีการประกันราคาอ้อยอยู่
ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟาร์อีสท์ จำกัด กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา KSLได้มีการลง
ทุนในธุรกิจต่างๆ ได้แก่ โครงการผลิตเอทานอลจากกากน้ำตาล โครงการผลิตปุ๋ยจากกาก
หม้อกรอง และโครงการผลิตไฟฟ้าจากกากอ้อย ซึ่งโครงการที่กล่าวนี้เป็นการนำผลผลิตที่
ได้หรือเหลือจากการผลิตน้ำตาลมาปรับปรุงให้มีมูลค่ามากขึ้น โดยคาดว่า KSL จะมีรายได้
เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปีจากโครงการดังกล่าว และรายได้จะทยอยเพิ่มขึ้นใน
อีก 2 ปีข้างหน้าด้วย
สำหรับสินค้าน้ำตาลยังคงถูกควบคุม ทำให้ราคาน้ำตาลในประเทศถูกควบคุมโดยภาครัฐ
แต่จากการที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นทำให้บราซิลซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลเป็น
อันดับ 1 ในตลาดโลก ได้นำอ้อยไปใช้ในการผลิตแอลกอฮอล์เพื่อเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น
ทำให้อุปทานน้ำตาลในตลาดโลกลดลง จึงส่งผลให้แนวโน้มราคาน้ำตาลในตลาดโลกเพิ่มสูง
ขึ้น ซึ่งจะทำให้การส่งออกน้ำตาลของ KSL มีราคาที่สูงขึ้น
นอกจากนั้น ความเสี่ยงในเรื่องของการจัดหาอ้อยในปีที่มีภาวะอากาศแห้งแล้งเนื่องจากผล
ผลิตอ้อยอาจจะมีน้อย ทำให้อาจเกิดการแข่งขันด้านการซื้ออ้อยกับกลุ่มบริษัทอื่นๆขณะ
เดียวกัน ต้นทุนอ้อยอาจปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้นอาจส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้นของ
บริษัทด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้รายได้จากการขายน้ำตาลซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัทจะมีแนวโน้มเติบ
โตที่ไม่โดดเด่น เนื่องจากมีการควบคุมราคาน้ำตาลในประเทศ แต่ยังคงเป็นรายได้ที่มั่นคงของ
KSL สำหรับราคาเป้าหมายอยู่ที่ 7.10 บาทต่อหุ้น นอกจากนั้น คาดว่าKSL จะสามารถจ่าย
ปันผลได้ที่ 0.18 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นการจ่ายเงินปันผลที่อัตรา 2.98% สำหรับผล
ประกอบการในปี 2548
ที่มา:
ข่าวหุ้น
|