April 19, 2024   8:41:20 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > BAY - W1
 

P_aud
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 531
วันที่: 16/09/2005 @ 18:57:57
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

วอร์แรนต์กรุงศรี เล่นไม่คุ้ม แต่คนยังแห่ใช้สิทธิแปลงขาดทุนเป็นหุ้นสามัญ รอลุ้นหุ้นแม่ขยับได้อีกเพราะปัจจัยพื้นฐานดี รอขายฟันกำไร เหตุ BAY รับผลดีจากการได้งดภาษี 4,800ล้านบาท เป็นระยะ 2 ปี ส่วนแบงก์อื่นสิทธิค่าต๋งหมดปีนี้

นักวิเคราะห์ บล.ซิกโก้ เปิดเผยว่า การที่นักลงทุนใช้สิทธิ์แปลงวอร์แรนต์เป็นหุ้นสามัญ ทั้งๆที่คิดจากราคาต้นทุนบวกกับราคาแปลงแล้ว ก็ยังไม่คุ้มกับการแปลง โดยที่วอร์แรนต์ดังกล่าวได้ออกครั้งแรกในเดือนกันยายน 2546 และได้ทยอยใช้สิทธิ์ไปแล้ว โดยก่อนหน้านี้ได้มีการใช้สิทธิ์ในระหว่างวันที่ 19-22 สิงหาคม 2548 และจะมีการให้ใช้สิทธิ์ได้อีกครั้งในวันที่ 30 กันยายน 2548

โดยการใช้สิทธิ์ ครั้งที่ผ่านมาในวันที่ 19-22 สิงหาคมนี้ ราคาของหุ้นธนาคารกรุงศรีอยู่ที่หุ้นละ 11.8-12 บาท ขณะที่ราคาวอร์แรนต์(BAYW1)อยู่ที่ 2.94 บาทในวันที่ 19สิงหาคม และขยับเป็น 3.02 บาท ในวันที่ 22 ในเดือนเดียวกัน เมื่อบวกกับราคาแปลงที่12 บาท จะพบว่าราคาแปลงยังคงสูงกว่าราคาหุ้นแม่ หากคิดราคาต้นทุนวอร์แรนต์ซึ่งมีต้นทุนที่เท่ากับศูนย์ เพราะครั้งแรกนั้นเป็นการแจกฟรี แต่เมื่อเทียบกับราคาหุ้นแม่ก็ไม่คุ้มอยู่ดีเพราะหุ้นแม่อยู่ที่ 11.8-12 บาท

นักวิเคราะห์ เปิดเผยถึงสาเหตุที่นักลงทุนยอมขาดทุนจากการแปลงวอร์แรนต์เป็นหุ้นสามัญนั้น เนื่องจากหวังว่าหุ้นแม่จะขยับขึ้นได้อีกจากปัจจัยพื้นฐาน และจากการที่ระยะหลังคนหันมาเล่นหุ้นแบงก์มากขึ้น จากคำแนะนำของโบรกเกอร์ และจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ทำให้เชื่อกันว่าหุ้นแบงก์จะมีการเติบโตทั้งในแง่รายได้และกำไร

หลังจากที่แบงก์ชาติขึ้นดอกเบี้ยอาร์/พี 14 วัน แบงก์กรุงศรีก็ขึ้นดอกเบี้ยเช่นเดียวกันโดยก่อนหน้านั้นมีส่วนต่างดอกเบี้ยเงินกู้และดอกเบี้ยเงินฝากที่ 2.56 % หลังจากที่ขยับขึ้นดอกเบี้ยมาอีก ก็จะทำให้ส่วนต่างดังกล่าวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังได้รับสิทธิพิเศษทางด้านภาษีโดยได้รับยกเว้นภาษีจำนวน 4,800 ล้านบาท ขณะที่แบงก์อื่นได้ทยอยสิ้นสุดสิทธิดังกล่าวในปีนี้แล้ว

ทั้งนี้ ผู้บริหารของแบงก์ได้ตั้งเป้าสินเชื่อว่าจะโตขึ้นอีก 7-8 % จากปีที่แล้ว ขณะที่บล.ซิกโก้ ทำประมาณการว่าจะโตอีก 7 % หรือคาดว่าปีนี้ขนาดพอร์ตสินเชื่อจะอยู่ที่ 4.4แสนล้านบาท มีกำไรสุทธิ 5,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 27 % ซึ่งคาดการดังกล่าวนักวิเคราะห์ เผยว่า มีความเป็นไปได้ เนื่องจากพิจารณาจากการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อเฉพาะในครึ่งปีแรกซึ่งเติบโตไปแล้ว 4.3 % ส่วนอีกครึ่งปีหลังคาดว่าจะโตอีกร้อยละ2.7 รวมทั้งปีพอร์ตสินเชื่อจะโตกว่าปีก่อน 7 % คาดว่าปีนี้จะจ่ายปันผล 40 สตางค์ โดยนักวิเคราะห์แนะนำให้ซื้อ ที่ราคาเป้าหมายที่ 17 บาท

ปัจจุบันคงเหลือวอร์แรนต์ที่ยังไม่ได้ใช้สิทธิอีก 1,219,019,789 หน่วย จากจำนวนที่ออกครั้งแรกเมื่อ 3 กันยายน 2546 จำนวน 1,239,067,755 หน่วย มีผู้ใช้สิทธิไปแล้วทั้งสิ้น 20,047,966 หน่วย

ที่มา:
ข่าวหุ้น

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com