บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) กำไรสุทธิไตรมาส 1/51 ที่ 341 ล้านบาท ทยอยสะสม ราคาปิด (บาท) 55.50 ราคาเป้าหมาย (บาท) 70.00 SET Index 832.11 * กำไรสุทธิลดลง 33% yoy แต่กำไรปกติดีขึ้นจากจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 8% yoyAOT รายงานกำไรสุทธิงวดไตรมาส 1/51 (ต.ค. - ธ.ค. 50) ลดลง 33% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 341 ล้านบาท (0.24 บาท/หุ้น) เพราะงวดไตรมาส 1/50 มีการบันทึกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสูงราว 1 พันล้านบาท ส่วนงวดนี้มีการบันทึกกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพียง 47 ล้านบาท ซึ่งหากไม่รวมรายการนี้ แล้วบริษัทฯจะมีกำไรปกติที่ 294 ล้านบาท (0.21 บาท/หุ้น) ดีขึ้นกว่าปีก่อนที่ขาดทุน 593 ล้านบาท ราย ได้ในไตรมาส 1/51 เพิ่มขึ้น 33% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น 8% yoy และปริมาณเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น 9.2% yoy ขณะที่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นราว 9% yoy ส่งผลให้อัตรากำไรจากการ ดำเนินงานเพิ่มขึ้นเป็น 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 4% * เห็นโอกาสเร็วขึ้นในการรับรู้รายได้ส่วนคิงเพาเวอร์ศาลแพ่งได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อน พิพากษา เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 51 โดยให้ AOT อนุญาตให้คิงเพาเวอร์ เข้าดำเนินกิจการตามสัญญาก่อน หน้านี้ และให้คิงเพาเวอร์ชำระค่าทดแทนแก่ AOT ตามข้อตกลงในสัญญาและให้ถือว่าค่าทดแทนนั้นเป็นส่วน หนึ่งของค่าเสียหายของ AOT ดังนั้นเราคาดว่ามีโอกาสที่จะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 2 * คงประมาณการกำไรปกติทั้งปีที่ 4,840 ล้านบาทเรายังคงคาดการณ์จำนวนผู้โดยสารผ่านท่า จะเพิ่มขึ้น 6% yoy และจำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้นประมาณ 8% yoy เราประมาณการกำไรปกติปี 2550/51 ที่ 4,840 ล้านบาท (3.39 บาท/หุ้น) โดยคาดว่า AOT จะสามารถกลับมารับรู้รายได้จากคิงเพาเวอร์ได้ ราว 3.9 พันล้านบาทและไม่ต้องเสียภาษีซ้ำ โดยที่รายได้ค่าเช่าที่จะเก็บกับ THAI นั้นส่วนหนึ่ง AOT ได้มี การรับรู้ไปในงบปี 2549/50 แล้ว * คงแนะนำเป็น ทยอยสะสม เรามีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นอีกต่อกรณีของคิงเพาเวอร์ที่มีสัญญาณ ว่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดี รวมถึงการเปลี่ยนบอร์ดใหม่ก็มีโอกาสจะทำให้สถานการณ์ต่าง ๆ ในบริษัทเป็น ไปในทิศทางที่เป็นบวกมากขึ้น เราประเมินมูลค่าเหมาะสมโดยใช้วิธีคิดลดกระแสเงินสดระยะเวลา 10 ตั้งแต่ปี 2551 - 2560 ใช้อัตราคิดลดที่ 10% จะได้มูลค่าเหมาะสมเป็น 70 บาท
บล.กิมเอ็ง
|