ส้ม
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 96 | #6  วันที่: 26/09/2005 @ 13:22:02 : re: picni โดน H เรื่องอะไรครับ เอาข่าว ๆมารวมกันค่ะ จะได้อ่านง่าย ๆ
[b:fe95a82197">เส้นทาง PICNI จาก จึงรุ่งเรืองกิจ สู่ ปิโตรนาส[/b:fe95a82197">[/color:fe95a82197">
ท่ามกลางกระแสการถอยร่นของกลุ่ม ลาภวิสุทธิสิน หลังจากเผชิญปัญหาเกี่ยวกับการตกแต่งบัญชี บริษัทปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (PICNI) สร้างกระแสกดดันให้ นายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ต้องลงจากเก้าอี้ พร้อมกับกล่าวประชดประชันผ่านสื่อว่าจะให้บรรดาญาติๆขายหุ้น PICNI ทิ้งให้หมด แต่ในอีกด้านหนึ่งกลับนั่งเป็นหัวโต๊ะเจรจาประนอมหนี้ตั๋ว B/E ด้วยตัวเอง
ณ วันนี้ ลาภวิสุทธิสิน มีการผ่องถ่ายหุ้น PICNI ไปยังตระกูล จึงรุ่งเรืองกิจ ผ่านเครือข่ายของ ไทยซัมมิท รวมทั้งดึง ตระกูล เผอิญโชค ของ บริษัท ไทยรุ่งยูเนียนคาร์ จำกัด (มหาชน) (TRU) เข้ามาร่วมด้วย ถือเป็นอาณาจักรชิ้นสน่วนยานยนต์ที่ยิ่งใหญ่ของประเทศไทย
ทำให้วันนี้อาณาจักร PICNI ซึ่งก่อร่างสร้างตัวมาจากตระกูลลาภวิสุทธิสิน ได้เข้ามาสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนมือของผู้ถือหุ้นใหญ่ที่น่าจับตามองซึ่งอาจจะเป็นย่างก้าวสำคัญของการเข้ามาของธุรกิจพลังงานข้ามชาติอย่าง ปิโตรนาส ก็ได้
eFinancethai.com สืบค้นข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) รายงานโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัทปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ล่าสุด ณ วันปิดสมุดทะเบียนวันที่ 8 ก.ย. 2548 พบว่าสัดส่วนผู้ถือหุ้นเปลี่ยนแปลงไปมากเมื่อเทียบกับปิดสมุดทะเบียนในครั้งก่อน (25 ก.ค. 2548)โดยเฉพาะในส่วนของตระกูล ลาภวิสุทธิสิน ที่มีสัดส่วนการถือหุ้นลดลงถึง 50% จาก 36.28% เหลือเพียง 18.49%
ขณะที่ สุวิมล ทองกร กรรมการบริษัท ซัมมิท ฟุตแวร์ จำกัด ในเครือของไทยซัมมิท ที่เชื่อกันว่าเป็นร่วงทรงของกลุ่ม จึงรุ่งเรืองกิจ กลับมีสัดส่วนการถือหุ้นขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ถือหุ้น 110 ล้านหุ้นหรือ 7.44% จากวันปิดสมุดทะเบียนครั้งก่อนไม่มีการถือหุ้นแต่อย่างใด
พร้อมๆกับการมีผู้ถือหุ้นหน้าใหม่ใน PICNI แต่เก๋าในวงการรถยนต์ดัดแปลงคือ ดร.ปราณี เผอิญโชค ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของ TRU ที่ตอนนี้เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้น PICNI จำนวน 42,500,390 หุ้น หรือ 2.88%
มีการตั้งข้อสังเกตุว่าการลดสัดส่วนถือหุ้นของกลุ่ม ลาภวิสุทธิสิน เป็นการขายหุ้นออกไปก่อนที่บริษัทจะขึ้นเครื่องหมาย XR เพื่อสิทธิในการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน 1,477,673,297 หุ้น ให้ผู้ถือหุ้นเดิมสัดส่วน 1 ต่อ 1 ราคา 1.50 บาท ที่จะชำระค่าหุ้นในวันที่ 26-30 ก.ย.2548
แสดงให้เห็นว่าเจตนาของ ลาภวิสุทธิสิน คือ ไม่ต้องการจ่ายเงินค่าหุ้นเพิ่มทุน แต่ส่งต่อไปให้เครือไทยซัมมิทจ่ายแทน
ล่าสุดเริ่มมีกระแสข่าวร่ำลือตามห้องค้าเกี่ยวกับบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ในมาเลเซียอย่าง ปิโตรนาส ที่ปัจจุบันรุกคืบเข้ามาในประเทศไทย ด้วยการซื้อกิจการปั๊มคิวเอท ดังที่เราจะได้เห็นปั๊มน้ำมันน้องใหม่ ปิโตรนาส กลาดเกลื่อนอยู่ทั่วไป ควบคู่ไปกับการเข้ามาเซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรกับธุรกิจพลังงานของไทยอย่าง ปตท. หรือ ปตท.สผ. ในการขุดเจาะก๊าซธรรมชาติ ดังนั้นความคิดที่จะเข้ามาลุยสนามก๊าซหุงต้มที่รัฐบาลจะประกาศลอยตัวในไม่ช้านี้ จึงมิใช่สิ่งที่เกินเอื้อม
หากพิจารณาความเป็นไปได้ในกระแสข่าวดังกล่าวแล้วผู้คร่ำหวอดในวงการหลักทรัพย์ต่างให้ความเห็นตรงกันว่า มีโอกาส อย่างสูงเลยทีเดียวจากเหตุผลหลักๆ 3-4 ประการ อาทิ
-การเข้ามาถือหุ้น PICNI ของกลุ่ม จึงรุ่งเรืองกิจ พร้อมกับยอมใส่เงินเพิ่มทุนกว่า 165 ล้านบาท แทนกลุ่ม ลาภวิสุทธิสิน ที่ขายหุ้น เผ่น ตั้งแต่ก่อนขึ้นเครื่องหมาย XR ย่อมมิใช่เรื่องเล็กๆดังที่ สุวิมล ทองกร ผู้ออกหน้าแทนบอกว่าเข้าไปรับซื้อหุ้นต่อจากลาภวิสุทธิสินเพราะ เห็นว่าราคาถูก อย่างแน่นอน
-กลุ่ม จึงรุ่งเรืองกิจ เจ้าของอาณาจักร ไทยซัมมิท ผู้คร่ำหวอดในวงการชิ้นส่วนยานยนต์ซึ่งถือเป็นหนึ่งธุรกิจหลักของประเทศมาเลเซีย รองจากธุรกิจพลังงานแน่นอนย่อมต้องมีการติดต่อ เจรจากันทางธุรกิจกับนักธุรกิจประเทศมาเลเซียและย่อมมีโอกาสอย่างยิ่งในการรู้จักทั้งเป็นการส่วนตัวแบบไม่เป็นทางการหรือการพบปะอย่างเป็นทางการฉันท์นักธุรกิจด้วยกันกับ ปิโตรนาส
-หุ้น PICNI ปัจจุบันราคาร่วงลงมาอยู่ระดับเพียง 2 บาทกว่าๆ ขณะที่มูลค่าหุ้นตามบัญชี ณ ปี 2547 ของ PICNI อยู่ที่ 3.12 บาท และอยู่ในธุรกิจ พลังงาน ที่ชัดเจนว่าจะเป็น ขาขึ้น ย่อมเป็นเป้าหมายของการถูก เทกโอเวอร์
-ลาภวิสุทธิสิน กำลังบาดเจ็บหลังจากถูกสังคมมองว่ามีการใช้ การเมือง เข้ามาหาผลประโยชน์ในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งไม่ว่าความจริงจะเป็นอย่างไร สิ่งที่ต้องยอมรับก็คือ ลาภวิสุทธิสิน ได้กำไร จากการเข้ามาลงทุน ตั้งแต่การเข้ามาแบ็คดอร์ บริษัทบีจีอีเอส จำกัด (มหาชน) (BGES) ในช่วงปี 2544-2545อย่างมหาศาล
ในขณะที่หัวเรือใหญ่อย่าง นายธีรัชชานนท์ ลาภวิสุทธิสิน และ น.ส.สุภาพร ลาภวิสุทธิสิน อยู่ระหว่างการกล่าวโทษของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ต่อพนักงานสอบสวน โทษฐานเบียดบังเอาทรัพย์สินของ PICNI เพื่อแสวงหาประโยชน์อันมิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายแก่ตนเองหรือผู้อื่นอันเป็นการเสียหายแก่ PICNI รวมทั้งการจัดทำหรือยินยอมให้จัดทำบัญชีของ PICNI ไม่ถูกต้องไม่ตรงกับความเป็นจริง
เป็นผลให้ทั้ง 2 ต้องยอมถอยออกจาก PICNI โดยการลาออกจากการเป็นกรรมการและล่าสุดอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นคือการ ถอย สัดส่วนการถือหุ้นเหลือเพียง 18% เท่านั้น
การใช้สายสัมพันธ์ของ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นสะพานสู่การเชื่อมโยงธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์กับธุรกิจพลังงานที่ถือเป็นสิ่งที่เกี่ยวเนื่องกันอย่าง ปิโตรนาส และ PICNI จึงไม่ใช่เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
นี่เป็นเพียงการต่อจิ๊กซอว์จากข้อมูลหลายๆชิ้นมาประกอบกันแต่สุดท้ายอนาคตของ PICNI จะเป็นอย่างไร เส้นทางเดินของ PICNI จะสิ้นสุดลงที่ใด ล้วนเป็นเรื่องที่ต้องจับตามอง เพราะคงปฎิเสธไม่ได้ว่า PICNI เป็นหนึ่งในหุ้นที่เป็น ดาวเด่น และได้รับความสนใจจากสังคมไม่ว่าจะแวดวงการเมืองหรือวงการค้าหุ้นในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าตอนนี้ดูเหมือนว่า PICNI จะเป็น ดาวร่วง มากกว่า ดาวรุ่ง ก็ตาม...
โครงสร้างผู้ถือหุ้น PICNI ณ วันที่ 8 ก.ย. 2548 (5 อันดับแรก)
ผู้ถือหุ้น จำนวนหุ้น %การถือหุ้น
น.ส. สุภาพร ลาภวิสุทธิสิน 168,384,700 11.40
น.ส. สุวิมล ทองกร 110,000,000 7.44
นาย ธีรัชชานนท์ ลาภวิสุทธิสิน 104,716,600 7.09
นาย ทวีศักดิ์ วัชรรัคคาวงศ์ 48,460,400 3.28
ดร.ปราณี เผอิญโชค 42,500,390 2.88
โครงสร้างผู้ถือหุ้น PICNI ณ วันที่ 25 ก.ค. 2548 (5 อันดับแรก)
ผู้ถือหุ้น จำนวนหุ้น %การถือหุ้น
น.ส. สุภาพร ลาภวิสุทธิสิน 274,000,000 18.54
นาย ธีรัชชานนท์ ลาภวิสุทธิสิน 198,109,800 13.41
นาง วิมล ลาภวิสุทธิสิน 64,000,780 4.33
น.ส. กนกรัตน์ จิตติกุลดิลก 54,339,160 3.68
นาย ทวีศักดิ์ วัชรรัคคาวงศ์ 48,460,400 3.28 |
