March 29, 2024   6:00:48 AM ICT
CKฟาดกำไร2เด้งขายหุ้นน้ำประปาฯ

"ช.การช่าง"ฟันกำไร 2 ต่อ เด้งแรกขายหุ้น"น้ำประปาปทุมธานี"ให้ TTW เอาเงินเข้ากระเป๋า 600 ล้านบาทเด้งสองขายไอพีโอน้ำประปาไทยปลายปีนี้ "ประเสริฐ"ส่งซิกจ่ายปันผลครึ่งปีแรก หากกำไรเป็นบวกและล้างขาดทุนสะสมหมด
          นายประเสริฐ มริตตนะพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบัญชีและการเงินบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2 บริษัทจะรับรู้รายได้จากการขายหุ้นน้ำประปาปทุมธานี (TPW) จำนวน 5.06 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ340 บาท คิดเป็นเงินประมาณ 1,720 ล้านบาท ให้กับบมจ.น้ำประปาไทย หรือ TTWโดยต้นทุนในการขายหุ้น TPW อยู่ที่ 220 บาทต่อหุ้น ทำให้มีกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 120 บาทหรือประมาณ 607 ล้านบาท
          ขณะเดียวกัน CK ยังเหลือหุ้นใน TPW เพื่อรอขายให้กับน้ำประปาไทยอีก 5 แสนหุ้นคาดว่าภายในสิ้นปีนี้น่าจะขายออกมาได้ทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะมีกำไรจากการขายหุ้นในครั้งนี้ประมาณ 60 ล้านบาท (120 บาท คูณ 5 แสนหุ้น) นอกจากนี้ในช่วงปลายปีนี้ บริษัทยังจะรับรู้รายได้จากการนำหุ้นของ TTW ออกมาเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก(IPO) จำนวน 1,000 ล้านหุ้น แบ่งเป็นหุ้นใหม่ 700 ล้านหุ้น และส่วนของผู้ถือหุ้นเดิม300 ล้านหุ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินราคาไอพีโอใหม่ หลังจาก TTW เข้าไปซื้อหุ้นของน้ำประปาปทุมธานี
          ทั้งนี้ มีการประเมินกันว่า CK จะมีกำไรจากการนำหุ้น TTW เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 268 ล้านบาท ภายใต้สมมติฐานราคาไอพีโออยู่ที่ 4 บาทโดยหักต้นทุนที่ 2.10 บาท ทำให้มีกำไรต่อหุ้น 1.90 บาท คูณกับจำนวนหุ้นในส่วนที่ CKถืออยู่และนำออกมาขาย 141 ล้านหุ้น (300 ล้านหุ้น คูณ 47%)
          โดยปัจจุบันกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ใน TTW แบ่งเป็น บมจ.ช.การช่าง 47% มิตซุย วอเตอร์ โฮลดิ้งส์ 35% บมจ.ทางด่วนกรุงเทพ 12.5% ธนาคารกรุงเทพ 2.5% และธนาคารทหารไทย 2.3%
          "เราคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2 จะออกมาค่อนข้างดีมาก เพราะมีกำไรพิเศษเข้ามา แต่หากดูเฉพาะผลประกอบการของช.การช่างอย่างเดียว จะใกล้เคียงกับไตรมาสแรก โดยรายได้หลักๆ มาจากค่าก่อสร้างถนนวงแหวน ก่อสร้างถนนในกัมพูชาและก่อสร้างโครงการน้ำงึม 2 ในลาว เป็นหลัก และหากผลประกอบการในไตรมาส 2ออกมาดี และล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ประมาณ 35 ล้านบาทหมด มีความเป็นไปได้ที่บริษัทจะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้นได้"
          สำหรับผลประกอบการรวมในไตรมาสแรกของ CK มีรายได้รวม 4,500 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิรวม 35 ล้านบาท แต่หากนับเฉพาะงบการเงินของ CK เพียงอย่างเดียวขาดทุนสุทธิ 35 ล้านบาท
          นอกจากนี้ นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า ขณะนี้บริษัทเตรียมเข้าประมูลงานในหลายโครงการ เช่น การก่อสร้างรถไฟฟ้าทั้ง 5 สาย โดยอยู่ระหว่างการเจรจากับทางพันธมิตรรายเดิมเพื่อเข้าร่วมประมูลงานดังกล่าว ขณะเดียวกันกำลังรอประกาศผลการประมูลโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลศิริราชมูลค่า 5,000 ล้านบาท คาดว่าจะทราบผลภายในเดือนมิถุนายนนี้ รวมถึงรอเซ็นสัญญาโครงการด่านเก็บเงินวงแหวนใต้ประมาณ 2,000ล้านบาท
          ส่วนการศึกษาและพัฒนาโครงการเขื่อนน้ำบาก 1 และน้ำบาก 2 ในประเทศลาวและโครงการก่อสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้าไซยะบุรีนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดในการก่อสร้างโครงการดังกล่าวคาดว่าจะใช้เวลาในการศึกษาประมาณ 18 เดือน
          นายประเสริฐ กล่าวถึงกรณีบมจ.แนเชอรัลพาร์ค หรือ N-PARK จะขายหุ้นในส่วนของ BMCL ว่า ขณะนี้ได้รับการติดต่อจากทางกลุ่มผู้ถือหุ้นดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่ได้สรุปว่าจะเข้าไปซื้อต่อหรือไม่ เพราะต้องดูราคาขายเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม หากซื้อ CK จะไม่เข้าไปซื้อหุ้นเองทั้งหมด เพราะปัจจุบัน CK ถือหุ้นอยู่ใน BMCL ประมาณ 24.5% ซึ่งหากถือหุ้นเกิน 25% จะต้องทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์ แต่อาจจะให้กลุ่มพันธมิตรเข้าไปซื้อหุ้นแทนส่วนจะเป็นกลุ่มใดนั้นยังไม่ได้พูดคุยกัน
          โดยกลุ่ม N-PARK ถือหุ้นอยู่ใน BMCL ประมาณ 820 ล้านหุ้น คิดเป็น 6.86% ของหุ้นทั้งหมด ซึ่งการขายหุ้นดังกล่าวออกมาเพื่อต้องการปรับโครงสร้างการเงินภายในN-PARK

 ข่าวหุ้น

เข้าชม: 3,086

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com