หุ้น IRPC ไม่มีอะไน่าเป็นห่วงถึงเวลาไปต่อ เป้าหมายใหม่ไม่ต่ำ 7 บาท มีอัพไซด์ 18%หลังยืนเหนือ 6 บาทจนได้ ปัจจัยพื้นฐานดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนข่าวลือ"บิ๊กหมง"ลาออกไม่มีผล โบรกให้น้ำหนักซื้อลงทุนรับกำไรปีนี้โตไม่ต่ำ 60%
          หุ้นบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด(มหาชน)หรือ IRPC เริ่มเห็นทิศทางขาขึ้นหลังจากผ่านแนวต้าน 6 บาทมาได้ จากเดิมย้ำฐานอยู่ที่ 5.50-5.80 บาท ทำให้เป้าหมายต่อไปอยู่ที่7 บาท นั่นหมายถึงมีอัพไซด์กว่า 18% เมื่อเทียบราคาปิดล่าสุด 6.15 บาท แม้ช่วงที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบเชิงจิตวิทยากรณีข่าวลือการลาออกของพล.อ.มงคล อัมพรพิศิษฐ์ ประธานบอร์ดแต่หลายฝ่ายเชื่อว่าไม่มีผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐาน IRPC อย่างมีนัยสำคัญ
          ขณะเดียวแรงตอบรับจากการขายหุ้นกู้ 250 ล้านบาทเข้ามาอย่างล้นทะลัก จึงเป็นปัจจัยสนับสนุนต่อการลงทุนมากยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ผลกระทบจากความเคลื่อนไหวของผู้ถือหุ้นเดิมไม่ได้ทำให้พื้นฐานหุ้น IRPC เปลี่ยนแปลงแต่อย่างไร นอกจากนี้ผลประกอบมีแนวโน้มกำไรโตไม่ต่ำกว่า 60%
          โดยบริษัทหลักทรัพย์นครหลวงไทย แนะนำซื้อลงทุน ด้วยมูลค่าหุ้นเหมาะสมปี 2550อยู่ที่ 7.86 บาทหลังจาก IRPC ได้ทำการลงนามซื้อขายน้ำมันกับริษัท Xishuangbannagas&petroleum industrial เป็นเวลา 3 ปี นอกจากนี้ IRPC จะทำการส่งออกน้ำมันดีเซลกำมะถันสูง ที่ผลิตได้ไปขายด้วยเช่นกัน
          ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวเป็นการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้กับ IRPC รวมถึงเป็นการเพิ่มตลาดที่สามารถรองรับผลิตภัณฑ์ที่สามารถผลิต แต่ไม่สามารถจำหน่ายได้ในประเทศไทย เนื่องจากติดปัญหาเรื่องเกณฑ์มาตรฐานในประเทศ ซึ่งช่วยให้ IRPC สามารถใช้กำลังการผลิตได้เต็มที่มากขึ้นเป็นผลให้เกิด Economy of scale ในการผลิต ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้และลดค่าใช้จ่ายให้ IRPC ในอนาคตหากมีการส่งออกได้มากขึ้น
          โดยมีจุดเด่นการเป็นหุ้น Turnaround ที่คาดว่าผลประกอบการปี50 เติบโต 62%นอกจากนี้มี Upside จากการประมูลโรงไฟฟ้าภาคเอกชนขนาดใหญ่(ไอพีพี) ที่รัฐบาลส่งเสริม ให้มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน เนื่องจากโรงงาน IRPC อยู่ห่างจากพื้นที่ชุมชนและมีท่าเรือน้ำลึกสำหรับขนส่งถ่านหินได้

          ขณะที่บริษัทหลกัทรัพย์เอเซียพลัส ประเมินว่า IRPC ประสบความสำเร็จการเสนอขายหุ้นกู้วงเงิน 250 ล้านเหรียญสหรัฐหรือราว 8,700 ล้านบาท อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 6.37% ที่สิงคโปร์ ฮ่องกงและลอนดอน ระหว่าง 17-23 พ.ค.50 ที่ผ่านมา โดยมีนักลงทุนสนใจจองซื้อกว่า 6 เท่า
          โดยฟิทช์เรตติ้ง(ประเทศไทย) ให้อันดับเครดิตภายในประเทศที่ A- และระยะสั้นที่ F2 แนวโน้มเสถียรภาพเป็นปัจจัยบวกต่อ IRPC เนื่องจากบริษัทจะใช้เงินจากการออกหุ้นกู้ดังกล่าวไปชำระคืนหนี้เงินระยะสั้นเดิมบางส่วน มูลค่า 800 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่ครบกำหนดชำระคืนเดือนก.ย.50 นี้ แบ่งเป็นเงินกู้ระยะสั้นกับธนาคารพาณิชย์ ในประเทศ 6แห่ง มูลค่า 1.52 หมื่นล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย MLR -1.75%และเงินกู้ระยะสั้นกับธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ 2 แห่งมูลค่า 4.72 หมื่นล้านเยน(ประมาณ 1.44 หมื่นล้านบาท)อัตราดอกเบี้ย LIBOR+0.4%
          อย่างไรก็ตามอัตราดอกเบี้ย สำหรับหุ้นกู้ที่ออกไป สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยเดิมที่ 5.47% ไม่ได้มีนัยสำคัญทำให้ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรสุทธิเท่าเดิมสำหรับปี50-51 สำหรับเงินกู้ระยะสั้นที่เหลืออีก 550 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่ามาจากการใช้เงินกู้ยืมในประเทศ
          โดยแนะนำซื้อลงทุนหุ้น IRPC โดยแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/50 คาดว่ายังทรงตัวระดับสูงต่อเนื่องจากงวดที่ผ่านมา ผลักดันด้วยธุรกิจปิโตรเลียม จากการที่ค่าการกลั่นยืนระดับสูงเฉลี่ย 9.90 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลและเพิ่มขึ้น 45% แม้ธุรกิจปิโตรเคมีคาดว่าจะอ่อนตัวลง เนื่องจากแนวโน้ม Spread ที่คาดว่าจะลดลงเนื่องจากการปรับตัวขึ้นของราคาแนฟทาที่รวดเร็วกว่าราคาเม็ดพลาสติกส่วนใหญ่อาทิ PP,PE และ ABS
          ประเมินป้าหมายหุ้น IRPCโบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมายเคจีไอ ขาย 6 บาทโกลเบล็ก ถือ 6.10 บาทยูไนเต็ด ถือ 7 บาทฟิลลิป ซื้อ 6.80 บาทสินเอเซีย ถือ 6.53 บาทเกียรตินาคิน ซื้อ 7 บาทนครหลวงไทย ซื้อ 7.86 บาทกิมเอ็ง เต็มมูลค่า 5.10 บาท