กระแสข่าวว่า ทางกลุ่มปิโตรนาส บริษัทพลังงานในประเทศมาเลเซียสนใจเข้าลงทุนใน PICNI ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะมีกลุ่มผู้ลงทุนสนใจเข้ามาซื้อกิจการของ PICNI ซึ่งกระแสข่าวดังกล่าวมีความเป็นไปได้สูง หลังจากที่สัดส่วนการถือหุ้นใหญ่ของ PICNI เริ่มมีสัดส่วนที่เปลี่ยนแปลงไป หลังจากที่ สุวิมล ทองกร กรรมการบริษัท ซัมมิท ฟุตแวร์ จำกัด ในเครือของไทยซัมมิท ที่เชื่อกันว่าเป็นร่วงทรงของกลุ่ม จึงรุ่งเรืองกิจ มีสัดส่วนการถือหุ้นขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ถือหุ้น 110 ล้านหุ้นหรือ 7.44% ขณะที่น.ส. สุภาพร ลาภวิสุทธิสิน ที่ถือหุ้นอันดับ1 กลับมีสัดส่วนลดลง จากระดับ18.54% ล่าสุดเหลือเพียง 11.40%

ซึ่งถือว่าเป็นการเตรียมการโอนถ่ายอำนาจกันอย่างชัดเจน ในขณะที่ กลุ่มไทยซัมมิทเอง ก็ถือได้ว่ารู้จักมักคุ้นกับทางกลุ่มปิโตรนาส เช่นกันดังนั้นการที่ทางปิโตรนาส จะเข้ามาร่วมทุนกับทาง PICNI จึงมีความเป็นได้สูง...ส่วนราคาในกระดานนั้น วงในว่าสั้นๆนี้เค้าตั้งเป้าไว้กันแถวเขต3บาทครับ

ส่วน TPI เช้าวันนี้ทางตลาดฯแขวนป้าย H ห้ามซื้อขายเนื่องจากยังไม่ได้รับเอกสารกรณี การประมูลซื้อหุ้น TPIPL ที่มีข่าวออกทางสื่อต่างๆไปแล้วนั่นเอง แต่ในภาคบ่ายนี้จะกลับมาเทรดกันปรกติครับ

ส่วนกรณีการประมูลหุ้น TPIPL ได้ราคาเพียง17บาทต่อหุ้นนั้น ถือว่าไม่น่าจะกระทบต่อ TPI มากนัก หากเจ้าหนี้ไม่รับที่ระดับราคาดังกล่าว ผู้บริหารแผน TPIจะโอนหุ้น TPIPL ให้เจ้าหนี้ตีทรัพย์ชำระเป็นมูลค่า 250 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะต้องโอนหุ้นให้เจ้าหนี้ตีทรัพย์ชำระก่อนวันที่ 10 พ.ย.นี้
ทั้งนี้ จะไม่มีการเปิดประมูลรอบ 3 เพราะมีเวลาจำกัด เนื่องจากกระบวน
การทุกขั้นตอนจะต้องเสร็จเรียบร้อยก่อนวันที่ 4 พ.ย. และการโอนหุ้น TPIPL จะต้องทำก่อนวันที่ 10 พ.ย.นี้ โดยเจ้าหนี้มีเวลา1เดือนในการตัดสินใจว่าจะยอมให้ขายหุ้นในราคา17บาทต่อหุ้นหรือไม่

และหากในที่สุดเจ้าหนี้ตัดสินใจไม่ขายหุ้น TPIPL ให้กับผู้ที่สนใจเข้าซื้อรายใหม่นั้น ทางเจ้าหนี้ก็สามารถถือหุ้น TPIPL ต่อไป โดยทำการ SWOP จากมูลหนี้ทั้งหมดที่มีอยู่มาเป็นจำนวนหุ้น TPIPL ซึ่งจะทำให้เจ้าหนี้มีสัดส่วนการถือหุ้นมากที่สุด และมีอำนาจในการบริหารมากขึ้น

ดังนั้นเชื่อว่าTPIเองไม่น่าจะได้รับผลกระทบจากเรื่องดังกล่าวครับ ทางเทคนิคหากวันนี้ ราคาหุ้นยืนปิดเหนือเขต14.80บาทได้ สัปดาห์หน้าได้ลุ้นผ่านแนวต้าน15.50บาทครับ




.0008

ช่วงที่ผ่านมาเราสังเกตว่าทางมาเลเซีย บุกตลาดไทยด้านพลังมาตลอด

เนื่องจากส่วนต่างทางค้ามีมาก เมื่อเทียบกับต้นทุนทางมาเลเซีย

เริ่มจากการเข้าควบกิจการน้ำมัน ตอนนี้มาเรื่องแก๊ส

อีกหน่อย กฟผ.เข้าตลาด ถ้าผู้ไม่ดูแลราคาหุ้นให้ดี

ก็มีโอกาสเหมือนกรณี MATI ในมุมกลับกัน

หุ้น กฟผ.จึงมีแนวโน้มที่มีโอกาสต่อนักลงทุนไทย ที่ถือระยะยาวมากกว่าการเล่นเก็งกำไร

เหตุผลนอกเหนือไปจากกิจการเป็นที่เป็น ผู้กำหนดราคาของพลังงานไฟฟ้า

แต่จากมีแรงกดดันจากนอกประเทศด้วย ดังนั้นการเอาหุ้นตัวนี้เข้าตลาด

ผู้บริหารฯ และตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งรัฐบาลต้องดูแลเป็นอย่างดี

ปิโตรนาส คือบริษัทผลิตน้ำมันที่ใหญ่เป็นอันดับ3 ของโลก และเป็นบริษัทเดียวในเอเซียที่สามารถผลิตน้ำมันเองได้ หากเข้าร่วมทุนจริง จะทำให้ปิคนิค เป็นผู้นำธุรกิจน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในเอเซีย เหนือกว่า ปตท และ ไทยออยล์ ราคาปิคนิค ในอนาคต น่าจะอยู่ที่ประมาณ700 -1500 บาท หากใช้พีอี12 เท่าในกลุ่มพลังงาน