April 24, 2024   8:04:33 AM ICT
TSTH

Highlight :  
        แนวโน้มตลาดหุ้น:  วันนี้ เราคาดว่า SET น่าจะเข้าสู่ช่วงของการปรับฐานระยะสั้นต่อเนื่อง
จากเมื่อวานนี้ รวมทั้ง จากแรงกดดันจากการร่วงลงของดัชนีดาวโจนส์กว่า 175 จุดจากความกังวลปัญหา
วิกฤติสินเชื่อที่ธนาคารต่าง ๆ อาจต้องปรับลดมูลค่าทรัพย์สินทางบัญชีลงอีกมาก แต่ตลาดอาจได้รับแรงหนุน
จากกลุ่มพลังงานที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง (จนล่าสุดกลับขึ้นมายืนที่ระดับ 95 ดอลลาร์ต่อ
บาร์เรลแล้ว) ทำให้ SET วันนี้ ปรับตัวลดลงไม่มากนัก ทั้งนี้ เราคาดว่า SET วันนี้จะเคลื่อนไหวที่บริเวณ
825-830 จุด
        หุ้นเด่นวันนี้:  PTTEP, PTTAR, SHIN, LH, ITD, LANNA, UMS, ACL, TRUE
        เหตุการณ์และการขึ้นป้าย :
        - วันนี้: QHPF XD @ 0.20 บาท, MINOR ลูกหุ้นเข้า 3.10 แสนหุ้น, PS ลูกหุ้นเข้า 5.77
ล้านหุ้น, SYRUS ลูกหุ้นเข้า 1.67 แสนหุ้น
        - วันพรุ่งนี้:  GL ลูกหุ้นเข้า 9.00 ล้านหุ้น, KTC 1.00 แสนหุ้น, MINT 78.17 ล้านหุ้น,
PTTEP ลูกหุ้นเข้า 8.82 แสนหุ้น

สรุปการเปลี่ยนแปลงการถือครองหลักทรัพย์ของผู้บริหาร :
        - ผู้บริหารซื้อ : CRANE, TSC, BLISS, UTP, KDH, RAM, VIBHA, ILINK, BSEC
        - ผู้บริหารขาย :  KBANK, TISCO, METRO, SECC

ปัจจัยที่ต้องจับตา :
        - 18 ก.พ.51: รัฐบาลแถลงนโยบายต่อสภา
        - 21 ก.พ. 51: สรุปรายชื่อ ส.ว.จากการเลือกตั้ง 74 คน
        - 27 ก.พ.51: ธปท.กำหนดทิศทางดอกเบี้ย

Market  Summary :
        * "เมื่อวาน  SET ปิดบวก 2.7 จุด" เมื่อวาน SET ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.7 จุด ปิดที่ 832.11
จุด (ในระหว่างการซื้อขายขึ้นไปสูงสุดที่ 844 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 29,646 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติ
ซื้อสุทธิ 2,116 ล้านบาท (ยอดซื้อสุทธิตั้งแต่ต้นเดือน ก.พ. เท่ากับ 26,248 ล้านบาท)
        * "ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 175 จุด " ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับตัวลดลง 175.26 จุด หรือ 1.4%
ปิดที่ 12,376 จุด จากการที่มูดีส์ฯ ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือบริษัท เอฟจีไอซี คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัท
ประกันหุ้นกู้และอาจทำให้ธนาคารต่าง ๆ ต้องปรับลดมูลค่าทรัพย์สินทางบัญชีลง (หุ้นยูบีเอสร่วงลง 8.3%)
        ....นอกจากนี้ ประธานเฟดยังกล่าวยอมรับว่าแนวโน้มเศรษฐกิจได้ย่ำแย่ลงในช่วงหลายเดือนที่
ผ่านมา และความเสี่ยงต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีถ่วงตลาดลง
หลัง โกลด์แมน แซคส์ ปลดหุ้น อินเทล คอร์ปออกจากรายชื่อหุ้นที่ติดอันดับน่าลงทุนสูงสุด
        * "ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX พุ่งขึ้น 2.19 ดอลลาร์" ราคาน้ำมันดิบที่ตลาด NYMEX ส่งมอบ
เดือน มี.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.19 ดอลลาร์หรือ 2.35%  ปิดที่ 95.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยได้รับ
แรงหนุนจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น และสต็อกก๊าซธรรมชาติที่ลดลงมากเกินคาด, ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า
ลง และปัญหาความระหว่างเอ็กซอน โมบิล และรัฐบาลเวเนซุเอลา 
        * "ปธน.สหรัฐได้ลงนามร่างกฎหมายคืนภาษี 1.5 แสนล้านดอลลาร์แล้ว"  รมว.คลังสหรัฐ
เตรียมแถลงต่อสภาคองเกรสว่าสหรัฐกำลังเผชิญกับการปรับตัวช่วงขาลงในตลาดที่อย่อาศัยครั้งใหญ่ แต่
เศรษฐกิจมีความแข็งแกร่งในแง่ปัจจัยพื้นฐาน และน่ารอดพ้นจากภาวะถดถอย ในขณะที่ ปธน.สหรัฐได้ลง
นามในร่างกฎหมายที่จะคืนภาษีมูลค่า 1.5 แสนล้านดอลลาร์ให้กับชาวสหรัฐเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถด
ถอย

Economics  & Politics:
        * "ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ม.ค.เพิ่มขึ้นเป็น 71.2"  ม.หอการค้าไทยเผยผลสำรวจ
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.51 อยู่ที่ 71.2 เพิ่มจาก 70.4 ในเดือน ธ.ค.50 เนื่องมีความหวัง
ว่ารัฐบาลใหม่จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ดีขึ้น และการเมืองที่มีเสถียรภาพ
        * "รัฐบาลจะประกาศปี 51-52 เป็นปีแห่งการลงทุนและท่องเที่ยว" รัฐบาลจะประกาศให้ปี 51
และ 52 เป็นปีแห่งการลงทุนและการท่องเที่ยวไทย โดยวางเป้าหมายรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจาก
เดิมเป็น 8 แสนล้านบาท และตั้งเป้ามีนักเดินทางเข้าประเทศ 15.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.3%
        * "ตลท.จะไปโรดโชว์ญี่ปุ่นเพื่อขยายฐานนักลงทุนในช่วง ก.พ.-มี.ค.นี้" ตลท.จะเดินทางนำ
เสนอข้อมูลให้กับนักลงทุนญี่ปุ่นเพื่อขยายฐานผู้ลงทุนชาวต่างชาติต่อเนื่อง โดยในวันที่ 17-19 มี.ค.จะไป
ตามคำเชิญของ บล.พัฒนสิน โดยมีบริษัทที่น่าสนใจ ได้แก่ SCB, PTT, AMATA ส่วนอีกงาน ร่วมกับ Daiwa
ในวนที่ 18-20 ก.พ.นี้ และอีกงานร่วมกับ บล.ยูไนเต็ด (US) ในวันที่ 20 มี.ค.สำหรับผู้ลงทุนรายบุคคล
และกลุ่มอาชีพเฉพาะ
        * "ธอส.จะเข้าพบ รมว.คลังเพื่อเสนอมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์" ธอส.เผยจะเข้าพบ
รมว.คลังเพื่อเสนอมาตรการกระตุ้ภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยจะเสนอให้เพิ่มค่าลดหย่อนภาษีจากการหัก
ดอกเบี้ยสำหรับผู้กู้ซื้อบ้านให้มากกว่า 1 แสนบาท โดยเฉพาะผู้ที่ซื้อบ้านหลังแรก และมีการอยู่อาศัยจริง
พร้อมทั้ง เสนอให้ลดภาษีธุรกิจเฉพาะจาก 3.3% เหลือ 0.01% และเสนอให้ลดหย่อนค่าธรรมเนียมการ
โอนจาก 2% ให้เหลือ 0.01% เพื่อกระตุ้นแรงซื้อให้มากขึ้น

Investment Theme:

"คาดว่า SET วันนี้ อยู่ในช่วงของการพักฐาน ตามการอ่อนตัวลงของดัชนีดาวโจนส์"
        ......เมื่อวาน SET ดีดตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 844 จุด และอ่อนตัวลงในช่วงบ่ายมาปิดที่ระดับ 832
จุด แต่ต่างชาติยังคงซื้อสุทธิกว่า 2.1 พันล้านบาท
        ......วันนี้ เราคาดว่า SET น่าจะเข้าสู่ช่วงของการปรับฐานระยะสั้นต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้
รวมทั้ง จากแรงกดดันจากการร่วงลงของดัชนีดาวโจนส์กว่า 175 จุดจากความกังวลปัญหาวิกฤติสินเชื่อที่
ธนาคารต่าง ๆ อาจต้องปรับลดมูลค่าทรัพย์สินทางบัญชีลงอีกมาก แต่ตลาดอาจได้รับแรงหนุนจากกลุ่ม
พลังงานที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง (จนล่าสุดกลับขึ้นมายืนที่ระดับ 95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแล้ว)
ทำให้ SET วันนี้ ปรับตัวลดลงไม่มากนัก ทั้งนี้ เราคาดว่า SET วันนี้จะเคลื่อนไหวที่บริเวณ 825-830 จุด
        ......ทั้งนี้ กลยุทธ์การลงทุนยัง แนะนำให้ซื้อเมื่อ SET อ่อนตัวลงมา เนื่องจากเรายังคงมีมุม
มองต่อตลาดทั้งในระยะสั้นและระยะกลางเป็นบวก จากสถานการณ์การเมืองที่มีความชัดเจน, การออก
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลใหม่ ซึ่งคาดว่าจะสร้างความเชื่อมั่นใน
การลงทุนและการบริโภคให้ฟื้นกลับขึ้นมาได้ โดยเรามีเป้าหมายของ SET ระยะสั้นที่ 850 จุดและเป้า
หมายระยะกลางที่ 900 จุด
        .....กลุ่มที่น่าสนใจซื้อลงทุน คือ พลังงาน เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นมาอีกครั้งและ
เป็นช่วงที่โรงกลั่นมีการปิดซ่อมบำรุง กลุ่มธนาคาร และอสังหาริมทรัพย์ ที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จาก
ความเชื่อมั่นด้านการลงทุน (โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่) และการบริโภคจากแนวโน้มดอกเบี้ยอ่อนตัว

มุมมองทางเทคนิค (Technical View):
        "การที่ SET สามารถยืนเหนือระดับ 810 จุดได้ ทำให้โมเมนตัมของตลาดยังคงดูดี ดังนั้น เรา
ยังมองว่า SET มีโอกาสจะเดินหน้าขึ้นต่อได้ โดยแนวต้านระดับถัดไปจะอยู่ที่บริเวณ 850~860 จุดได้
        .....แม้ตลาดมีโอกาสผันผวนมากขึ้นเมื่อ SET เข้าใกล้แนวต้านที่บริเวณ 850~860 จุด แต่ยัง
ไม่มีความจำเป็นต้องขายเพียงแค่ขยับจุดหยุดขาดทุนให้สูงขึ้นไปเป็น 820 จุด"

กลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าสนใจลงทุน:
        กลุ่มพลังงาน (Overweight)): ได้รับประโยชน์จากการปรับตัวสูงขึ้นของราคาน้ำมันและราคา
ถ่านหิน รวมทั้ง ค่าการกลั่นมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากเป็นช่วงของการปิดซ่อม

        กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (Overweight): ได้รับผลบวกจากดอกเบี้ยต่ำ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่
จะฟื้นกลับมา

        กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (Overweight):  การลงทุนที่คาดว่าจะเริ่มฟื้นตัว และ Mega Project
ที่จะออกมาจากนโยบายรัฐบาลชุดใหม่
       
        กลุ่มธนาคาร (Neutral):  รอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวเนื่องจากราคาปรับตัวขึ้นมาพอสมควร แต่
ยังมีมุมมองที่เป็นบวกจากการที่สินเชื่อมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นจากความเชื่อมั่นที่ฟื้นตัว และมาตรการกระตุ้น
เศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่

หุ้นที่น่าสนใจเชิงพื้นฐาน:
        ซื้อ:  PTT, PTTEP, PTTAR, PTTCH, KBANK, SCB, CPN, ITD, LH, LPN, AP, TTA
        หุ้นเด่นเก็งกำไรระยะสั้นวันนี้ (ราคาเป้าหมายทางเทคนิค): 
        หุ้นเด่นสำหรับวันนี้ เรา PTTEP (เป้าหมาย 170 บาท) PTTAR (เป้าหมาย 41 บาท) SHIN
(เป้าหมาย 35 บาท) LH (เป้าหมาย 10 บาท) ITD (เป้าหมาย 10 บาท) LANNA (เป้าหมาย 20
บาท) UMS (เป้าหมาย 38 บาท) ACL (เป้าหมาย 6.1 บาท) TRUE (เป้าหมาย 7 บาท)


บล.กิมเอ็ง

เข้าชม: 2,126

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com