PTTEP (PTT Exploration and Production Public Company.) Sector : Energy
คำแนะนำ : ซื้อลงทุน Fair Value (Bt) : 180.00 Closed Price (Bt) : 148.00 Up-side Gain : 21.62% Dividend Yield 50F : 2.85%
Highlight สำคัญของปี 2551 ไม่ไม่ปัญหาหลังจากบริษัทยืนยันความพร้อม สำหรับการเริ่ม ดำเนินการผลิตแหล่งก๊าซธรรมชาติในโครงการอาทิตย์ ขนาดกำลังการผลิต 300 MMSCFD ในเดือน มี.ค. 51 นี้ ขณะที่ปี 2551 ยังโดดเด่นจากราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับสูง กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจาก 2 โครงการสำคัญได้แก่ โครงการอาทิตย์ และโครงการเวียดนาม 9-2 เป็นปัจจัยหนุนผลประกอบการ แม้ว่า บริษัทจะมีความเสี่ยงจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง โดยเราประเมินผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็ง ค่าขึ้นทุก ๆ 1 บาท จะกระทบกำไรสุทธิ 3.6% ขณะที่เราคาดว่ากำไรสุทธิปี 51 อยู่ที่ 36,602 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 11.10 บาท เพิ่มขึ้น 29%yoy ด้านเงินปันผลปี 51 คาดไว้ที่ 4.22 บาท (Div. Yld. 2.85%) กระแสเงินสด และผลประกอบการที่แข็งแกร่ง มีการขยายตัวของยอดขายในช่วงปี 2551 - 2555 เฉลี่ยปีละ 7% ขณะที่ราคาน้ำมันยังทรงตัวระดับสูง เป็นปัจจัยบวกต่อ PTTEP ทำให้เรายังคงแนะนำ ซื้อลงทุน ด้วยมูลค่าที่เหมาะสมปี 51 ที่ 180 บาท
บริษัทยืนยันเริ่มดำเนินการโครงการอาทิตย์ไม่มีปัญหา คาดเริ่มดำเนินงาน มี.ค. 51 บริษัทให้ความมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับการเริ่มดำเนินงานของแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติ ในโครงการ อาทิตย์ ขนาดกำลังการผลิต 300 MMSCFD โดยจะเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ มี.ค. 51 และ โครงการอาทิตย์เหนือ ขนาดกำลังการผลิต 120 MMSCFD จะเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ ส.ค. 51 และถือเป็นโครงการสำคัญที่มีส่วนผลักดันผลประกอบการปี 2551 แม้ว่าช่วงต้นของการดำเนินงาน ราคาก๊าซในแหล่งอาทิตย์จะต่ำ เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยราคาก๊าซฯ อยู่ที่ 5 เหรียญต่อ MMBTU เราเชื่อว่า แนวโน้มราคาน้ำมันที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น จะทำให้ราคาก๊าซฯ ในแหล่ง อาทิตย์ มีโอกาสปรับขึ้นตามสูตรราคา
ผลประกอบการปี 2551 คาดแข็งแกร่งต่อเนื่อง ทั้งจากราคาที่เพิ่มขึ้น และกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นใน โครงการอาทิตย์ และอาทิตย์เหนือ รวมทั้งโครงการเวียดนาม 9-2 ราคาก๊าซฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นใน Q4/50 อยู่ที่ 5.09 เหรียญต่อ MMBTU เพิ่มขึ้น 18%qoq และ เพิ่มขึ้น 11%yoy ส่วนหนึ่งเป็นการสะท้อนภาพการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งโดย ปกติราคาผลิตภัณฑ์ของ PTTEP จะปรับตัวช้ากว่าราคาน้ำมันประมาณ 6 เดือน ทำให้เรามองว่า แนวโน้ม ราคาก๊าซฯ ในช่วง H1/51 มีแนวโน้มแข็งแกร่งต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นว่า 18% นับจากกลางปี 2550 ที่ผ่านมา โดยราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยเดือน ก.พ. 51 ล่าสุดอยู่ที่ 90.83 เหรียญ ต่อบาร์เรล
ทิศทางของผลประกอบการปี 2551 จะแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกไตรมาส เนื่องจาก 1. ผลประกอบการ Q1/51 ได้รับประโยชน์จากราคาขายเฉลี่ยผลิตภัณฑ์ที่ยังอยู่ในระดับสูงต่อ เนื่องจากปี 2550 รวมทั้งยอดขายก๊าซฯ ที่จะเพิ่มขึ้นจากโครงการอาทิตย์ (ก๊าซธรรมชาติขนาดกำลังการ ผลิต 300 MMSCFD) ในช่วงเดือนมีนาคม 2. ผลประกอบการ Q2/51 รับรู้ปริมาณขายก๊าซฯ จากแหล่งอาทิตย์เต็มไตรมาสเป็นไตรมาส แรก ขณะที่คาดว่าจะมีการปรับเพิ่มราคาก๊าซในแหล่งบงกช ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น 3. ผลประกอบการ Q3/51 และ Q4/51 ยอดขายเพิ่มขึ้นจากโครงการอาทิตย์เหนือ (ก๊าซ ธรรมชาติขนาดกำลังการผลิต 300 MMSCFD) และโครงการเวียดนาม 9-2 (น้ำมันดิบ ขนาดกำลังการ ผลิต 20,000 บาร์เรลต่อวัน) นอกจากนี้ใน Q4/51 หากราคาน้ำมันในช่วงต้น - กลางปี 2551 มีทิศทาง การปรับตัวเพิ่มขึ้น ก็จะทำให้มีการปรับราคาก๊าซอีกครั้งในเดือน ต.ค. 51 ทำให้เราคาดว่าผลประกอบการปี 2551 บริษัทจะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 36,602 ล้านบาท กำไรต่อ หุ้น 11.10 บาท เพิ่มขึ้น 29%yoy โดยคาดว่ายอดขายรวมจะอยู่ที่ 216,900 บาร์เรลต่อวัน ต่ำกว่าที่ บริษัทคาดหมายไว้ 10% โดยบริษัทคาดยอดขายปี 2551 ไว้ที่ 241,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นการ ประเมินแบบ Conservative ขณะที่เราให้สมมติฐานราคาน้ำมันดิบไว้ที่ 70 เหรียญต่อบาร์เรล
มีความเป็นไปได้ที่บริษัทจะมีการบริหารความเสี่ยงในการลงทุน โดยการแลกหุ้นกับแหล่งปิโตรเลียมอื่น ที่มี ศักยภาพ โดยเฉพาะโครงการในพม่า ที่ใช้เงินลงทุนสูงมาก ในอนาคตมีความเป็นไปได้ที่บริษัทจะลดสัดส่วนการลงทุนในแหล่งปิโตรเลียมบางแห่ง เพื่อลด ความเสี่ยงทางด้านการเงิน เนื่องจากในบางแหล่งจำเป็นต้องใช้เม็ดเงินลงทุนสูง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อ แผนการใช้เงินของบริษัท อย่างไรก็ตามจากการสอบถามทางบริษัท แม้ว่าจะมีการลดสัดส่วนแต่บริษัทยังเป็น ผู้ถือหุ้นหลัก โดยเฉพาะในแหล่ง M9 ในประเทศพม่า ซึ่งแนวทางอาจจะมีการขอแลกกับแหล่งปิโตรเลียมที่มี ศักยภาพ เนื่องจากการพัฒนาแหล่ง M9 จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนกว่า 1,500 ล้านเหรียญ ซึ่งจะทำให้ กระทบต่อแผนการใช้เงินของบริษัท
ยังให้น้ำหนักการลงทุนจากการขยายตัวของยอดขายอย่างต่อเนื่อง แนะนำ ซื้อลงทุน เป็นบริษัทที่เราให้น้ำหนักการลงทุนสูง จากการขยายตัวของผลประกอบการในปี 2551 กว่า 29%yoy นอกจากนี้การขยายการลงทุนในช่วงที่ผ่านมา จะเริ่มส่งผลต่อยอดขายที่จะเพิ่มขึ้นในช่วง 2551 - 2555 จากโครงการอาทิตย์ และอาทิตย์เหนือ รวมทั้งโครงการเวียดนาม 9-2 ที่จะเข้าในปี 2551 โครงการ MTJDA จะเข้า H2/52 รวมทั้งโครงการเวียดนาม 16-1 โครงการแอลจีเลีย โครงการ M9 ในประเทศพม่า จะเริ่มทยอยเข้ามาระหว่างปี 2553 - 2555 หนุนยอดขายให้เติบโตต่อเนื่องเฉลี่ย 7% ต่อปี เราประเมินราคาที่เหมาะสมของ PTTEP ไว้ที่ 180 บาท (Upside Gain 22%) ขณะที่เราคาดว่าเงิน ปันผลสำหรับปี 2551 ไว้ที่ 4.22 บาท (Div. Yld. 2.85%) กระแสเงินสดที่แข็งแกร่งของบริษัท รวม ทั้งการขยายงานในแหล่งปิโตรเลียมอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ Success Ratio ของบริษัทยังอยู่ในระดับสูง โดยในปี 2550 ที่ผ่านมาบริษัทมีการสำรวจ 51 หลุม สำเร็จ 36 หลุม คิดเป็น 71% ขณะที่ในปี 2551 บริษัทจะขุดเจาะเพิ่มอีก 61 หลุม ซึ่งจะส่งผลดีต่อยอดขายในอนาคตของบริษัท ทำให้เรายังคงคำแนะนำ ซื้อลงทุน
บล.เกียรตินาคิน |