บมจ. เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) คาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 4/50 ยังแข็งแกร่ง ประกอบกับแนวโน้มการเติบโตระยะยาว
ซื้อ ราคาปิด (บาท) 6.55 ราคาเป้าหมาย (บาท) 8.60 SET Index 829.41
* คาดกำไรปกติไตรมาส 4/50 จะเติบโต 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เราคาดว่า BJC จะมีกำไรปกติในไตรมาส 4/50 เท่ากับ 228 ล้านบาท (กำไรต่อหุ้น 1.81 บาท) ขยายตัว 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเหตุผลหลักมาจากอัตราการใช้กำลังการผลิตของ ธุรกิจการผลิตขวดแก้วที่เพิ่มขึ้นจากเฉลี่ย 79% ในปี 2549 เป็นประมาณ 83%, ต้นทุนการผลิตที่ลดลงหลัง จากบริษัทเปลี่ยนการใช้พลังงานจากเดิมคือน้ำมันเตาไปเป็นก๊าซธรรมชาติ และสัดส่วนของผลิตภัณ์ที่มีอัตรา กำไรขั้นต้นสูงต่อผลผลิตรวมมีการเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามเราประเมินกำไรปกติในไตรมาส 4/50 อย่างอนุรักษ์นิยมว่าจะลดลงจากไตรมาส 3/50 17% เนื่องจากต้นทุนโซดา แอช ซึ่งใช้ผลิตแก้วมีการปรับ ตัวขึ้น 20% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ประกอบกับราคาต้นทุนวัตถุดิบสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น น้ำมันปาล์ม และแป้งมีการปรับตัวสูงขึ้นตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ในขณะเดียวกันเรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2550 ที่ 1,134 ล้านบาท (กำไรต่อหุ้น 7.14 บาท) เติบโต 67% จากปีก่อน
* รวมผลประกอบการของ TBC เข้ากับประมาณการกำไรของเรา เนื่องจากผู้บริหารกล่าวว่าจะมีการรวมผลประกอบการของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจแคน เข้ากับ BJC นับตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา ดังนั้นเราจึงปรับประมาณการผลประกอบการจากเดิมซึ่งรับรู้จากส่วน แบ่งกำไรเป็นการรวมงบการเงิน ซึ่งทำให้คาดการณ์ยอดขายของ BJC เพิ่มขึ้น 17.1% เป็น 20,070 ล้านบาทและกำไรปกติเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเที่ 1.8% เป็น 1,332 ล้านบาท โดยเราเชื่อว่าปัจจัยบวกสำหรับปี 2551 ของบริษัทก็คือ นโยบายการเน้นการส่งออกไปยังตลาดในภูมิภาค การเพิ่มกำลังการผลิตขวดแก้ว 21% เป็นกว่า 900,000 ขวดต่อปีและการเปิดตัวขนมขบเคี้ยวชนิดใหม่ในช่วงปลายไตรมาส 1/51 อย่าง ไรก็ดีปัจจัยความเสี่ยงระยะสั้นของบริษัทก็คือการที่ต้นทุนวัตถุดิบปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทจะต้องใช้ ระยะเวลาในการที่จะส่งผ่านต้นทุนที่สูงขึ้นไปยังลูกค้าได้
* ยังคงคำแนะนำ ซื้อ ที่ราคาเหมาะสม 8.60 บาท แม้ว่าเราจะยังกังวลต่อปัญหาต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น ซึ่งจะไปบั่นทอนอัตรากำไรในระยะสั้น แต่เรา ยังมีความเชื่อมั่นต่อการเติบโตในระยะยาวทั้งจากปัจจัยภายในธุรกิจเดิมที่มีความหลากหลาย และโอกาสใน การเข้าควบรวมกิจการอื่นในอนาคตจากกระแสเงินสดอิสระที่สูงในอนาคตและอัตราหนี้สินต่อทุนในระดับต่ำ ราคาหุ้นได้อ่อนตัวลงมา 12.8% จากจุดสูงสุดในเดือนธันวาคม 2550 ทำให้ขณะนี้มีส่วนต่างจากราคา เหมาะสมของเราที่ 8.60 บาทอยู่ 32.3% นอกจากนี้ราคาหุ้นยังซื้อขายที่ PER ปีนี้เพียง 7.7 เท่าและมี อัตราเงินปันผลตอบแทนที่ 6.2% ดังนั้นเราจึงคงคำแนะนำ ซื้อ สำหรับ BJC
บล.กิมเอ็ง
|