PaT. สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 29 | วันที่: 17/08/2005 @ 09:33:17 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ลงต่อ... แต่อย่าตกใจ[/color:02f78bcaec">
แรงซื้อของนักลงทุนต่างประเทศเริ่มแผ่วลงเรื่อย ๆ จนเมื่อวานกลับเป็นผู้ขาย แต่ยังไม่มีอะไรน่าวิตกเนื่องจาก ก่อนหน้าเราตั้งข้อสังเกตุว่า แรงซื้อของต่างชาติมีเข้ามาเป็นอย่างมาก เขามองอะไรซ่อนเร้นอยู่เหมือนกัน เช่น เรื่องของการปรับค่าเงินหยวนของจีน การจัดตั้งตลาดอนุพันธ์ของไทย หรือแม้กระทั่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง ที่สำคัญที่สุดคือสภาพคล่องส่วนเกินจากสหรัฐและยุโรป [/color:02f78bcaec">
แรงขายช่วงนี้น่าจะเป็นเหตุผลจาก 1. ระดับราคาน้ำมันที่สร้าง new hight 2. เริ่มเกิดความไม่มั่นใจจากความตึงเครียดในอิหร่าน ทำให้เกิดการ shift เงินลงทุนจากตลาดหุ้นไปพักไว้ในตลาดพันธบัตรหรือตลาดเงินของสหรัฐเนื่องจากดอกเบี้ยเริ่มขยับขึ้นเรื่อย ๆ [/color:02f78bcaec">
ยังมองเพียงว่าต่างประเทศเพียงปรับ port การลงทุนให้เข้ากับภาวะที่เปลี่ยนไปบางตัว เช่น ค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มอ่อนเมื่อเทียบกับเงินเยน และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี เริ่มปรับตัวลง (มีแรงซื้อพันธบัตรเข้ามา) รวมทั้งอาจมีการปรับประมาณการอัตราการทำกำไรสุทธิของบริษัทฯ จดทะเบียนใน Q2/48 ใหม่ว่าจะลงทุนหรือขายในกลุ่มไหน สำหรับภาพใหญ่ของเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะการค่อย ๆฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและเอเซียในครึ่งปีหลัง 48 ยังคงเป็นบวก[/color:02f78bcaec">
ตัวเลขเศรษฐกิจของไทยในเดือน สค. นี้ไม่ว่าจะเป็นดุลการค้า และบัญชีเดินสะพัด จะเริ่มดีเพราะมีการปรับตัวเลขการนำเข้าน้ำมันใหม่และการเข้าไปดูแลเรื่องการนำเข้าน้ำมันมาเก็งกำไร แต่อย่างไร เมื่อเกิดภาวะน้ำท่วมในแถบภาคเหนือ กลับเป็นเรื่องยากขึ้น จึงต้องยอมรับว่า การที่จะทำให้ดุลบัญชีเดินสะพัดและขาดดุลน้อยลงในครึ่งปีหลังปี 48 เริ่มมีต่ำลงไปอีก[/color:02f78bcaec">
แรงขายรอบนี้มองว่าลงไปไม่ลึกเพราะ
1 แรงขายกลุ่มพลังงานที่ต่างชาติวื้อไว้ คงขายออกมาไม่ได้มาก
2 เม็ดเงินเก็งกำไรบางส่วนยังคงหวังเรื่องการปรับค่าเงินหยวน
3 หากต่างประเทศขายออกมามาก คงไม่ได้กำไรจาก capital gain แต่อาจมีกำไรจากค่าบาทเพียงเล็กน้อย ซึ่งไม่น่าคุ้ม[/color:02f78bcaec">และเมื่อดูการเปลี่ยนแปลงของดัชนี MSCI ในเอเซีย ตั้งแต่ราคาน้ำมันทำสถิติใหม่สูงสุด พบว่าตลาดหุ้นส่วนใหญ่โดนเทขายเหมือนกัน และพบว่าตลาดหุ้นไทยเท่านั้นที่แย่ที่สุด ตรงนี้กำลังจะบอกว่า หากมีปัจจัยหนุนอะไรเข้ามา การวิ่งขึ้นของดัชนีจะดีกว่าหลายประเทศที่ก่อนหน้านี้ ล้วนวิ่งขึ้นกันหมดแล้ว
หากดัชนีลงมาสูระดับ 660 ?665 จุด มองว่า นักลงทุนระยะยาวถึงกลาง น่าจะเริ่มทยอยซื้อหุ้นได้บางส่วน จุดซื้ออาจเป็นช่วงปลายสัปดาห์นี้ แต่หากลงไปต่ำกว่า 650 จุด ตรงนี้เริ่ม ซื้อได้เต็มที่ เพราะความเสี่ยงจะต่ำมาก โดยกลุ่มที่จะ Outperform ในปลาย Q3/48 ได้แก่ ธนาคาร ชิ้นส่วน ฯ บันเทิงบางตัว เดินเรือ ส่วนอสังหาริมทรัพย์ต้อง LALIN เป้าหมายอยู่ที่ 5.50 บาท[/color:02f78bcaec">
นักวิเคราะห์เกียรติก้อง เดโช : SSEC
|